แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 10013|ตอบ: 13
go

วัดข้าวแท่นหลวง บ.หัวฝาย ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

Picture-316.jpg


วัดข้าวแท่นหลวง

บ.หัวฝาย  ต.สันทรายหลวง  อ.สันทราย  จ.เชียงใหม่

[พระบรมธาตุเจดีย์]



Rank: 8Rank: 8


Picture-295.jpg


วัดข้าวแท่นหลวง ตั้งอยู่เลขที่ ๗๘ หมู่ ๓ บ.หัวฝาย ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ค่ะ


การเดินทางไปวัดข้าวแท่นหลวง ดูข้อมูลแผนที่จากเว็บ google ได้ตามลิงค์นี้ค่ะ

https://www.google.com/maps/place/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87/@18.861311,99.057156,17z/data=!3m1!4b1!4m2!3m1!1s0x30da2487f3202955:0xb42d0e6ecc7e5bfb?hl=th



Picture-294.jpg



ประตูทางเข้า/ออก วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-298.jpg


Picture-356.jpg



วิหารพระพุทธมหาวรรณโณ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-300.jpg



วัดข้าวแท่นหลวง เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่นปีพ.ศ. ๒๕๔๔ ค่ะ


Picture-304.jpg


โรงเรียนพระปริยัติธรรม นักธรรม-บาลี, ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์, สำนักงานมูลนิธิคณะสงฆ์อำเภอสันทราย, ชมรมผู้สูงอายุข้าวแท่น-ป่าตอง, พุทธมามกะสงเคราะห์เยาวชน (กลุ่มหนุ่มสาวข้าวแท่น-ป่าตอง) วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Picture-302.jpg



ศาลาคำสุข วัดข้าวแท่นหลวง สร้างถวายอุทิศแด่พ่อหนานพรหมมา แม่หน้อย คำสุข ปัจจุบันใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน หมู่ ๓ บ้านข้าวแท่นหลวง สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ ค่ะ


Picture-306.jpg

พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน ศาลาคำสุข วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

Picture-307.jpg


Picture-312.jpg



อุโบสถ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Picture-311.jpg



หอกลอง วัดข้าวแท่นหลวง อยู่ด้านข้าง อุโบสถ ค่ะ



Picture-313.jpg



โรงครัวเมตตา ๕๐ ปี วัดข้าวแท่นหลวง อยู่ด้านข้าง อุโบสถ ค่ะ


Picture-320.jpg


กู่อัฐิ วัดข้าวแท่นหลวง อยู่ด้านหลัง อุโบสถ ค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-328.jpg


พระบรมธาตุเจดีย์ วัดข้าวแท่นหลวง บรรจุพระบรมสารีิริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ


ตำนานวัดข้าวแท่นหลวง


(แหล่งที่มา: พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๔๙, ๙ กรกฎาคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๒ (พิมพ์ครั้งที่ ๑).  กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์, หน้า ๒๒๒-๒๒๔.)


"ในสมัยที่พระพุทธเจ้ามีพระชนมายุได้ ๗๙ พรรษา ขณะทรงสำราญพระอิริยาบถอยู่ในป่าอิปตนมิคทายวัน เมืองพาราณสี พระองค์ทรงรำพึงถึงการเสด็จไปในประจันตคาม เพื่อจักได้อธิษฐานไว้ธาตุและศาสนา ด้วยเหตุว่าอายุแห่งเราใกล้จะนิพพานแล้ว

ครั้นแล้วพระพุทธองค์ด้วยภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูป อันมี พระอานนท์ เป็นต้น พร้อมกับพระยาอโศก (เจ้าเมืองกุสินาราย) ก็ได้เสด็จมาตามบ้านน้อยเมืองใหญ่ทั้งหลาย จนกระทั่งเสด็จเลียบขึ้นมาตามฝั่งแม่ระมิงค์ (แม่ปิง) ถึง ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่

หลังจากเสด็จไปบนดอยสุเทพแล้ว จึงทรงประทานพระเกศา ๘ เส้น ประดิษฐานไว้ใน มหาอาราม ๘ แห่ง รอบเมืองเชียงใหม่ จากนั้นจึงเสด็จไปบรรทมเหนือ ดอยขอนไม้ม่วง (เป็นที่ พระนอนขอนม่วง อ.แม่ริม)

แล้วจึงเสด็จสู่ทิศตะวันออกทรงสรงน้ำที่แม่ระมิงค์ แล้วก็ไปนอนในป่าแพร่งและได้มาสู่ทิศเหนือเพื่อมาบิณฑบาตในยามเช้านั้น หมอกก็ตกลงมามากนัก พระพุทธเจ้าจึงตรัสกับพระอานนท์ว่า สถานที่นี้จักปรากฏว่า บ้านยางหมอก

ในขณะนั้น ยังมีพ่อนาผู้หนึ่งเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จเข้ามาบิณฑบาต จึงเกี่ยวเอาต้นข้าว คือฟางมาปูเป็นอาสนะ แล้วอาราธนาให้พระพุทธเจ้าประทับนั่ง แล้วถวายข้าวน้ำโภชนาหารแก่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

.ในขณะนั้น ยังมีเทพบุตรองค์หนึ่งได้เข้ามาไหว้พระพุทธเจ้า พระองค์จึงได้ตรัสว่า สถานที่นี้จักเป็นที่ตั้งพระศาสนาแห่งตถาคต ขอให้ช่วยรักษากับทั้งบ้านเมืองนี้ด้วย อันว่าท่านได้อุปัฏฐากรักษาศาสนา ก็เป็นดั่งได้รักษาอุปัฏฐากตถาคต ทรงมีพระบัญชาดังนี้แล้ว จึงตรัสกับพระอานนท์ต่อไปว่า

“ตถาคตมาถึงที่นี้ พ่อนาเอาต้นข้าว (ฟาง มาปูให้ตถาคตนั่ง ภายหน้าบ้านยางหมอกที่นี้ เขาจักเรียกว่า บ้านข้าวแท่น ภายหน้าบ้านนี้จักสัมฤทธิ์ด้วยข้าวมากนักแล...”


จาก พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก


“เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จลงจาก ดอยสุเทพ แล้ว พระองค์ก็เสด็จไปบรรทมที่ดอยลูกหนึ่ง ณ ที่นั้น ยังมีต้นไม้ต้นหนึ่งขึ้นอยู่ข้างทางทิศตะวันตกที่พระพุทธไสยาสน์นั้น (น่าจะเป็นพระนอนขอนม่วง) กิ่งไม้ได้หักตกลงมาในที่นั้น


พระสารีบุตรเห็นเช่นนั้นจึงทูลว่า ภันเต ภควา ข้าแด่พระพุทธเจ้า กิ่งไม้ที่หักลงมานั้น เพราะเหตุอันใดหนอพระเจ้าข้า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาจึงตรัสว่า ดูก่อน สารีบุตร หลังจากตถาคตนิพพานไปแล้ว พระธาตุตถาคตจักมาประดิษฐานอยู่ ณ ที่นี้ จักเจริญรุ่งเรืองเป็นที่สักการบูชาแก่คนและเทวดาทั้งหลาย จักปรากฏชื่อว่า  “ดอยพระนอน”


เมื่อตรัสพยากรณ์เช่นนั้นแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปถึงแม่น้ำระมิงค์ แล้วเสด็จลงสรงในแม่น้ำนั้น เมื่อชำระพระวรกายแล้ว ก็ทรงนุ่งห่มผ้าประทับยืนอยู่ ตรัสแก่พระสารีบุตรว่า ดูก่อนสารีบุตร สถานที่นี้ต่อไปจักได้ชื่อว่าท่าพระเจ้าอาบน้ำ ต่อไปภายหน้าจักแปรเปลี่ยนเป็น ท่ากาบกว้าง (ใกล้วัดบ้านเด่น ครูบาเทือง)


จากนั้นก็เสด็จเลียบฝั่งแม่น้ำระมิงค์ขึ้นไปถึงที่แห่งหนึ่ง ในที่นั้นมีนก ๒ ตัว ตัวหนึ่งบินมาจากทิศใต้ ตัวหนึ่งบินมาจากทิศเหนือ นกทั้งสองตัวบินมาประสบกัน ณ ที่นั้น และพอดีกับที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาถึงที่นั้นเช่นกัน


นกทั้งสองตัวมีความยินดีเป็นอันมากจึงส่งเสียงร้องว่า “สาสา” ตามภาษาแห่งนก พระพุทธเจ้าจึงตรัสพยากรณ์ว่า ที่ตรงนี้ต่อไปภายหน้าจักได้ชื่อว่า “สบสา” (ปัจจุบันนี้ คือที่ “ปากแม่น้ำสา” เขตอำเภอแม่ริม)


ครั้นตรัสดังนี้แล้ว จึงเสด็จไปถึงต้นไม้ยางต้นหนึ่ง ในสถานที่นั้นยังมีน้ำค้างและหมอกตกลงมาจนครึ้มมืดไปหมด พระสารีบุตรจึงกราบทูลขอให้ประทับหยุดอยู่ที่นี้ก่อน องค์สมเด็จพระชินวรจึงเสด็จเข้าไปสู่ร่มไม้ยาง แล้วตรัสแก่พระสารีบุตรว่า


“ดูก่อนสารีบุตร หลังจากตถาคตนิพพานไปแล้ว ธาตุของตถาคตจักมาประดิษฐานอยู่ ณ ที่นี้ จักเป็นจำเริญรุ่งเรืองยิ่งนัก ต่อไปภายหน้าเมื่อต้นยางต้นนี้ตายไปแล้ว ต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ต้นหนึ่งจักปรากฏขึ้นแทน สถานที่นี้จักได้ชื่อว่า “ยางหมอก”



Picture-317.jpg


ประวัติวัดข้าวแท่นหลวง

(แหล่งที่มา : ป้ายประวัติข้าวแท่นหลวง วัดข้าวแท่นหลวง)


วัดข้าวแท่นหลวง มีประวัติที่ยาวนานเล่ากันว่า วัดนี้แต่เดิมชื่อ วัดยางหมอก ที่ตั้งวัดนี้ชื่อบ้านยางหมอก พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาบิณฑบาตในหมู่บ้านยางหมอกแห่งนี้ ขณะนั้นพ่อนาซึ่งกำลังเก็บเกี่ยวข้าวอยู่ในนา เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมาจึงวางธุระในการเก็บเกี่ยวข้าวของตนเอง ตรงเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธเจ้าพร้อมกับนำฟ่อนข้าวถือติดมือไปปูเพื่อให้พระพุทธองค์ประทับนั่งและถวายบิณฑบาต

พระพุทธองค์ทรงตรัสกับพ่อนาว่า “ที่บ้านยางหมอกแห่งนี้ต่อไปภายภาคหน้าจะได้ชื่อว่าบ้านข้าวแท่น” เพราะว่าพ่อนานำฟ่อนข้าวมาทำเป็นบัลลังก์ให้พระพุทธองค์ประทับนั่ง ที่เรียกว่า วัดเข้าแท่นหลวง เพราะในหมู่บ้านแห่งนี้มีอยู่ ๒ วัด คือ วัดข้าวแท่นหลวง และวัดข้าวแท่นน้อย

ลำดับเจ้าอาวาส วัดข้าวแท่นหลวง ดังนี้   
- ก่อนหน้านี้ไม่ทราบเพราะไม่มีหลักฐาน
๑. พระอธิการหน้อย มหาวัณโณ
๒. พระอธิการแก้ว จันทธัมโม
๓. พระอธิการบุญมา สิริธัมโม
๔. พระอธิการอภิวงศ์ อภิวโส
๕. พระอธิการแก้ว สุรตโน
๖. พระปลัดบุญปั๋น สุวัณณธัมโม
๗. พระครูสันติยานุสาสน์  (อิ่นคำ  อินทนันโท) พ.ศ. ๒๔๘๓ - ๒๕๔๖
๘. พระครูโกศลธรรมวิจัย  (สุวรรณ  ธัมมวิจาโร) พ.ศ. ๒๕๔๗ – ปัจจุบัน



Picture-326.jpg



ประวัติวัดข้าวแท่นหลวง


(แหล่งที่มา : พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๔๙, ๙ กรกฎาคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๒ (พิมพ์ครั้งที่ ๑).  กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์, หน้า ๒๒๕.)


กล่าวว่า "พระเจดีย์ได้สร้างครอบฟ่อนข้าวและเม็ดข้าวที่ “พ่อนา” นำมาปูเป็นอาสนะถวายพระพุทธเจ้าประทับนั่ง และได้บรรจุของมีค่าไว้มากมาย ได้บูรณะกันมาถึง ๔ ครั้งแล้ว

นอกจากนี้ภายในวิหารก็ยังมีพระประธานองค์หนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.๒๔๔๑ มีชื่อเรียกกันว่า พระพุทธมหาวัณโณ ตามฉายาของพระผู้สร้างคือ พระอธิการน้อย มหาวัณโณ โดยท่านได้ตั้งสัจจะอธิษฐานตัดปลายนิ้วชี้มือขวา บรรจุอยู่ในหัวใจพระพุทธรูปองค์นี้ ก่อนที่ท่านจะออกไปหาทุนมาติดกระจกองค์พระให้เสร็จ แต่ท่านก็ไปเสียชีวิตที่เชียงแสนก่อน วัดนี้ก็เจริญรุ่งเรืองตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้"



Picture-327.jpg



เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์  วัดข้าวแท่นหลวง พร้อมกันเลยนะคะ


นะโม ตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า ๓ จบ)   

        วันทามิ  เจติยัง สัพพัง  สัพพัฏฐาเนสุ  ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุโย  เกศาธาตุโย  อะระหันตา ธาตุโย  เจติยัง  คันทะกุฏิง จะตุละสี  ติสสะหิสเส  ธัมมักขันเธ สัพเพสัง  ปาทะเจติยัง  อะหังวันทามิ ธาตุโย  วันทามิทุระโส  อะหังวันทามิ สัพพะทา  อะหัง วันทามิ  สิระสา ฯ


ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่งข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตามกราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แด่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



Rank: 8Rank: 8

Picture-329.jpg



รูปปั้นกุมภัณฑ์ ๒ ตน ยืนอยู่ด้านหน้า ซุ้มประตูทางเข้า/ออก องค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Picture-322.jpg

ศาลกุมภัณฑ์ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Picture-333.jpg


พระพุทธรูป ประดิษฐานตอนกลางฐานเขียง องค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ  


Rank: 8Rank: 8

Picture-330.jpg


Picture-331.jpg



Picture-319.jpg



Picture-325.jpg



Picture-318.jpg


ซุ้มพระพุทธรูป ประจำทั้งสี่ทิศ องค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-338.jpg


Picture-337.jpg



วิหารพระเจ้าทันใจ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


Picture-336.jpg



Picture-335.jpg


พระพุทธรูปพระเจ้าทันใจ ประดิษฐานภายใน วิหารพระเจ้าทันใจ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ


คำนมัสการพระเจ้าทันใจ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า ๓ จบ)   

        ตะมะหัง  ขิปปะจิตตะ พุทธัง  อะภิปูชะยามิ  

        ตะมะหัง ขิปปะจิตตะ  พุทธัง  เมสิ  ระสา  อะภิปูชะยามิ  

        ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ  สะทา  โสตถี ภะวะตุเม  

        ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ  สะทา  มะหาลาโภ ภาวะตุเม

        ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ  สะทามะหายะโส ภาวะตุเม(๓ ครั้ง)



Rank: 8Rank: 8

Picture-343.jpg


โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดข้าวแท่นหลวง สร้างเมื่อพ.ศ. ๒๔๙๙ บูรณะพ.ศ. ๒๕๔๖ ค่ะ


Picture-345.jpg



Picture-346.jpg


อนุสาวรีย์บรรจุอัฐิหลวงพ่อพระครูสันติยานุสาสน์ (อิ่นคำ  อินทนันโท) วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ



Picture-347.jpg



รูปเหมือนพระครูสันติยานุสาสน์ (อิ่นคำ อินทนันโท)
เจ้าอาวาส วัดข้าวแท่นหลวง พ.ศ.๒๔๘๓-๒๕๔๖ วัดข้าวแท่นหลวง ค่ะ



‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 01:56 , Processed in 0.063656 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.