แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 14845|ตอบ: 33
go

วัดสวนดอก (บุปผาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (พระเกศาธาตุ, พระบรมธาตุส่วนกลางกระหม่อม องค์ที่ ๑) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8


DSC09544.jpg


วัดสวนดอก (บุปผาราม)

ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

[พระเกศาธาตุ , พระบรมธาตุส่วนกลางกระหม่อม องค์ที่ ๑]


วัดสวนดอก หรือชื่อเดิมว่า วัดบุปผารามสวนดอกไม้ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งมีความสำคัญมากวัดหนึ่งของเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนสุเทพ เลขที่ ๒๑/๑ หมู่ที่ ๓ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยตั้งอยู่นอกเขตกำแพงเมืองเชียงใหม่ทางด้านทิศตะวันตก มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๓๕ ไร่ ๒ งาน ๔๔ ตารางวา และมีที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๕ แปลง เนื้อที่ ๓ ไร่ ๒ งาน ๔๔ ตารางวา ปัจจุบันผนวกเอาวัดพระเจ้าเก้าตื้อรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของวัดสวนดอกแล้ว




Rank: 8Rank: 8

แก้ไขล่าสุด pimnuttapa เมื่อ 2009-10-4 07:40  

DSC08782.jpg

วัดสวนดอก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก นอกตัวเมืองชียงใหม่ เดิมบริเวณแถบนี้เป็นสวนดอกไม้ของพระเจ้าแผ่นดินเวลาเสด็จมาประพาสชมสวน ในสมัยนั้นบริเวณนี้น่าจะปลูกต้นพยอม (ขยอม) มาก เพราะเป็นไม้ยืนต้น ออกดอกสีขาว แต่พอขยายถนนหน้าวัด ทางวัดจึงได้ตัดต้นพะยอมออกไปค่ะ

Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:08 โดย pimnuttapa

  

DSC08785.jpg

ประตูทางเข้า/ออกด้านข้าง วัดสวนดอก ค่ะ


DSC09550.jpg

ซุ้มประตูโขงทางเข้า/ออกด้านหน้า วัดสวนดอก ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:08 โดย pimnuttapa

  

DSC09834.jpg

เมื่อเราเดินเข้ามาภายในวัดสวนดอก เราก็จะเห็นวิหารหลวงตั้งอยู่ด้านหน้าพระบรมธาตุเจดีย์ แต่เดี๋ยวเราจะเข้าไปกราบนมัสการพระประธานวิหารหลวงกันก่อนนะคะ ตามมาเลยค่ะ   



Rank: 8Rank: 8

DSC09510.jpg

วิหารหลวง วัดสวนดอก ค่ะ

วิหารหลวง วัดสวนดอก กว้าง ๒๕ เมตร ยาว ๖๖ เมตร สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๗๔ มีลักษณะพิเศษ คือเป็นวิหารโถง ฐานและโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่มีผนัง ดังนั้นจึงต้องทำหลังคาให้ลาดลงมาเพื่อช่วยกันฝนได้ มีระเบียงโดยรอบตัววิหารและเป็นพระวิหารที่ใหญ่ที่สุดในล้านนา สร้างในสมัยครูบาศรีวิชัย มีชั้นหรือตับของหลังคาอยู่ในองศาที่ไม่เท่ากันตามเอกลักษณ์ของวัดทางเหนือ หน้าบันเป็นแผ่นใหญ่ยาวลงมา ปกติทางเหนือนิยมทำลายหน้าบันเป็นลายม้าต่างไหม แต่ที่วัดนี้เป็นลายพันธุ์พฤกษาแทน ก่อนจะขึ้นวิหารด้านหน้าและหลังจะเห็นลวดลายแกะสลักที่หน้าบันของวิหาร หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีลายเสือแทรกอยู่ในท่ามกลางลวดลายแกะสลักเหล่านั้น เสือเป็นสัญลักษณ์ปีเกิดของครูบาศรีวิชัยค่ะ

Rank: 8Rank: 8

DSC09511.jpg

ประวัติวิหารหลวง วัดสวนดอก

วิหารหลวง สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๔ หลังจากที่วัดสวนดอกถูกทอดทิ้งให้รกร้างขาดการอุปถัมภ์มายาวนานกว่า ๓๐ ปี วัดสวนดอกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระเจ้ากือนา เมื่อ ๖๐๐ กว่าปีก่อนถูกทิ้งร้างมาอย่างน้อย ๒ รอบ รอบแรกเมื่อครั้งเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองร้างหลังยุคพม่าครอบครอง จนเมื่อพระเจ้ากาวิละขับไล่พม่าออกไปและเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมืองฟื้นฟูเชียงใหม่ให้เป็นเมืองเอกแห่งล้านนา ยุคนั้นวัดสวนดอกคงถูกทิ้งร้างไปพร้อมกับเมืองเชียงใหม่

รอบที่สองในยุคที่เชียงใหม่เป็นประเทศราชของกรุงรัตนโกสินทร์ พระเจ้ากาวิละฯ แต่งตั้งพระหาวชิระปัญญา วัดสวนดอกเป็นประมุขสงฆ์เมืองเชียงใหม่ ในยุคการฟื้นฟูเชียงใหม่ได้มีการฟื้นฟูวัดสวนดอก เป็นวัดสำคัญของเมือง ครั้งพระเจ้าอินทวิชยานนท์ถึงแก่พิราลัย (พ.ศ.๒๔๔๐) วัดทรุดโทรมขาดการดูแลรักษา แม้ว่าพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ย้ายกู้เจ้านายฝ่ายเหนือจากริมแม่น้ำปิงมาตั้งในเขตวัดด้านทิศเหนือเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๒ แต่ในครั้งนั้นวัดก็ไม่ได้อยู่ในสภาพของวัดที่รุ่งเรือง พ.ศ. ๒๔๗๔ เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย (๒๔๕๔-๒๔๘๒) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และครูบาศรีวิชัย ประธานฝ่ายสงฆ์ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ด้วยแรงศรัทธาที่ชาวเชียงใหม่มีต่อครูบาศรีวิชัย ทำให้มีประชาชนร่วมบริจาคทั้งทรัพย์และแรง การก่อสร้างซุ้มประตูโขงและกำแพง, บูรณะเจดีย์พระธาตุองค์ประธาน, สร้างวิหารหลวงค่ะ

Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:13 โดย pimnuttapa

DSC09512.jpg

ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ประดิษฐานพระประธาน ๒ องค์หันหลังพิงกัน คือองค์ที่นั่งอยู่หันทางทิศตะวันออก และองค์ที่ยืนจะหันทางทิศตะวันตกค่ะ   


DSC09513.jpg

พระประธาน องค์ที่นั่งหันทางทิศตะวันออก ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก พระประธานเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย สร้างขึ้นเมื่อแรกสร้างวัดสวนดอกในสมัยพระเจ้ากือนาค่ะ





Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:13 โดย pimnuttapa



DSC09518.jpg

พระเจ้าค่าคิง คือ พระพุทธรูปองค์เล็กด้านหน้าพระประธาน เป็นพระพุทธรูปของเก่าก่อนบูรณะใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ เมตร สูง ๒.๕ เมตร ตามตำนานสร้างขึ้นเมื่อพระเจ้ากือนาทรงประชวร พระมารดาจึงโปรดให้สร้างขึ้นให้มีขนาดเท่าพระวรกายค่ะ   


DSC09520.jpg

พระพุทธรูปทรงเครื่อง ประดิษฐานด้านขวา พระประธาน องค์ที่นั่งอยู่หันทางทิศตะวันออก ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09519.jpg

พระพุทธรูปทรงเครื่อง ๒ องค์ ประดิษฐานด้านซ้าย-ขวา พระประธาน องค์ที่นั่งอยู่หันทางทิศตะวันออก  ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก สร้างด้วยศิลปะแบบพม่า หรือที่เรียกว่าพระทรงเครื่อง สันนิษฐานว่าเป็นของเก่าเมื่อครั้งราชวงศ์มังราย และเป็นเครื่องชี้ถึงอิทธิพลและความสัมพันธ์ระหว่างล้านนากับพุกาม พระที่สร้างขึ้นในยุคบูรณะใหญ่ พ.ศ. ๒๔๗๔ ค่ะ   


DSC09521.jpg

รูปพระเวสสุวรรณ ประดิษฐาน ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ค่ะ





Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:14 โดย pimnuttapa

DSC09522.jpg

รูปเหมือนพระมหาธรรมโพธิ์ พระมหาวชิรปัญญา ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๒ – ๒๔๗๕ ค่ะ   


DSC09524.jpg

รูปเหมือนพระครูสุคันธศีลหรือ หลวงปู่คำแสน อินทะจะกะโร ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๙ – ๒๕๑๙ ค่ะ   


DSC09516.jpg

รูปเหมือนพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง  วัดสวนดอก ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ – ๒๕๓๑ ค่ะ




Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:14 โดย pimnuttapa

DSC09526.jpg
DSC09525.jpg

พระประธาน องค์ที่ยืนหันทางทิศตะวันตก ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก เป็นพระพุทธรูปไม่กี่องค์ที่หันพระพักตร์ทางทิศตะวันตก พระพุทธรูปยืนสององค์ขนาดเท่ากับครูบาศรีวิชัย ทำด้วยทองเหลืองเบื้องซ้ายขวาพระประธานเฉพาะพระพุทธรูปในพระวิหารหลวงล้วนแต่มีประวัติความเป็นมายาวนานน่าสนใจ บอกเล่าประวัติของวัดสวนดอกและเมืองเชียงใหม่ในแต่ละช่วงตอนค่ะ



แสดงความคิดเห็น

somkit  สาธุ ได้มาไหว้พระ ที่สวนดอก ด้วยความอนุเคราะห์จากน้องมิรา ขอบคุณค่ะ  โพสต์เมื่อ 2011-7-8 16:12
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 01:45 , Processed in 0.057230 second(s), 17 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.