แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

วัดบ้านปาง ม.๑ ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_5890.JPG



หอพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง


สถานที่รวมภาพประวัติและผลงานสร้างวัดเก่ากว่า ๑๐๐ แห่ง ของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ดำเนินการจัดสร้างโดย พระอานันท์ พุทธธัมโม โดยความอุปถัมภ์ของท่านอุบาสกกวงเม้ง อุบาสิกาปิติอร แซ่เล้า และเพื่อน คุณดำริ-คุณพรพรรณ ก่อนันทเกียรติ เริ่มสร้างในปี พ.ศ.๒๕๓๖ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗



IMG_6160.JPG



ขอเชิญร่วมทำบุญใส่บาตรพระประจำวันเกิด วัดบ้านปาง



IMG_6736.JPG



หอกลอง วัดบ้านปาง



IMG_5854.JPG



IMG_5843.JPG



กุฏิพระครูบาเจ้าศรีวิชัย (โฮงหลวง, กุฏิใหญ่) วัดบ้านปาง


IMG_5852.JPG



ประวัติกุฏิพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง


กุฏิพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง สร้างโดย พระครูบาเจ้าศรีวิชัย พร้อม
ศิษย์ชาวกะเหรี่ยงและคณะศรัทธานักศีลนักบุญทั้งหลายสร้างถวาย ได้ทำการก่อสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๘ ซึ่งกุฏิดังกล่าวเป็นที่จำวัดของท่านพระครูบาเจ้าศรีวิชัยในสมัยเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๐ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. กุฏิของพระครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เกิดประสบอัคคีภัย ทางท่านพระครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ได้เป็นประธานดำเนินการบูรณะกุฏิ พร้อมด้วยพระครูสิริวิชยางกูร
(จรูญ สุจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบ้านปาง คณะศรัทธาบ้านปาง คณะศรัทธาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม พร้อมด้วยคณะศรัทธาสาธุชนทั่วทุกสารทิศที่มีความเลื่อมใสและศรัทธาพระครูบาเจ้าศรีวิชัย

ได้เริ่มบูรณะเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๐ สิ้นทุนทรัพย์ทั้งสิ้น ๓,๘๓๕,๘๓๖.๐๐ บาท (สามล้านแปดแสนสามหมื่นห้าพันแปดร้อยสามสิบหกบาทถ้วน) พร้อมกันนี้คณะศรัทธาสาธุชนทั้งหลายได้ร่วมใจกันฉลองและถวายไว้เป็นศาสนสมบัติของบวรพุทธศาสนา เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔ สืบต่อไป


----------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : ป้ายประวัติกุฏิพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง)


IMG_6060.JPG



IMG_5860.JPG



กุฏิเจ้าอาวาส วัดบ้านปาง


IMG_6518.JPG



กุฏิสงฆ์ วัดบ้านปาง



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_5863.JPG



IMG_5864.JPG



IMG_6677.JPG



หอเสื้อวัด วัดบ้านปาง



IMG_5870.JPG



ต้นสาละ วัดบ้านปาง


สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปลูกต้นสาละ เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๗


IMG_5872.JPG



สระน้ำ วัดบ้านปาง


IMG_5891.JPG



ป้อมยาม วัดบ้านปาง



IMG_6525.JPG



ศาลา วัดบ้านปาง


ศรัทธา คุณบัวเขียว ปัญญา และคุณยุวดี เมฆศิริวิชช์ สร้างอุทิศถวายแด่พระครูบาเจ้าศรีวิชัย เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕


IMG_6517.JPG



ศาลาสามัคคีศรีวิชัยอนุสรณ์ ปี ๔๗ วัดบ้านปาง


IMG_5841.JPG



ศาลาโรงทาน "อภิไจยยาธัมมานุสรณ์" วัดบ้านปาง


คณะศรัทธาวัดบ้านปาง สร้างถวายเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๑


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6745.JPG



IMG_6750.JPG



IMG_6767.JPG



วิหารครอบแท่นหินนั่งภาวนาและรอยเท้าของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง



IMG_6755.jpg



IMG_6760.JPG



IMG_6765.JPG



รูปเหมือนพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ประดิษฐานภายในวิหารครอบแท่นหินนั่งภาวนาและรอยเท้าของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง


ศรัทธาคณะศิษย์พระครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา ดอนเมือง-กรุงเทพฯ แม่ชีคำปุ๋ย ไชยวงศ์ และคณะบ้านปาง คุณไสว-คุณกฤษณา งามนนท์ คุณสุชาติ-คุณถุงเงิน ดาระสวัสดิ์ และคณะ สร้างถวายเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๖



IMG_6764.JPG



DSC01637.JPG



รูปเหมือนพระครูบาเจ้าศรีวิชัย แท่นหินนั่งภาวนา และรอยเท้าของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ประดิษฐานภายในวิหารครอบแท่นหินนั่งภาวนาและรอยเท้าของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง


DSC01638.JPG



แท่นหินนั่งภาวนาและรอยเท้าของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง


IMG_6762.JPG



คำไหว้ครูบาเจ้าศรีวิชัยจะน๊ะ
(ว่านะโม ๓ จบ) พุทโธ ศรีวิชัยโยจะนะ มหาเถโรสำภะราโภนิรันตะรัง (๕ จบ)

คำไหว้รอยปาต๊ะ (รอยเท้า) ครูบาเจ้าศรีวิชัย
(ว่านะโม ๓ จบ) โยนะกะปุเร ปาต๊ะวะรัง อะหังวันทามิ สัพพะทา  


IMG_6742.JPG



IMG_6737.JPG



DSC01516.JPG



DSC01518.JPG



ศาลาเมรุที่ตั้งศพพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง

สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ ใช้ตั้งพระศพของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านปาง ๒ ปี (พ.ศ.๒๔๘๑-๒๔๘๒) และได้อาราธนาศพพระครูบาเจ้าศรีวิชัยไปประกอบพิธีพระราชทานเพลิงที่วัดจามเทวี จ.ลำพูน ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดจามเทวีนานถึง ๗ ปี จึงได้มีหมายกำหนดการพระราชทานเพลิงขึ้นในวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๘๙


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_59831.jpg



ธรรมเทศนาอานิสงส์การรักษาศีล

ของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย

จารึกไว้เมื่อจำพรรษา ณ วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่

เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๔



นะโมตัสสัตถุฯ อะเสวะนาจะปาราณัง สภาวะอันบ่ไปสงเสพคบกับคนพาลตั้งหลายก็ดี ปั๋นฑิตานันจะเสวะนา สภาวะอันได้สงเสพคบหากับบัณฑิตนักปราชญ์ตั้งหลายก็ดี ปูชาจะปูชานียานัง ขียาอันได้ไหว้ได้ปู๋จาผู้ตี่กวรปู๋จามีพระพุทธเจ้าเป๋นต้นก็ดี เอตั๋งวิทะกั๋มมัง อันว่ากรรม ๓ ประก๋ารนี้ มังกะลัง ก็เป็นมังกะละ อุตตะมัง อันอุดมยิ่งนัก อันว่าพวกพาลตั้งหลาย กือว่าพาลปายนอกย่อมผ่อหันด้วยตาอยู่แล้ว จักบ่ไปสงเสพคบกับมันก็ได้ แต่ว่าพาลปายในผ่อด้วยต๋าบ่หัน ถ้าบ่ไปสงเสพคบหากับ
บัณฑิตต๋านักปราชญ์แล้วตี่ไหนจักล่วงรู้ได้ ก๋ารคบหากับบัณฑิตนักปราชญ์ กือหมั่นฟังธรรมกำสอนของพระพุทธเจ้า เปื่อหื้อฮู้ตันพาลปายใน ปุถุชนตั้งหลายบ่ฮู้ปากั๋นเจื่อว่านามรูป กือธาตุตั้ง ๔ ขันธะตั้ง ๕ อาก๋าร ๓๒ นี้เป๋นตั๋วต๋น แล้วย่อมอยู่ใต้อำนาจของมัน จึงบันดาลให้ปุถุชนตั้งหลายเป๋นพาล มีความโลภ โกรธ หลง ไปต๋ามอารมณ์ต่างๆ แล้วมีมานะกระด้างแข็ง ถือว่าตั๋วเป๋นผู้มีปัญญา หาความสุขใส่ตั๋ว จิ่งมีสัญญาวิปลาสไปหอบเอาแต่ความตุกข์มาใส่ตั๋วอยู่ตุกวันคืนบ่ได้ขาด

พระพุทธเจ้าเตศนาไว้ว่า รบชนะศึกร้อยครั้งบ่เต่าชนะจิตอันเป๋นบาปเสียได้ พระพุทธโฆษจารย์ตั้งข้อปุจฉากรรมไว้ในวิสุทธิมรรคว่า สิ่งดั่งฤาเรียกว่าปัญญา วิสัชนาแก้ว่าปัญญามีมาก กือสภาวะอันฉลาดฮู้ในศิลปะวิชชาต่างๆ เป๋นต้น ฉลาดในการไร่นาและก๋ารก้าขายหื้อเกิดทรัพย์สมบัติต่างๆ ล้วนแล้วไปด้วยปัญญาตั้งมวล แต่ก็เป๋นปัญญาทางโลกีย์อันประกอบไปด้วยความตุกข์ ส่วนปัญญาอันประเสริฐกว่าปัญญาตั้งหลายนั้น นักปราชญ์กวรสันนิษฐานว่า วิปัสสนาญาณอันสัมประยุต ตั้งประกอบไปด้วยสุจริต ปิจารณาหันแจ้งว่าสิ่งตั้งหลายในโลกนี้ กืออุปป๋าตินนะกะสังขาร สังขารตี่มีจีวิตวิญญาณ มีมนุษย์และสัตว์ตั้งหลายก็ดี อะนุปาตินะกะสังขาร สังขารตี่บ่มีจิตวิญญาณ มีต้นไม้และภูเขาก็ดี เป๋นอะนิจจั๋ง ตุกขัง อะนัตต๋า บ่เตี๋ยงนับเสี้ยงผ่อมนุษย์ตั้งหลายตี่เกิดมาแล้ว รูปเก่าตี่เป๋นเด็กน้อยนั้นหายไป รูปใหม่หนังใหม่ กือความแก่เกิดขึ้นแล้วก็เปลี่ยนแปลงทำหื้อเจ็บต๋ายในที่สุด


หมายความว่าสิ่งตั้งหลายตี่เกิดมาในโลกนี้ มีวิญญาระณะกะทรัพย์ อะวิญญาระกะทรัพย์ ตลอดถึงตั๋วมนุษย์และสัตว์ตั้งหลายก็ดี เป๋นของสมมุติใจ้กั๋นเมื่อมีจีวิตอยู่ในโลกนี้ เหมือนไปอาศัยศาลาแห่งหนึ่งแล้วมีอำนาจใจ้สอยของอันมีอยู่ในศาลาชั่วคราว ต๋ามกุศลตี่หาได้ตอนนั้น ยามเมื่อต๋ายหรือหนีจากศาลาไปแล้วก็ต้องทิ้งสมบัติและคาบเนาไว้ตี่ศาลากือโลกนี้ตั้งมวล บ่มีไผนำเอาไปใจ้ในโลกหน้าได้เลย ปั๋ญญาอันฮู้ถี่หันแจ้งดั่งนี้เรียกว่าปัญญาตี่นำตั๋วหื้อป้นจากตุกข์ได้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้เหตุตี่เกิดตุกข์ ว่าความตุกข์ตั้งหลายเกิดจากขันธะตั้ง ๕ กืออัตต๋า อัตต๋าเกิดขึ้นแล้วก็สมมุติเรียกว่าตั๋วต๋น แล้วก็มีตัณหาความอยากได้ดิ้นรนกระวนกระวายกระทำหื้อจิตใจ๋ฟุ้งซ่านไปต๋ามความอยากต่างๆ ปุถุชนตั้งหลายขาดก๋ารอบรมตางธรรม บ่รู้เหตุตี่เกิดตุกข์ บ่รู้เหตุตี่บรรเทาตุกข์ บ่รู้ตี่ดับตุกข์ บ่รู้ตางปฏิบัติไปสู่ตี่ดับตุกข์ ปากั๋นคบแต่พาลปายใน จิ่งไปหาแต่ตางผิด ต้องได้รับความเดือดร้อน แต่เครื่องป้องกั๋นความเดือดร้อนตี่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้มีศีล ๕ และ ศีล ๘ กือ

๑. อย่าฆ่าสัตว์  ๒. อย่าลักทรัพย์  ๓. อย่าเล่นจู้สู้ผัวเมียต่าน  ๔. อย่ากล่าวกำร่ายยุโยงส่อเสียดหื้อต่านแตกร้าวบาดหมางกั๋น  ๕. อย่าเสพของมึนเมามีสุราเป๋นต้น ถ้าศีล ๘ เปลี่ยนข้อตี่ว่าอย่าเล่นจู้ เป๋นว่าอย่าเสพเมถุนกับจายหญิงในคืนหนึ่งวันหนึ่ง ห้ามต่อจากข้อ ๕ ไปแถมข้อ ๖ อย่ากิ๋นข้าวตะวันบ่าย เพราะทำหื้อง่วงหงาวหาวนอน บ่มีปั๋ญญากึดหาอุบายหื้อป้นจากตุกข์ได้  ข้อ ๗. อย่าเหน็บดอกอย่าตาแป้งตาน้ำหอมและดูการฟ้อนและฟังเสียงจ้อยซอ และดีดสีตี๋เป่าอันเป๋นเครื่องล่อตัณหา  ข้อ ๘ อย่านั่งนอนเตียงตั่งตี่สูงและสลีตี่ยัดด้วยฝ้ายและงิ้ว ตี่จักทำหื้อมีมานะกระด้างแข็ง ศีล ๕ เป๋นของสำหรับประจำตั๋วมนุษย์ทั่วไป แม่นว่าใผบ่รู้และบ่นับถือก็ดี ถ้าไปทำผิดพลาดจากศีล ๕ แต่ข้อหนึ่งข้อใดแล้วต้องมีบาปได้รับโตษในปัจจุบันนี้เป๋นต้นไปกือต้องไปติดคอกเสียเงินและเสียจื่อเสียงเป๋นต้น


ดังเช่นผู้ตี่เป๋นนักโตษอยู่ก๋องเรือนจ๋ำนั่นแล กันต๋ายไปก็จักตกนารก ๕๐๐ จาติ แล้วได้เกิดมาเป๋นคนและเป๋นสัตว์ชนิดนั้นหื้อต่านได้กระทำอย่างตี่ตั๋วได้กระทำกับเขาแถม ๕๐๐ จาติ กือไปตกนารกหนึ่งจาติแล้ว กันป้นจากนารกก็ได้เกิดมาใจ้หนี้หื้อต่านได้ทำไปเกิดมาใจ้หนี้ใหม่ก็ต้องใจ้เวลานาน กือต้องตกนารก ๕๐๐ จาติ เมื่อเกิดมาตอบแตนเวรกรรมจาติหนึ่งแล้ว ก็ต้องกลับไปตกนารกอีกเป๋นลำดับไปกว่าจะครบก๋ำหนดอย่างละ ๕๐๐ จาติ รวมเป๋นปันจาติด้วยกั๋น ดั่งผู้ตี่เกิดมาเป๋นปู้เมีย และเป๋นคนพิการปากแหว่ง หูหลึ่ง ต๋าบอด แข้งหักขาห้าน เป๋นขี้ตูด – ขี้โม้ เป็นบ้าใบ้วิกลจริตผิดจากธรรมดาเป็นคนตุกข์ไร้เข็ญใจ๋ ฆ่าตั๋วต๋ายหรือถูกเปิ่นฆ่าต๋าย และโจรปล้นสะดมตี๋ชิงวิ่งราว ถูกเปิ่นฉ้อโกงลักทรัพย์ และถูกผู้อื่นหาความใส่ และมีความเจ็บปวด มีอายุสั้นปันต๋ายเหล่านี้เพราะได้ทำผิดศีล ๕ มาแต่จาติป๋างก่อน แล้วจิ่งเกิดมาใจ้หนี้ต่านจนกว่าจะหมดเวรกรรม ผู้ตี่ต่านเกิดมามีลักษณะครบถ้วนบริบูรณ์ มีปั๋ญญาเฉลียวฉลาด หาทรัพย์สมบัติได้ง่ายดายมีความสุขและมีอายุยืนก็เพราะว่าต่านเป๋นคนมีเมตต๋าจิตเกยได้อบรมมีก๋ารบำเพ็ญตานและรักษาศีลมาแล้วแต่จาติป๋างก่อนตั้งมวล ศีล ๕ สำหรับผู้นับถือได้รับอานิสงส์กือความสุขในปัจจุบันจาตินี้ ดั่งมีธรรมเตศนาว่า

พระราชบุตรของพระเจ้าพรหมทัตเมืองปาราณสี เอาไก่ ๒ ตั๋ว มอบหื้อแก่ศีละรักขิตตะ ส่วนศีละรักขิตตะนั้นเป๋นผู้ตี่ถือศีล ๕ มาตั้งแต่อายุได้ ๕ ปี๋ มาถึงอายุได้ ๑๖ ปี๋ หื้อเอาไปฆ่าแล้วแก๋งมาหื้อกิ๋น ศีละรักขิตตะก็รับเอาไก่ไปแล้วร่ำเปิงว่า (คิดคำนึง) ว่าเราได้ถือศีลมาจนบัดนี้ ถ้าเราฆ่าไก่ศีลของเราก็จักเสียไป เราบ่กวรฆ่าไก่นี้หื้อเสียศีล เรากวรปล่อยไก่หื้อป้นจากความต๋ายไปเสีย ส่วนตั๋วเราจักต๋ายด้วยเหตุนี้ก็จ่างมัน แล้วก็ปล่อยไก่นั้นเสีย ถึงเวลาพระราชบุตรเรียกเอาแก๋งไก่จากศีละรักขิตตะ ศีละรักขิตตะบอกว่าได้ปล่อยไก่ไปเสียแล้ว พระราชบุตรมีความโกรธมากนัก จิ่งสั่งหื้อจ่าฆ่าคนนำเอาศีละรักขิตตะไปขว้างตกวังน้ำ ตี่เกยเอาผู้ร้ายไปฆ่านั้นเสีย กันไปเถิงตี่แล้วศีละรักขิตตะได้ทำสัจจะอธิษฐานตั้งกำผาถนาว่า ข้าได้รักษาศีลมาเถิงบัดนี้ เปิ่นจักฆ่าหื้อต๋ายแล้ว ด้วยกุศลนี้ขอได้นำตั๋วแห่งข้าหื้อป้นจากภาวะตั้ง ๓ แด่เตอะ แล้วจ่าฆ่าคน (เพชฌฆาต) ก็เอาศีละรักขิตตะไปขว้างกล๋างแม่น้ำวน ขณะนั้นมีนาค ๔ ตั๋ว นำเอาปราสาทคำประดับด้วยแก้ว ๗ ประก๋าร มารับเอาศีละรักขิตตะได้แล้ว ต้าวตั้ง ๔ เตวดาตั้งหลายเอาปราสาทขึ้นไปตั้งไว้ตี่กล๋างเวียง พญาพรหมทัตและพระราชบุตรมีความกลั๋วเหลือประมาณ ปากั๋นลงมาไหว้ขอโตษและขอยกเอาบ้านเมืองหื้อเจ้าศีละรักขิตตะได้ครองเมืองปาลาณสี นี่ก็ด้วยอานิสงส์แห่งการรักษาศีล

ยังมีเรื่องผู้บำเพ็ญศีลแถมเล่าว่า ยังมีลูกแม่ม่ายอยู่เมืองลังก๋า ๒ คน ผู้ปี่มีจื่อว่ามหาจักระ ผู้น้องมีจื่อว่าจูระจักระ นางผู้แม่ป่วยได้หาหมอมายา หมอบอกว่าหื้อหาเลือดกระต่ายมาผสมยาหื้อกิ๋นจิ่งจักหาย จายผู้ปี่หื้อน้องไปดักกระต่าย ได้กระต่ายมาก๋ำไว้แล้ว กระต่ายนั้นดิ้นและร้อง จูระจักระนึกว่าสัตว์ตั้งหลายเมื่อความต๋ายมาถึงแล้ว ย่อมกลั๋วต๋ายทุกตั๋ว แม่เราและตั๋วเรานี้ก็กลั๋วต๋ายด้วยกั๋น ส่วนสัตว์มันปากบ่ได้ มันก็แสดงกิริยาดื้นและร้องขอความกรุณาต๋ามภาษาของมัน สัตว์และคนย่อมรักตั๋วกลั๋วต๋ายด้วยกั๋นนับเซี้ยง เรากวรปล่อยกระต่ายตั๋วนี้หื้อป้นจากความต๋ายดีกว่า ส่วนแม่เราก็เอาบุญกรรมเป๋นผะหมาน แล้วก็ปล่อยกระต่ายตั๋วนั้นเสีย ปิ๊กไปบ้านปี่ถามก็บอกต๋ามความเป๋นจริงแล้ว เมื่อปี่ฮู้ดั่งอั้นก็โกรธก๋ำไม้ฆ้อนไล่ตี๋น้องๆ ก็วิ่งไปหาแม่ๆ ก็ห้ามเสียแล้วถามว่า เรื่องอันใดกั๋น น้องก็ได้เล่าหื้อแม่ฟัง แล้วก็ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ตั้งแต่ข้าเกิดมาจ๋นบัดนี้ บ่ได้ทำผิดจากศีล ๕ เลย ด้วยกุศลตี่ถือมั่นดั่งนี้ ขอหื้อแม่ข้าหายจากโรคภัย ต๋ามสัจจะนี้เตอะ แล้วก็เอามือลูบหลังแม่ๆ ก็หายจากโรคได้ทันที นี้ก็ด้วยอานิสงส์ของก๋ารรักษาศีล


บ่ใจ่เต่านั้นป๋างเมื่อพระพุทธเจ้านิพพานไปได้ ๒๑๐ พระวะสา พระญาสลีธรรมมาโศกราชได้ป่าวประกาศหื้อประชาชนตั้งหลายในชมภูทวีป หื้อปากั๋นรักษาศีล ๕ มีความประสงค์เรียบร้อยจนได้สร้างพระเจดีย์และพระวิหาร อย่างละ ๘๔,๐๐๐ องค์ไว้ทั่วทุกหัวเมือง บ่เต่าแต่นั้นพระองค์ยังได้สำรวจค้นคว้าหาหลักฐาน สถานตี่ประสูติแห่งองค์พระสัพพัญญูเจ้า ตี่เรียกว่า สวนลุมพินีและพุทธคยาอันเป๋นสถานตี่พระผู้เป๋นครูแก่โลกได้ตรัสรู้และอิสิปะตะนะมฤคทาวัน อันเป๋นสถานตี่พระผู้โผดโลกได้แสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจะวัคคีย์ตั้ง ๕ พร้อมกับตั้งได้ค้นหากุสินาลาสาระวัน อันพระผู้เป๋นตี่ปิ่งแก่โลก๋า ได้ดับขันธปรินิพพาน พระสลีธรรมมาโศกราชได้สร้างมหาเจดีย์และเสาอโศกเป็นหลักฐานไว้เป๋นสำคัญแล้ว ก็ทำก๋ารฉลองทำบุญได้ ๗ ปี๋ ๗ เดือน ๗ วัน สำเร็จบริบูรณ์แล้ว ซ้ำได้จารึกไว้ตี่แผ่นศิลาข้างปล๋ายตี่สุด

พระราชดำรัสแผ่นที่ ๑๓ มีใจ๋ความว่า “บรรดาเจ้าพระวงค์ตั้งหลาย อันมาปายหลังหมายตี่จักเอาไชยชนะต่อไป อย่าถือว่าก๋ารชนะด้วยคมอาวุธเป๋นนามอันสมกวรของผู้ชนะ ก๋ารเป๋นผู้ทำความวุ่นวายและย่ำยีร้ายแรงนั้นบ่กวรถือว่าเป๋นการชนะ เพราะมีแต่กรรมอันเป๋นบาป ก๋ารชนะด้วยอาศัยธรรมะในพระศาสนาอย่างเดียวเท่านั้น จิ่งถือว่าเป๋นก๋ารชนะอย่างแท้จริง จึงมีพระราชดำรัสเป๋นหลักฐานแสดงหื้อหันความจริงได้ว่า ก๋ารปราบด้วยอาวุธย่อมก่อเวร มีแต่ความเดือดฮ้อน ดั่งผู้มีครอบครัว มีบิดา-มารดา มีสามี-ภรรยา บุตรหลานญาติปี่น้องอยู่พร้อมหน้ากั๋น เมื่อหัวหน้าครอบครัวต๋ายไปเสียแล้ว ความเดือดฮ้อนของครอบครัวนั้นจักมีเกิดขึ้นสักปู๋นใด แล้วใผจักเป๋นผู้ปกครองเลี้ยงดูต่อไปแถม มันก็เต่ากับต๋ายไปตั้งครอบครัวเสียแล้ว

บรรดาสัตว์ตั้งหลายตี่เกิดมาในโลกนี้ย่อมมีความรักตั๋วกลัวต๋ายด้วยกั๋นตั้งมวล ก๋ารปราบด้วยอาวุธ ซึ่งเก๋ณฑ์เอามนุษย์ไปรบราฆ่าฟันกั๋นต๋ายเป๋นหมื่นเป๋นแสน ทำหื้อมนุษย์ตั้งหลายได้รับความเดือดฮ้อน เปื่อหวังความสุขอันเล็กน้อยมาใส่ตั๋วคนเดียวเต่านั้น บ่จอบด้วยตางยุติธรรม ด้วยเหตุว่าพระองค์ก็เกยปราบด้วยอาวุธ และปราบด้วยพระศาสนามาแล้วตั้ง ๒ อย่างดั่งนี้ ก็เล็งเห็นว่า เป๋นความจริงอยู่แล้ว ในสมัยของพระเจ้าสลีธรรมมาโศกราช บ่มีผู้ร้ายปล้นสะดมตี๋ชิงวิ่งราวกั๋นพ่องกา? กวรสันนิษฐานได้ว่าปุถุชนในสมัยนั้นมีศีล ๕ บริบูรณ์ บ่มีก๋ารเบียดเบียนกั๋น แม่นว่าเจ้าของบ้านบ่อยู่ หับประตู๋บ้านไว้ ก็บ่มีไผบังอาจเข้าไปในเกหะสถานบ้านเรือนได้ ก๋ารตี่ได้เกิดมีโจ๋รผู้ร้ายชุกชุมนี้ ก็เพราะปุถุชนตั้งหลายขาดก๋ารอบรมในตางธรรม บ่ฮู้เต่าตันต๋ามความจริง ปากั๋นถือว่าอัตต๋ากือตั๋วสมมุติอันเป๋นซากผีนั้นเป๋นตั๋วต๋นแต้ จิ่งปากั๋นได้รับความเดือดฮ้อน

มีแต่พระพุทธเจ้าซึ่งตรัสรู้ใยยะธรรมลึกล้ำด้วยต๋นเองเต่านั้น รู้เต่าตันความจริงได้ แม่นว่าต่านได้เถิงนิพพานไปแล้วก็ดี ต่านก็ได้ตั้งพระศาสนาไว้ ๕,๐๐๐ พระวะษา หื้อพระภิกษุสังฆะตั้งหลายปฏิบัติรักษาพระธรรมกำสั่งสอนไว้โปรดสัตว์ตั้งหลายหื้อป้นจากตุกข์ ต่านตรัสรู้แจ้งว่า พระศาสนาจักตั้งอยู่ได้ ก็เพราะพระมหากษัตริย์เป๋นพุทธศาสนูปถัมป์ ต่านจิ่งได้ฝากพระศาสนาไว้กับพระมหากษัตริย์ ถ้าพระมหากษัตริย์และเจ้าเมืองพร้อมด้วยเสนาอำมาตย์ราษฎรตั้งหลายปากั๋นรับศีล ๕ และทำบุญใส่บาตรฟังธรรม ณ ตี่วัดทุกวันศีล เป๋นล่ำดับไปแล้วก็จักได้อานิสงส์ คือความสุขในปัจจุบันตันต๋า ๒๕ ประก๋าร ดั่งจักกล่าวเป๋นล่ำดับไปนี้คือ

๑. เมื่อนอนหลับก็เป๋นสุข  


๒. เมื่อตื่นก็เป๋นสุข  

๓. เมื่อฝันก็ฝันดีบ่ฝันฮ้าย  

๔. จื่อเสียงลือไปทั่วทิศว่าเป๋นผู้มีเมตต๋าใจ๋ศีลใจ๋บุญ  

๕. เป๋นตี่ฮักแก่คนและเตวดาตั้งหลาย  

๖. แม่นจัก หว่ายหน้าไปสู่ทิศะใดๆ เตวดาก็ต๋ามไปฮักษา บรรดาลหื้อมีผู้อุปถัมภ์บ่ได้ลำบาก  

๗. แม่นเข้าในตี่ประชุมหมู่ใดย่อมเป๋นผู้กล้าหาญฉลาดในก๋ารเจรจา  

๘. บ่มีศัตรูทำร้ายได้  

๙. บ่มีความสดุ้งตกใจ๋กลั๋วต่อภัยอันตรายสิ่งใด  

๑๐. เป๋นผู้ปราศจากตุกข์บ่มีถ้อยคดีความเกิดขึ้นเลย  

๑๑. เป๋นผู้มีสติสัมปชัญญะยิ้มแย้มแจ่มใสตุกเมื่อ  

๑๒. บ่มีความเศร้าโศกเสียใจ๋ แล้วมีอายุยืน  

๑๓. มีปีติอิ่มเอิบอยู่ในใจว่าได้ทำความดีไว้เป๋นตี่เปิ่งแก่ตั๋วแล้ว  

๑๔. เป๋นผู้ทำใจ๋หื้อบริสุทธิ์ กือเตวดาห้ามประตูอบายไว้แล้ว  

๑๕. ยามเมื่อจักต๋าย ก็มีสติดีบ่มีความสดุ้งตกใจ๋ อันนี้เป๋นอานิสงส์เฉพาะตั๋ว อานิสงส์ส่วนประเทศชาติบ้านเมือง ก็ได้รับต่อไปแถมดั่งนี้  

๑๖. ประชาชนพลเมืองตั้งหลายจักมีความสามัคคีกลมเกลียวเป๋นน้ำหนึ่งใจเดียวกั๋น  

๑๗. พวกอันธพาลสันดานหยาบหันหมู่ประชาชนเป๋นผู้มีน้ำใจศีลธรรม ก็มีใจ๋ใคร่คบหาสมาคมด้วย กึดละอายเกิดขึ้นในใจ๋ บ่อาจจักเป๋นพาลต่อไป ก็กลับใจ๋เป๋นพลเมืองดี มีศีลธรรมต่อไป

๑๘. ความก้าวร้าวเบียดเบียนกั๋นก็บ่มี  

๑๙. โจร๋ผู้ร้ายก็สงบ  

๒๐. ฝนก็ตกจอบต๋ามฤดูก๋าล  

๒๑. ปิจจะข้าวกล้าก็งอกงามบริบูรณ์  

๒๒. ปราศจากมหาภัยพิบัติ กือน้ำก็บ่ท่วม ลมร้ายก็บ่ปัดแผ่นดินก็บ่ล่มจ๋ม ไฟก็บ่ไหม้ โรคห่าตั้งหลาย กือโรคติดต่อก็บ่มี

๒๓. พลเมืองตั้งหลายมีความสุขสบาย  

๒๔. เมื่อประเทศชาติบ้านเมืองอยู่เย็นเป๋นสุขแล้ว นานาชาติก็บ่อาจมาราวีได้  

๒๕. พระมหากษัตริย์และเจ้านายผู้ปกครองประเทศก็มีความสุขสบาย

ก๋ารปฏิบัติรักษาศีล ๕ อันเป๋นบันไดจั้นต่ำเบื้องต้นของพระพุทธศาสนา มีอานิสงส์หื้อได้รับความสุขในปัจจุบันหันประจักษ์แจ้งแก่ต๋าดั่งนี้ กันว่าต๋ายไปแล้วก็ได้ขึ้นไปเกิดในสวรรค์ กันจุติจากสวรรค์ ก็ได้มาเกิดเป็นมนุษย์มีรูปอันงาม มีปัญญาเฉลียวฉลาด มีทรัพย์สมบัติมาก มีอายุยืนยาว มีผัวเมีย มีลูกมีหลานก็ว่านอนสอนง่าย บ่มีศัตรูเบียดเบียนได้ และเป๋นปัจจัยทำหื้อมีความสุขไปตราบจนถึงพระนิพพาน


ผู้ตี่รักษาศีล ๘ ก็ได้รับความสุขปัจจุบันมากกว่าศีล ๕ ขึ้นไปแถม กือได้ไปอยู่ ณ. ตี่วัดเป๋น กายะวิเวก สงบอารมณ์ ปราศจากความตุกขเวทนา กือ กามะฉันทะ ปราศจากกามคุณ ปราศจากก๋ารพยาบาทจองเวร  ถีนะมิตทะ ปราศจากความง่วงหงาวหาวนอน  อุทัจจะ กุกุจจะ ปราศจากความฟุ้งซ่านรำคาญใจ๋ บ่มีสิ่งใดมารบก๋วน  วิจิกิจฉา ปราศจากความสล้างสงสัยในพระธรรมกำสั่งสอน แล้วไปอบรมทำใจ๋หื้อบริสุทธิ์แยบคายเสมอดั่งพรหม กันว่าต๋ายก้ได้ขึ้นไปเกิดในจั้นพรหม มีความสุขและมีอายุยืนยิ่งกว่าจั้นสวรรค์ กันจุติต๋ายก็จักได้มาเกิดเป๋นมนุษย์ในสกุลสูง เป๋นมนุษย์มีรูปโฉมอันเลางาม มีปัญญาเฉลียวฉลาด มีอายุยืน มียศศักดิ์บริวาร มีอำนาจมาก

มนุษย์ผู้ใดถือศีล ๕ ได้มั่นเตี่ยงแล้ว ผู้นั้นได้เป๋นอุบาสกอุบาสิก๋าในพระพุทธศาสนา เป๋นผู้มีปัญญาเกิดมาบ่เสียจาติ เป๋นผู้ฉลาดนำความสุขมาใส่ตั๋ว ประเสริฐกว่าทรัพย์สมบัติตั้งหลายตี่มีอยู่ในโลกตั้งมวล แก้วมณีโจติของพระจักรพรรดิ์ผู้เป๋นใหญ่กว่ามนุษย์ตั้งปวง และเครื่องประดับขัติยะนารีตั้งหลาย มีแก้วแหวนเงินทองเป๋นเหตุของตัณหาก๋ามคุณ เหมือนดั่งน้ำผึ้งแจ่ยาพิษ สำหรับนำความตุกข์มาใส่ตั๋วด้วยบ่มีผะโยจนะสิ่งใดเลย

น้ำแม่คงคา ยมนา อะจีระวดี มหิ มหาสะระพู ซึ่งเป๋นแม่น้ำใหญ่ตั้ง ๕ แม่นี้ แม่นจักเอามาอาบหื้อหมดเซี้ยงตั้ง ๕ แม่นี้ก็บ่อาจจักล้างบาป กือความเดือดฮ้อนปายในหื้อหายได้ ลมฝนมะเห็บแม่นจักตกลงมา ๑๐๐ ห่า เย็นและหนาวสักปานใดก็ดี ก็บ่อาจจักเย็นเข้าไปถึงปายในหื้อหายจากความตุกขเวตนาได้ ศีล ๕ เป๋นอริยทรัพย์ เป๋นต้นของความบริสุทธิ์ เป๋นน้ำทิพย์สำหรับล้างบาป กือความเดือดฮ้อนปายในหื้อหายได้ เป็นบันไดแก้วสำหรับก่ายขึ้นไปอยู่จั้นสวรรค์

สมดั่งบาลีว่า สีเลนะสุคติ๋งยันติ ศีลเป๋นตี่หื้อจ๋ำเริญไปด้วยความสุข สีเลนะโภคะสัมปะทา ศีลหื้อจ๋ำเริญไปด้วยโภคะทรัพย์สมบัติตั้งมวล สีเลนะนิพพุติ๋งยันติ ศีลทำผะโยจะนะหื้อมีความสุขไปตราบถึงพระนิพพานอันเป๋นความสุขอย่างยิ่งได้แต้จริง ตัสสมา สีลังวิโสทะเย เหตุนั้นศีลจิ่งเป๋นของวิเศษยิ่งนัก หาอันใดจักเปรียบเตียมบ่ได้ ดั่งพระพุทธภาษิตตรัสไว้ว่า

ความบ่เบียดเบียนซึ่งกั๋นและกั๋น เป็นความสุขในโลก พระธรรมกำสั่งสอนหื้อถือศีล ๕ เป๋นธงชัยเฉลิมโลก ถ้ามนุษย์ตั้งหลายปากั๋นถือศีล ๕ ได้ทั่วโลกแล้ว มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายซึ่งมีอยู่ในโลกก็จักมีแต่ความสุข จักทำสิ่งใดก็มีแต่ความจำเริญ โลกกับธรรมต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกั๋นดั่งนี้แล้ว แผ่นดินนี้ก็จักกล๋ายเป๋นแผ่นดินเมืองสวรรค์ น้ำต๋าของมนุษย์อันเป๋นทะเลท่วมโลกมาแล้วแต่ก่อนก็จักเหือดแห้งหายไปสมดั่งภาษิตว่า หื้อรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประเทศชาติบ้านเมืองจิ่งจักมีความสุขความจำเริญ อันความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็คือผู้ตี่ตั้งอยู่ในศีล ๕ นี้แล ถ้าผู้ใดบ่มีศีล ๕ กับตัวแล้ว ก็แปล๋ว่าเป๋นผู้ขุดขุมฝังตั๋วไว้ในจาตินี้เสียแล้ว จักไปโตษไผได้


ปุถุชนตั้งหลายอย่าได้สงสัยว่าพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วจักทำอย่างใดก็บ่ได้ถึงมรรคะผลาและพระนิพพานนั้น ความจริงพระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม ซึ่งธรรมนั้นก็เป๋นสิ่งตี่มีอยู่ก่อนแล้ว แล้วพระองค์จิ่งได้เป๋นพระพุทธเจ้า เมื่อต่านได้ถึงนิพพานไปแล้ว ผู้ปฏิบัติถูกต้องต๋ามธรรมกำสั่งสอนก็ได้เป๋นอรหันต๋าถึงนิพพานไปแล้วก็มีเหมือนกั๋น ถ้าผู้ใดเล็งหันว่าพระธรรมกำสั่งสอนเป็นความจริงบริสุทธิ์แล้ว ผู้นั้นย่อมเล็งหันพระพุทธเจ้าได้ทุกเมื่อ แม่นว่าพระองค์ต่านยังทรงทรมานอยู่ก็ดี ผู้ใดบ่ได้ปฏิบัติหื้อถูกต้องต๋ามธรรม ก็บ่อาจป้นจากความตุกข์ได้ ข้อฏิบัติตี่หื้อป้นจากความตุกข์ได้ กือหื้อรักษาหื้อบริสุทธิ์เสียก่อนแล้วสมาธิความตั้งมั่นจิ่งจักมี ถ้ารักษาศีลบ่บริสุทธิ์แล้ว ความตั้งมั่นแห่งสมาธิก็มีบ่ได้ เพราะฉะนั้นปุถุชนตั้งหลายผู้แสวงหาความสุขใส่ตั๋ว จุ่งปากั๋นรักษาศีลหื้อบริสุทธิ์เตอะ  เมื่อศีลบริสุทธิ์แล้ว สมาธิความตั้งมั่นก็จักเกิดมีมา แล้วหื้อปุ๊กปัญญา ปัญญาก็หากจักเกิดมีขึ้นได้

กือหื้อหมั่นระลึกนึกถึงตั๋วอยู่เสมอๆ ว่าบ่ใจ่ตั๋วบ่ใจ่ต๋น เป๋นธาตุตั้ง ๔ ขันธะตั้ง ๕ ตั้งอาก๋าร ๓๒ ก็เป๋นของโสโครก เป๋นตั๋วตุกข์ ตั๋วแก่ ตั๋วเจ็บ ตั๋วต๋าย บ่ใจ่ตั๋ว ต๋นตี่จักติดต๋ามไปในโลกหน้าได้ หื้อหันแจ้งด้วยปัญญาตั๋วเองแน่นอนลงไปแล้ว จิ่งเป๋นสมุทะประหารกิเลสหมดแล้ว จิตก็เป๋นวิมุติ หลุดป้นจากความตุกข์ ก็จักได้เป๋นอรหันต๋าสมจริงดั่งพระบาลีตรัสไว้ว่า อะเสวะนา จะปาราณัง สภาวะอันได้ฮู้จักพาลปายใน กือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ซึ่งเป๋นต้นเหตุแห่งความตุกข์ แล้วบ่ได้ซ้องเสพคบหา กับมันก็ดี ปัณฑฺิต๋า นันจะเสวะนา สภาวะอันได้เสพไปคบกับบัณฑิตตะนักปราชญ์ ได้ฟังธรรมกำสอนแห่งพระพุทธเจ้า จนได้รู้จักพาลปายใน อันเป๋นต้นเหตุแห่งบาปก็ดี ปู๋ชาจะนียานัง ขียาอันได้ไหว้ได้ปู๋จายังพระพุทธเจ้าก็ดี เอตั๋งติวิทะ กั๋มมัง อันว่ากั๋ม ๓ ประก๋ารนี้ มังกะรัง ก็เป๋นมังกะละ อุตตะมัง อันอุดมดีต๋ามดั่งกล่าวมานี้

พระพุทธเจ้าได้ป่ำเป็งสร้างป๋าระมีมาได้ ๔ อะสงไขปล๋ายแสนมหากัปป์  จิ่งได้ตรัสรู้ใยยะธรรมอันวิเศษ ฮู้ต้นเหตุตี่เกิดตุกข์ ฮู้เหตุตี่บรรเทาตุกข์ ฮู้เหตุตี่ดับตุกข์ ฮู้ตางปฏิบัติไปสู่ตี่ดับตุกข์แล้ว ได้นำมาเตสนาหื้อมนุษย์ตั้งหลาย ได้ฮู้ถี่หันแจ้งดั่งนี้แล้ว บ่ใจ่ของตี่พบได้ด้วยง่าย ผู้ตี่บ่มีบุญเกยป่ำเป็งมาตั้งแต่จาติก่อนแล้ว ก็บ่ห่อนว่าจักพบได้เลย เมื่อได้เกิดมาพบกำสั่งสอนอันเป๋นความจริงบริสุทธิ์ ตี่จักนำตั๋วหื้อป้นจากตุกข์ได้ดั่งนี้ เป๋นมหาลาภอันประเสริฐแล้ว เพราะว่าทรัพย์สมบัติตั้งหลายอันเป๋นทรัพย์ปายนอกตี่เอาไปตวยบ่ได้นั้น ยังปากั๋นเร่งขวนขวายหาตั้งกล๋างวันกล๋างคืน นี้มาพบพระธรรมกำสั่งสอนตี่แนะนำหื้อผู้ปฏิบัติต๋ามหื้อป้นจากตุกข์ในบัดนี้ไปตราบถึงพระนิพพาน อันเป๋นอริยทรัพย์สำหรับติดตั๋วไปตุกจาติ ประเสริฐกว่าทรัพย์สมบัติอันมีในโลกนี้หมื่นเต่าแสนเต่าดั่งนี้

นี้ก็เป๋นโอกาสอันดีวิเศษสำหรับหมู่เฮาในชั่วชีวิตนี้ ซึ่งจักหาโอกาสอันดีอย่างนี้บ่มีอีกซ้ำปอสองแล้ว เมื่อเวลายังอยู่สบายดีก็บ่กวรถือว่าเป๋นเด็กหนุ่มหน้อยอยู่ ถ้าเฒ่าก่อนจิ่งก่อยทำบุญ ก๋ารคิดอย่างนั้นจื่อว่าเป๋นผู้ประมาทคิดผิด เพราะว่าต๋ามียังหน้าผ่อหน้ายังบ่หัน พญามัจจุราชนั้นบ่มีความกรุณาใผ บ่ว่าหนุ่มแก่จักอยู่ในอำนาจของมัน หนุ่มมันก็เอาแก่มันก็เอา บ่กวรประมาทลาสา เมื่อฮู้สึกว่าจักต้องต๋าย และหนีความต๋ายไปบ่ป้นแล้ว มีปัญหาว่าจักป้องกั๋นอย่างไรบ่หื้อมีความโศกเศร้าเสียใจ๋ เมื่อความต๋ายมาถึง กวรจักปากั๋นรักษาศีล ฟังธรรมทำบุญหื้อตานเป๋นตี่เปิ่งแก่ตั๋วไว้เสียก่อนเฒ่า เปื่อบ่หื้อเสียตีตี่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาตี่ดีแล้ว บ่หื้อมีความคลาดแคล้วกิ๋นแหนงใจ เมื่อปายลูนนั้นเตอะ นิฏฐิตั๋ง ขียา สังวรรณาวิเศษ จ๋าห้องเหตุกล่าวด้วยอานิสงส์แห่งก๋ารรักษาศีล ก็บังคมสมเร็จเสด็จเสร็จแล้วเต่านี้ก่อนแลฯ.

--------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : ธรรมเทศนาอานิสงส์การรักษาศีลของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย. พระอานันท์ พุทธธัมโม รวบรวมและเรียบเรียง. (๒๕๕๖, ๑๑ มิถุนายน). หนังสือประวัติของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งลานนาไทย วัดบ้านปาง, หน้า ๒๒๖-๒๓๘.)


(แหล่งอ้างอิงภาพ : พระครูบาเจ้าศรีวิชัยถ่ายรูปใต้ต้นขนุน วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน หลังจากพิจารณาคดีครั้งสุดท้าย อายุ ๕๙ ปี ภายในพิพิธภัณฑ์บริขารพระครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง)


IMG_6423.JPG



IMG_6337.JPG



IMG_6571.JPG



IMG_6560.JPG



IMG_6735.JPG



การเดินทางมาวัดบ้านปาง ขอจบการเดินทางด้วย
ธรรมเทศนาอานิสงส์การรักษาศีลของพระครูบาเจ้าศรีวิชัยและบรรยากาศภายในวัด สวัสดีค่ะ

-----------------


ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
        • วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน
        • พระอานันท์ พุทธธัมโม รวบรวมและเรียบเรียง. (๒๕๕๖, ๑๑ มิถุนายน). หนังสือประวัติของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งลานนาไทย วัดบ้านปาง ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน.

**หมายเหตุ :


ท่านใดประสงค์จะนำรูปภาพหรือเนื้อหาบทความไปใช้ประโยชน์ที่อื่น สามารถนำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตจากข้าพเจ้าก่อน


และได้โปรดกรุณาให้เครดิตอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มา : เว็บแดนนิพพาน และกรุณาอย่าลบหรือครอบตัดเครดิตแหล่งที่มาบนรูปภาพ “Photo by Dannipparn.com”


(ป.ล. หากว่ากระทู้บทความนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าต้องขออภัยในความผิดพลาดต่างๆ ในฐานะปุถุชนที่ย่อมทำผิดและถูกสลับกันไปไว้ ณ ที่นี้ด้วย และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป)


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-12-1 02:44 , Processed in 0.098317 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.