สะระแหน่หรือถ้าอยากจะให้คุ้นหูมากขึ้นก็คือ เปปเปอร์มิ้นท์(Peppermint) หรือ มิ้นท์(Mint)
lipo twin ซึ่งทั้งสามชื่อนี้ล้วนหมายถึงสิ่งๆเดียวกัน ส่วนมากถ้าพูดถึงสะระแหน่เราคงจะเชื่อมโยงมันเข้ากับโต๊ะที่ทำจากไม้ไผ่และบนโต๊ะมีอาหารอีสานอย่างส้มตำปู ลาบหมู ไก่ย่าง ฯลฯ ไลโปทวิน แต่ถ้าหากเราพูดถึงมิ้นท์ล่ะก็ ภาพของห่อหมากฝรั่งที่วางอยู่บนชั้นวางในซุปเปอร์มาเก็ตก็คงจะลอยมาในแทบจะในทันที ไลโปทวิน ซึ่งไม่ว่าสะระแหน่จะอยู่ในที่ไหนก็ตาม มันสามารถเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างแน่นอน เรามาดูกันดีกว่าว่ามันมีดีอย่างไรบ้าง
ถ้าพูดถึงสะระแหน่แล้วนอกจากเราจะ lipo twin นึกถึงบรรยากาศในร้านอาหารอีสานแล้ว สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งก็คือกลิ่นของมันนี่เอง ไลโปทวิน และไอกลิ่นนี้นี่แหละที่สามารถช่วยคุณลดน้ำหนักได้ อาจจะฟังดูแปลกแต่มันคือเรื่องจริง เพราะจากการทดลองของ Wheeling Jesuit University lipo twin กับอาสาสมัคร 40คนพบว่าเมื่อให้อาสาสมัครได้สูดกลิ่นของสะระแหน่ทุกๆ 2 ชั่วโมงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์นั้นพบว่าอาสาสมัครนั้นกินอาหารน้อยลงไปถึง 1,800 แคลอรี และความอยากน้ำตาลและไขมันก็ยังลดลงไปประมาณ 23% อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการบริโภคก็ให้ผลไม่ต่างกันมากเท่าไรนัก ไลโปทวิน โดยถ้าหากเลือกที่จะบริโภคเข้าไปล่ะก็ใบสะระแหน่จะช่วยให้การย่อยอาหารนั้นดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อของลำไส้ lipo twin ลดการผลิตแบคทีเรียในกระเพาะอาหารและทำให้การไหลเวียนของน้ำดีดีขึ้น
สะระแหน่นั้นอยู่รอบๆตัวเราอยู่แล้ว การหามากินนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ไลโปทวิน lipo twin ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของเครื่องเคียงของอาหารอีสาน หยิบมันมากินเสียบ้าง อย่ามัวแต่ปล่อยให้มันเหงาอยู่ตรงมุมโต๊ะ หรือว่าจะเป็นหมากฝรั่งรสมิ้นท์ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นอยู่เต็มไปหมด หรือถ้าหากอยากได้ในรูปแบบของเครื่องดื่ม ชามิ้นท์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกัน หรือถ้าไม่ชอบรสชาติของมัน แค่ได้กลิ่นก็ช่วยให้คุณหิวน้อยลงแล้ว lipo twin ขอให้มันได้มาอยู่ใกล้ๆหรือเข้าไปในปากคุณก็พอแล้ว
lipo twin ทั้งนี้การกินสะระแหน่นั้นต้องอยู่ในปริมาณที่พอดีไม่มากเกินไป ก็คือกินแต่พองามก็พอ
ไลโปทวิน ไม่ใช่ตะบี้ตะบันกินทั้งวัน ไลโปทวิน เพราะถ้าหากกินมากไปมันจะเปลี่ยนเป็นพิษได้ และคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนนั้นก็ควรจะหลีกเลี่ยงสะระแหน่ด้วย