แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 14818|ตอบ: 28
go

วัดประจำรัชกาลที่ 1-9 [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-1-23 16:47  

เจดีย์.JPG แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-1-23 12:27  

แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-1-23 12:20  

ขอเริ่มจาก วัดราชบพิธสถิตรมหาสีมาราม เป็นวัดประจำรัชกาลที่7อันที่จริงแล้วบางท่านก็ว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5
อุโบสถ.JPG พระประธาน.JPG วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร” คำว่า “ราชบพิธ” หมายถึง พระราชาทรงสร้าง ซึ่งก็คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับพระอัครมเหสี พระราชเทวี และเจ้าจอมพระสนมเอกของพระองค์ ส่วน “สถิตมหาสีมาราม” ก็คือเป็นวัดที่ประดิษฐานเสมาขนาดใหญ่ และตามปกติแล้ว เสมาของวัดโดยทั่วไปจะอยู่ตามมุม หรือติดอยู่กับตัวพระอุโบสถ แต่เสมาของวัดนี้ตั้งอยู่บนกำแพงรอบวัดถึง 8 ด้าน จึงเป็นการขยายเขตทำสังฆกรรมของสงฆ์ให้กว้างขึ้น
      
       วัดนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 เท่านั้น แต่ยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 7 อีกพระองค์หนึ่งด้วย เพราะในรัชสมัยของ ร.7 มิได้มีการสร้างวัด แต่ท่านก็ได้รับพระราชภาระในการทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบพิธนี้ด้วย ดังนั้นจึงถือวัดนี้เป็นวัดประจำพระองค์ด้วยเช่นกัน

อุโบสถ.JPG (61 KB, จำนวนดาวน์โหลด: 31)

อุโบสถ.JPG

พระประธาน.JPG (69.57 KB, จำนวนดาวน์โหลด: 30)

พระประธาน.JPG

Rank: 1

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร” คำว่า “ราชบพิธ” หมายถึง พระราชาทรงสร้าง ซึ่งก็คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับพระอัครมเหสี พระราชเทวี และเจ้าจอมพระสนมเอกของพระองค์ ส่วน “สถิตมหาสีมาราม” ก็คือเป็นวัดที่ประดิษฐานเสมาขนาดใหญ่ และตามปกติแล้ว เสมาของวัดโดยทั่วไปจะอยู่ตามมุม หรือติดอยู่กับตัวพระอุโบสถ แต่เสมาของวัดนี้ตั้งอยู่บนกำแพงรอบวัดถึง 8 ด้าน จึงเป็นการขยายเขตทำสังฆกรรมของสงฆ์ให้กว้างขึ้น
      
       วัดนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 เท่านั้น แต่ยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 7 อีกพระองค์หนึ่งด้วย เพราะในรัชสมัยของ ร.7 มิได้มีการสร้างวัด แต่ท่านก็ได้รับพระราชภาระในการทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบพิธนี้ด้วย ดังนั้นจึงถือวัดนี้เป็นวัดประจำพระองค์ด้วยเช่นกัน

Rank: 1

วัดราชบพิธ ตั้งอยู่ที่ถนนเฟื่องนคร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กทม. ข้างกระทรวงมหาดไทย มีรถเมล์สาย 2 ผ่าน
พระประธานในพระอุโบสถนี้มีนามว่า “พระพุทธอังคีรส” แปลว่า มีรัศมีซ่านออกจากพระวรกาย  พระพุทธอังคีรสประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีหินอ่อนจากอิตาลี โดยที่ใต้ฐานพระได้บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ด้วยกัน เช่น พระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 2 รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7

       พระเจดีย์ ทรงกลม ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบลายเบญจรงค์สวยงาม บนยอดปลีเป็นลูกแก้วกลมครอบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ ส่วนฐานเจาะเป็นซุ้มคูหา 16 ซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ สำหรับด้านในพระเจดีย์นั้น มีพระพุทธรูปศิลาสมัยลพบุรี ปางนาคปรกอยู่ด้วย 4 องค์ ซึ่งเล่ากันมาว่าขุดพบใต้ต้นตะเคียนริมคลองหลอด และเชื่อกันว่าคนที่อยากมีลูกให้มาขอพรที่นี่ก็จะได้มีลูกสมใจ

สิ่งที่น่าสนใจอย่างมากอีกอย่างหนึ่งที่วัดราชบพิธที่แตกต่างจากวัดอื่นๆ ก็คือ ที่วัดแห่งนี้มีสุสานหลวงตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตก สุสานหลวง นี้เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ซึ่งรัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างไว้เพื่อประดิษฐานพระสรีรังคารแห่งสายพระราชสกุลในพระองค์ ซึ่งอนุสาวรีย์เหล่านั้นก็มีรูปทรงที่หลากหลาย มีทั้งแบบไทย แบบฝรั่ง หรือแม้แต่แบบขอมก็มี ซึ่งอนุสาวรีย์บางส่วนก็ได้สร้างขึ้นเองภายหลังบ้าง
      
       อนุสาวรีย์ที่ว่านั้นก็มีอนุสาวรีย์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ราชสกุลอาภากร อนุสาวรีย์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี อนุสาวรีย์สุขุมาลนฤมิตร์ ราชสกุลบริพัตร อนุสาวรีย์รังษีวัฒนา ราชสกุลมหิดล ซึ่งมีพระสรีรังคารของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือพระราชบิดาและพระราชมารดาของในหลวงอยู่ด้วย
      
       ส่วนอนุสาวรีย์รูปร่างเหมือนปรางค์สามยอดแบบขอมนั้นเป็นของราชสกุลยุคล และล่าสุดอังคารของ ม.ร.ว.อดุลยกิติ์ กิติยากร พระบิดาของพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ก็ได้นำมาไว้ในอนุสาวรีย์ของราชสกุลกิติยากร และอัฐิของคุณพุ่ม เจนเซ่น ก็ได้นำมาไว้ ณ อนุสาวรีย์นี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็เป็นอนุสาวรีย์ของราชสกุลอื่นๆ รวมทั้งหมด 36 องค์

       พระอุโบสถของวัดราชบพิธจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะในวันสำคัญทางศาสนาและวันพระเท่านั้น สนใจสอบถามรายละเอียด โทร. 0-2222-3930
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9480000146083

Rank: 1

แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-1-23 16:01  

Image2.jpg กระเบื้องเคลือบ.JPG Image3.jpg

Image2.jpg (23.28 KB, จำนวนดาวน์โหลด: 30)

Image2.jpg

Rank: 1

เจดีย์.jpg พระอุโบสถ.jpg พระประธาน.JPG ถวายดอกไม้.JPG วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม " พระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ข้างสวนสราญรมย์ เป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๗ เพื่อเป็นวัดธรรมยุตินิกาย เพื่อให้เจ้านายและข้าราชการทั้งฝ่ายนอก และฝ่ายใน ได้บำเพ็ญกุศลกันได้สะดวกขึ้น เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังและทรงพระราชทานนามว่า " วัดราชประดิษฐ์สถิตธรรมยุติการาม " ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น " วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม " เนื่องจากพระราชประเพณีโบราณกล่าวไว้ว่า ราชธานีไทยจะต้องมีวัดสำคัญอยู่ 3 วัด คือ วัดมหาธาตุ วัดราชประดิษฐ์ และวัดราชบุรณะ ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นราชภาระปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ แล้วโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถลงในกล่องศิลา นำไปบรรจุในพระพุทธอาสน์พระวิหาร ในสมัยรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างหอไตรข้างพระวิหารใหม่พร้อมทั้งสร้างหอพระจอมขึ้นอีกข้างหนึ่งเป็นคู่กัน หอทั้งสองมีลักษณะงามแปลกตา คือ เป็นแบบปราสาทยอดปรางค์ ในพระวิหารหลวงของวัดราชประดิษฐ์ซึ่งถือเป็นพระอุโบสถด้วยนั้น เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหังคปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้จำลองมาจาก "พระพุทธสิหิงค์" องค์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่ง พุทไธสวรรค์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นอกจากนี้ ภายในพระวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง พระราชพิธีสิบสองเดือนและพระราชพิธีต่างๆ ทั้งโล้ชิงช้า สงกรานต์ วิสาขบูชา และภาพที่รัชกาลที่ ๔ ทรงส่องกล้องเพื่อศึกษาวิชาดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์สำคัญในปลายสมัยรัชกาลที่ ๔ ที่พระองค์สามารถคำนวณ และประกาศให้ประชาชนทราบว่า จะเกิดสุริยุปราคาขึ้น และมองเห็นอย่างชัดเจนในประเทศไทย มีศูนย์กลางอยู่ที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๔๑๑ และหลังจากที่พระองค์เสด็จกลับจากหว้ากอ ก็ประชวรเพราะได้รับเชื้อไข้มาเลเรียจากตำบลหว้ากอ ประชวรได้เพียง ๑๔วันก็สวรรคต ภาพนี้จึงเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่บันทึกความทรงจำให้น้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ และเนื่องจากพระสงฆ์ในธรรมยุตินิกายนั้นเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก จึงมีกฏห้ามสตรีผ่านเข้าเขตสังฆาวาสมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงปัจจุบัน ภายในปราสาททางด้านทิศตะวันตกของพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

Rank: 1

แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-1-23 16:24  

พระ.JPG เจดีย์และโบสถ์.jpg http://th.wikipedia.org/wikihttp://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no06-15/wat/watrachapradit1.html

Rank: 1

แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-1-23 16:52  

เจดีย์ 4พระองค์.jpg night pagoda.JPG พระพุทธไสยาศน์ พระบาท.jpg พระพุทธไสยาศน์  พระองค์นี.jpg
เห็นวัดโพธิ์โสภาสถาพร
สง่างอนงามพริ้งทุกสิ่งอัน
โอ้วัดโพธิ์เป็นวัดกษัตริย์สร้าง
ไม่โรยร้างรุ่งเรืองดังเมืองสวรรค์"
จากนิราศพระแท่นดงรัง ของนายมี

Rank: 1


วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1 ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง และทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกเมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551[1]

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์[2] พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในแง่ของการท่องเที่ยวแล้ว วัดโพธิ์ได้รับความนิยมเที่ยวเป็นลำดับที่ 24 ของโลก ในปี พ.ศ. 2549 โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนในปีนั้นถึง 8,155,000 คน[3]


http://th.wikipedia.org/wiki/%E0 ... 3%E0%B8%B2%E0%B8%A1

Rank: 1

แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-1-27 12:36  

Emerald_buddha.jpg วัดพระแก้ว.jpg

วัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่สำหรับพระพุทธเจ้าเท่านั้น เพราะที่นี่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา
และยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดประจำกรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย

Rank: 1

หรืออีกความหมายหนึ่ง คือเป็นวัประจำทั้ง 9 รัชกาลก็ว่าได้(ผมทึกทักเองนะครับ)

วัดพระแก้ว1.jpg (13.72 KB, จำนวนดาวน์โหลด: 5)

วัดพระแก้ว1.jpg

‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-12-1 02:36 , Processed in 0.045502 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.