- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2013-1-26
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2016-3-21
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 162
- สำคัญ
- 0
- UID
- 10617

|
2 }' a' B5 M2 u7 v/ @/ g
ผมมีเรื่องอีกเหตุการณ์หนึ่งที่จะเล่าให้ฟังเพื่อเป็นการคั่นรายการเป็นเรื่องของสุนัขนรก สุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ ตามสายตาของคนเราผมอ่านหนังสือหลากหลายเล่มมีพูดถึงนรกมากมาย แต่มีการพูดถึงสุนัขในนรกกันน้อยมาก ผมเห็นว่าสุนัขนรก เขาเองก็ต้องรับกรรมเหมือนกันกับสัตว์นรกโดยทั่วไปแต่อาจจะมีสภาพที่สุขสบายกว่าหน่อยแต่ก็ยังมีสภาพเป็นสัตว์นรก ผมมีโอกาสท่องเที่ยวติดแดนนรกอยู่บ่อยครั้งมีเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง ผมลงไปดูดินแดนของคนทำแท้งของผู้ชายที่มีส่วนในการทำแท้ง ผมกำลังหาข้อมูลอยู่โดยการสอบถามนายนิรยบาลสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็คือมีสุนัขตัวใหญ่สีดำสีของมันดำจริงๆ ดำแบบสนิทเลยดวงตาสีแดง แดงแบบสีสดวาวมีแสงเหมือนเราส่องไฟใส่ แบบนั้นแหละวิ่งเข้ามาเร็วมาก จนผมตกใจกลัวว่าผมจะถูกทำร้ายก็เลยยกมือขึ้นเพื่อป้องกันตัว แต่ที่ไหนได้สุนัขตัวนั้นเข้ามาเลียที่มือของผม แสดงอาการดีใจอย่างมาก ผมเองก็งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมจึงยกมือลูบไปที่หัวของสุนัขนั้น ผมรู้สึกถึงความแข็งของขนแต่ละเส้นเหมือนหนามตะบองเพชรไม่มีผิด เมื่อมีมาตัวหนึ่งตัวอื่นๆ ก็ตามมาเลียที่มือ บางตัวก็เห่าแสดงความดีใจออกมา ผมเห็นดังนั้นจึงอุทิศบุญให้กับสุนัขเหล่านั้น มีสุนัขบางตัวขนก็มีลักษณะเป็นเกล็ดเหมือนตัวนิ่ม มีลักษณะไม่เหมือนกัน ทำให้ผมเกิดความสงสัยเป็นอย่างมากว่าสุนัขนรกเกิดมาเพราะอะไร และเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ผมถอนจิตขึ้นมาพร้อมทั้งเก็บข้อสงสัยไว้ภายในใจ ผมเว้นจากเหตุการณ์นั้นไปนาน เพราะมัวแต่แก้ปัญหาเรื่องของไสยเวทย์อยู่เลยไม่ได้สนใจอีก จนอยู่มาวันหนึ่งระหว่างผมนั่งทำงานอยู่ผมก็สัมผัสได้กับพลังบางอย่าง ทำให้ผมต้องทำสมาธิเพื่อตรวจสอบก็ปรากฏคนใส่ชุดดำท่าทางน่าเกรงขาม มายืนอยู่ใกล้ๆ กับผม ผมกล่าวสวัสดีท่านก็สวัสดีทักทายกลับมา ผมก็ทราบว่าท่านเป็นใครท่านเป็นเทวทูตที่ทำงานในนรกนั่นเอง ท่านมีหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อย ของดวงวิญญาณบนโลกมนุษย์
. B8 { O" p- _& B ผม : วันนี้ท่านมารับใครครับ
: U! T u( J+ p& F& g8 `) I เทวทูต : บอกไม่ได้6 k1 A* x, A9 ~) z) K( Y7 A1 x
ผม : ถ้าอย่างนั้นท่านมาทำอะไร$ n9 m; W( b$ S1 Q& Q& L
เทวทูต : มีงานแถบนี้เลยแวะมาเยี่ยม! f- B5 n0 p. x/ B( I7 c
ผม : (ยิ้ม) มารับใครก็ได้ยกเว้นผม! U" Q% o4 x9 y! a4 ] D
เทวทูต : (ยิ้ม) เราไปแล้วเห็นว่าสบายดีก็ดีแล้ว
; p) S5 V. W4 A& x, C) z ผม : ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญ& A! y; }. Q! y
ของข้าพเจ้าส่งมายังท่านเทวทูตนี้ด้วยเทอญ
2 w* Y3 U4 \/ y# J เทวทูต : (ยิ้ม) แล้วจากไป7 `8 y9 U+ v$ j/ F9 b
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมนึกถึงสุนัขนรกที่ผมไปพบเจอดังกล่าวทำให้ผมต้องกลับมาเรื่องสุนัขนรกอีกครั้ง ผมกลับมายังที่พักผมจึงรีบจัดการกับภารกิจส่วนตัวต่างๆ ให้เรียบร้อยจนภารกิจต่างๆ เสร็จสิ้นลงจึงกราบพระต่อจากนั้นทำสมาธิเพื่อนำข้อมูลเพื่อมาบอก และตอบข้อสงสัยของผม สุนัขนรกเป็นสัตว์ที่ทำหน้าที่ภายในนรก บ้างทำหน้าที่เฝ้ายามหน้าประตูของทางเข้านรก บ้างทำหน้าที่ขับไล่ดวงวิญญาณที่ดินแดนนรกขุมกาเมหรือขุมผู้ที่กระทำผิดในกาม ผมจะขอเล่าถึงสุนัขที่ทำงานอยู่ในขุมของผู้ที่ทำผิดในกาม ผมว่าเหมาะสมที่สุดกับยุคสมัยของเดี๋ยวนี้ก่อนที่ผมจะลงไปนรกทุกครั้งผมจะขออนุญาตท่านพญายมราชก่อนทุกครั้งขออนุญาตท่านพญายมราชเรียบร้อยแล้ว ผมก็มานั่งอยู่บริเวณแท่นหินศิลาสีดำที่เหมือนห้องโถง ท่านที่นึกไม่ออกก็นึกถึงถ้ำนั่นแหละแต่ลักษณะถ้ำมีแท่นศิลาแท่นเดียว ผมจึงนั่งที่แท่นศิลานั่นต่อจากนั้นผมก็นึกถึงสุนัขนรก แค่นึกเท่านั้นสุนัขฝูงใหญ่ที่มีจำนวนหลายตัว แต่ละตัวใหญ่สูงประมาณ 1 เมตร ก็น่าจะขนาดเท่าลูกวัวนั่นแหละ ที่เหมือนกันคือแต่ละตัวมีสีดำ ดวงตาสีแดง เขี้ยวสีขาวเหมือนเพชร ต่างมาถึงบริเวณที่ผมนั่งอยู่สุนัขเหล่านั้นพากันส่งเสียงแสดงความดีใจและนั่งลงตรงบริเวณด้านหน้าของผมคาดคะเนแล้วจำนวนก็น่าจะเป็นร้อยอยู่ ผมจึงอุทิศบุญก่อนเป็นอันดับแรก ผมใช้มือลูบลงไปบริเวณหัวของสุนัขตัวที่ใกล้ตัวผม ทำให้ผมสังเกตว่าขนของสุนัขนรกแข็งมาก บางตัวมีขนเหมือนเกล็ดคล้ายตัวนิ่ม แต่ละเกล็ดมีความคมมากเหมือนมีดโกนเลย ผมอยากจะคุยกับพวกเขาแต่ก็นึกว่าจะทำอย่างไรถึงสามารถคุยกับพวกเขาได้ เพราะผมคิดว่าจะเหมือนบนโลกหรือเปล่าที่คนไม่สามารถคุยกับสัตว์ได้ แต่ที่ไหนได้แค่คิดก็มีเสียงตอบออกมา ท่านสามารถคุยกับพวกเราได้ทำให้ผมถึงบางอ้อ ว่าเขาคุยกันทางจิตไม่ได้คุยทางปาก ถ้าเช่นนั้นเราสามารถคุยกันได้สบายมาก ผมจึงถามว่าจะมีใครสามารถคุยกับผมได้บ้างไหม ตัวที่อยู่ด้านหน้าสุดเอ่ยขึ้นมาผมเอง. @0 n. C: g1 w4 u
ผม : สวัสดีเธอมีชื่อไหม$ a. p% O. y& O+ T2 i8 f6 H
ดำ : ไม่มีชื่อครับ2 ~ {. v) N. v$ S: _
ผม : ไม่มีชื่อถ้าเช่นนั้นเราเรียกเธอว่าดำนะ
: y J- e+ q6 C- X( H ดำ : ตามใจท่าน
/ }6 m1 W. S7 D, F* [ ผม : เธอมาอยู่ยังดินแดนนี้ได้อย่างไร/ P Z& b) p& z( H& X T
ดำ : ผมมาอยู่ที่นี้เพราะกรรมบันดาลให้มาอยู่ดินแดนนี้เพราะกรรมข้อกาเม9 c8 A8 P3 t& i+ h$ [) X: W
ผม : เธอทำกรรมอะไรพอบอกได้ไหม+ C1 n+ o& {% G2 N0 s
ดำ : ได้ครับ กรรมของผมก็คือเสพกามกับสุนัข จึงทำให้ผมต้องมาเป็นสุนัขในดินแดน/ a- T& C {! r( I
นรก
. R+ Y" |3 @( e3 R ผม : อ้อเธอเลยมาอยู่ยังดินแดนการลงโทษเรื่องกามนั่นเอง: w* K3 t* |% d* S
ดำ : ใช่ครับ เพราะผมไม่สำรวมในกาม' W8 D+ u+ j# L: C T% O/ `- @
ผม : ยังมีโทษอื่นๆ อีกไหม
' F7 R8 {3 i: |0 Q3 h ดำ : มีครับอย่างตัวนั้น เขาข่มขืนหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาเขาไปชดใช้กรรมจากนั้นเขาก็มา$ [8 O1 g6 k% O q" y( ~6 j/ k
รับกรรมเป็นสุนัขนรก
( s9 U9 p2 D; ^4 C7 f( w ผม : พวกเธอตายจากมนุษย์แล้วมาเกิดเป็นสุนัขนรกเลยไหม
: ?. L9 _* A5 X @( N ดำ : ไม่ใช่ครับ พวกเราต้องรับโทษในนรกก่อน จากนั้นถึงมาเกิดเป็นสุนัขนรกอย่างที่
4 K" d1 ?2 I8 J% H8 ~1 Z( tท่านเห็น+ U% B2 { l$ T9 R+ ^. t/ k
ผม : เราเข้าใจแล้ว ส่วนใหญ่เป็นกรรมในเรื่องของกาม การไม่สำรวมในกามเป็น
4 f8 l3 y0 V; ?2 dอย่างสัตว์ที่ไม่สำรวยในกาม ก็เลยต้องเกิดมาเป็นสัตว์เพื่อชดใช้กรรมที่ตนเอง
" Z+ l0 L* @3 K( {7 Fกระทำ ยังมีกรรมอื่นอีกไหม
9 F' b$ L$ L3 {0 l- g ดำ : มีครับ อย่างสองตัวนี้ เสพกามกันหลังโบสถ์ก็เลยต้องมาเป็นสุนัขนรกกันทั้งคู่: ]0 n9 S2 a7 l1 Z
ผม : นี่ก็ได้เวลาอันควรแล้วเราต้องขอลากลับมาก่อนถ้ามีโอกาส เราคงมาพบกันอีก
; _6 q% r- C3 R m" Yครั้ง ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญ/ y$ Z" H3 f# M9 m7 y
ของข้าพเจ้าส่งมาถึงสุนัขเหล่านี้ด้วยเทอญ3 d: k- O3 I$ S) i6 P0 D
ดำ : ท่านยังไม่ไปไม่ได้หรือครับ
G; Y9 r0 y2 m2 c ผม : เธอจะอู้งานล่ะสิ
) N) V5 X R+ I) Z2 }1 x ดำ : แหมรู้ทัน
9 P' F, d+ h% k1 E ผม : เราไปแล้ว , }& v4 v, Q5 h; k* Y. F
ดำ : ขอบคุณท่านมาก แล้วมาหาพวกเราอีกนะครับ ผมจากที่แห่งนั้นมาพร้อมกับคืนสติ หลังจากที่ผมได้เรียนรู้เรื่องราวการเกิดเป็นสุนัขนรก ทำให้ผมกลัวเรื่องความสำรวมในกามมากขึ้น และยังนึกสะเทือนใจมากขึ้น เมื่อนึกขึ้นมาว่ามนุษย์สมัยนี้มากไปด้วยกามเหลือเกินมองเรื่องเพศเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต มองเรื่องเพศไม่ใช่เรื่องละอาย แล้วเช่นนี้สุนัขนรกคงเกิดขึ้นมามากตามมาด้วย นี้แหละหนามนุษย์เมื่อตนเองยังไม่ได้รับทุกข์ก็บอกว่าไม่จริงแต่เมื่อทุกข์นั้นเกิดก็ร้องแร่แห่กระเชอให้คนอื่นช่วย แล้วใครล่ะจะช่วย% B+ _4 p% C6 d( d9 q: s5 f
) T f8 b1 m2 p; _. m# a) V
|
|