แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 14057|ตอบ: 7
go

วัดรมณียาราม (กู่ละมัก) ม.๔ ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

DSC05308.JPG



วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)  

ม.๔ ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน

[พระบรมธาตุเจดีย์]

---------------------


(แก้ไขข้อมูลล่าสุด : 6 ตุลาคม 2568)


Rank: 8Rank: 8

DSC05321.JPG



วัดรมณียาราม ชื่อเดิมว่า วัดกู่ละมัก ตั้งอยู่บนถนนสายลำพูน-ป่าซาง ห่างจากตัวเมืองลำพูนไปทางทิศใต้ประมาณ ๔ กิโลเมตร ตั้งอยู่เลขที่ ๔๓ บ้านศรีย้อย หมู่ที่ ๔ ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ทั้งหมด ๑๐ ไร่ ๒ งาน ๓๗ ตารางวา

เสนาสนะประกอบด้วย วิหาร ศาลา ศาลาบาตร กุฏิสงฆ์ และโรงครัว ปูชนียสถานปูชนียวัตถุประกอบด้วย พระบรมธาตุเจดีย์ (พระธาตุกู่ละมัก) พระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะละโว้ เศียรพระพุทธรูป เศียรพระฤาษี ศิลปะละโว้ และธรรมาสน์หลวง ซึ่งสร้างโดยพระครูบาเจ้าศรีวิชัย


DSC05255.JPG



ป้ายวัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05291.JPG



ทางเข้าด้านหน้า วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05259.JPG



ทางเข้าด้านหลัง วัดรมณียาราม (กู่ละมัก) ติดถนนสายลำพูน-ป่าซาง (รพช. ลพ.๕๒๐๘) ระยะทาง ๓๔๕ เมตร


DSC05265.JPG



DSC05266.JPG



รูปปั้นสิงห์คู่ ประดับหัวเสากำแพงประตูทางเข้าด้านหลัง วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)



DSC05297.JPG



บรรยากาศภายใน วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05293.JPG



DSC05294.JPG



DSC05298.JPG



DSC05317.JPG



วิหาร วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05299.JPG



DSC05290.JPG



DSC05289.JPG



บันไดนาคทางขึ้นด้านหน้าวิหาร วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


Rank: 8Rank: 8

DSC05301.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานด้านหลังวิหาร วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)



DSC05325.JPG



DSC05328.JPG



DSC05277.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ (พระธาตุกู่ละมัก) วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)

ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ที่มีความสูงขนาดเท่ากับพระนางจามเทวีและลูกธนูเสี่ยงทางสถานที่ตั้งสร้างวัดรมณียาราม (กู่ละมัก) ๓ ดอกบรรจุไว้ด้วย

สร้างโดย พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย (จังหวัดลำพูนในปัจจุบัน) เมื่อประมาณ พ.ศ.๑๒๐๖ ใช้เวลาสร้างเกือบ ๒ เดือน แล้วทรงทำพิธีการสมโภช ๓ วัน ๓ คืน ทรงขนานนามว่า พระอารามรามัญ (สถานที่แห่งนี้ปัจจุบันคือ วัดรมณียาราม (วัดกู่ละมัก) จ.ลำพูน)

จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ พระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้ทำการบูรณะและสร้างครอบเจดีย์องค์เดิมดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ใช้เวลาในการก่อสร้าง ๑ เดือน


DSC05273.JPG



คำนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์

(ว่านะโม ๓ จบ) วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อะระหันตา ธาตุโย เจติยัง คันทะกุฏิง จะตุละสี ติสสะหัสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ ทุระโส อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหังวันทามิ สิระสาฯ



DSC05308.1.jpg



DSC05305.JPG



ประวัติวัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


จาก ป้ายประวัติวัดรมณียาราม (กู่ละมัก) และตำนานมูลศาสนา



ในปีพุทธศักราช ๑๒๐๖ พระนางจามเทวี ได้เสด็จขึ้นเรือจากเมืองละโว้มาตามแม่น้ำปิงตามคำเชิญของพระฤาษีวาสุเทพหรือพระสุเทวฤาษี และสุกกทันตฤาษี เพื่อขึ้นครองเมืองหริภุญชัย ระหว่างที่พระนางเสด็จขึ้นมาตามแม่น้ำปิงได้ผ่านสถานที่ต่างๆ

เมื่อมาถึงท่าน้ำชื่อว่า เจียงตอง (ปัจจุบันอาจเป็นอำเภอจอมทอง) พระนางจึงหยุดพักไพร่พล ณ ที่นั่น และได้ตรัสกับนายธนูผู้ขมังเวทย์เป็นผู้จัดการคาดคะเนยิงธนูหาภูมิประเทศที่วิเศษที่จะสร้างวัด โดยที่พระนางเจ้าได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า หากลูกธนูไปตก ณ ที่แห่งใด จะให้สร้างองค์มหาเจดีย์และวัด ณ ที่แห่งนั้น

ดังนั้น นายธนูผู้มีพระเวทย์ก็ยิงลูกธนูหันหัวศรมุ่งตรงมาทางทิศเหนือ ๓ ครั้ง และเป็นที่ประหลาดอัศจรรย์ ในเมื่อลูกธนูพุ่งขึ้นสู่อากาศไปบนฟ้าทั้ง ๓ ดอก จากจุดที่ยิงจากเจียงตอง ลูกธนูพุ่งมาตามแรงอธิษฐานของพระนางเจ้า แล้วตกลงมาทั้งสามครั้ง


ซึ่งเมื่อนายธนูได้ติดตามค้นหาลูกธนูที่ยิงมานั้นก็ได้พบว่าตกมายัง ณ จุดที่สร้างองค์เจดีย์กู่ละมัก พระนางจึงโปรดฯ ให้มีการสร้างมหาเจดีย์ขึ้นบริเวณดังกล่าว พร้อมกับรับสั่งให้ช่างเอาธนูทั้ง ๓ ดอกนั้นบรรจุลงไปในองค์พระเจดีย์นั้นด้วย

อนึ่ง พระนางได้โปรดฯ ให้สร้างพระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ที่มีความสูงขนาดเท่ากับพระนางจามเทวี และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งนำมาจากเมืองละโว้บรรจุไว้ข้างในองค์มหาเจดีย์นี้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ของพระนางจามเทวีองค์หนึ่ง

เพื่อให้เป็นที่กราบไหว้ของผู้คนทั้งหลาย เพื่อให้บังเกิดเป็นสิริมงคลและยังเป็นการนำมาซึ่งความผาสุก ความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้คนที่มาเคารพสักการบูชา หลังจากพระนางจามเทวีสร้างองค์มหาเจดีย์แล้ว พระนางก็ทรงโปรดให้สร้างวัดไว้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมจำพรรษาของพระสงฆ์องค์เจ้าและสามเณรที่ได้อาราธนามาจากกรุงละโว้ด้วย

สำหรับพระเจดีย์ได้ปรักหักพังไปตามกาลเวลา จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ พระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้ทำการบูรณะและสร้างครอบเจดีย์องค์เดิมดังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ใช้เวลาในการก่อสร้าง ๑ เดือน


ซึ่งพระครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สร้างพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะละโว้ เศียรพระพุทธรูป เศียรพระฤาษี ศิลปะละโว้ ธรรมาสน์หลวง ที่ใช้สำหรับแสดงพระธรรมเทศนาไว้ในคราวนั้นด้วย องค์เจดีย์กู่ละมักนี้จึงถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพกราบไหว้ของผู้คนทั้งหลาย

--------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล :
ป้ายประวัติวัดรมณียาราม (กู่ละมัก))


DSC05316.JPG



ประวัติวัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


เรียบเรียงโดย พระชัยวัฒน์ อชิโต

หนังสือตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๑



ในสมัยพระนางจามเทวี เสด็จมาสร้างพระธาตุดอยน้อย แล้วจึงข้ามฝั่งแม่น้ำระมิงค์ เสด็จเลียบฝั่งด้านตะวันออกเรื่อยมากระทั่งถึงสถานที่แห่งหนึ่ง มีบริเวณร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ดี จึงได้ยับยั้งไพร่พลที่นี้

คืนนั้นก็ได้ทรงพระสุบินว่า มีดวงมณีขาวโชติช่วงได้ตกลงมายังภาคพื้นดิน ณ สถานที่ใกล้ๆ กับที่พักไพร่พล จึงวันรุ่งขึ้นเป็นวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง พุทธศก ๑๒๐๑ ก็ประชุมพระอาจารย์ แล้วทรงเล่าถึงพระสุบินจนจบสิ้น

พระอาจารย์ทั้งปวง ก็ทำนายพระสุบินว่า สถานที่นี้จักเป็นสถานที่สำคัญ จักเจริญด้วยศาสนาของพระตถาคต จึงถวายความเห็นว่า สมควรสร้างพระอาราม ณ ที่นี้

ดังนั้นในวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๕ นั้น ได้เริ่มสร้างพระอาราม ทรงสร้างพระเจดีย์ทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และทรงสร้างพระพุทธรูปเท่าพระองค์ หมู่เศรษฐีที่ติดตามมาได้สร้างพระพุทธรูปไว้เป็นจำนวนมาก รวมเวลาสร้างเกือบ ๒ เดือน

แล้วทรงทำพิธีการสมโภช ๓ วัน ๓ คืน ทรงขนานนามว่า พระอารามรามัญ (สถานที่แห่งนี้ปัจจุบันคือ วัดกู่ละมัก จ.ลำพูน)

--------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๔๙, ๑ มกราคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๑ (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์, หน้า ๓๗๖.)


Rank: 8Rank: 8

DSC05285.JPG



DSC05279.JPG



DSC05315.JPG



ซุ้มพระพุทธรูปทั้ง ๔ ทิศ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)



DSC05280.JPG



DSC05284.JPG



DSC05313.JPG



DSC05314.JPG



พระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานภายในซุ้มจระนำทั้งสี่ทิศ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05327.JPG



พระพุทธรูปปางประทานพร ประดิษฐานด้านทิศใต้ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


Rank: 8Rank: 8

DSC05267.JPG



DSC05268.JPG



ศาลพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร) วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


คณะศรัทธาวัดรมณียาราม (กู่ละมัก) สร้างถวายเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๗



DSC05271.JPG



อนุสาวรีย์เจ้าแม่จามเทวี เจริญประชาสามัคคี วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)

คณะศรัทธาวัดรมณียาราม (กู่ละมัก) สร้างถวายเมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๑



DSC05270-(2).jpg



คำสักการบูชาพระนางจามเทวี
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)     

ยา เทวี จามะเทวีนามิกา อะภิรูปา อะโหสิ ทัสสะนียา ปาสาทิกา พุทธะสาสะเน จะ อะภิปะสันนา สา อะตีเต เมตตายะ เจวะ ธัมเมนะ จะ หะริภุญชะยะ นะคะระ วาสีนังปิ มะหันตัง หิตะสุขัง อุปปาเทสิ อะหัง ปะสันเนนะ เจตะสาตัง วันทามิ สิระสา สัพพะทา

พระเทวีองค์ใดพระนามว่า จามเทวี มีพระรูปเลอโฉม ทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนามาก ในอดีตกาลพระนางได้ปกครองเมืองหริภุญไชยด้วยพระเมตตาและเป็นธรรม อำนวยประโยชน์สุขแก่ชาวหริภุญไชยอย่างยิ่ง ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใสศรัทธา ขอน้อมเกล้าสักการะพระเทวีองค์นั้น



Rank: 8Rank: 8

DSC05304.JPG



ศาลา วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05307.JPG



พระพุทธรูปปางสมาธิ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05300.JPG



อาคารเรียนพระปริยัติธรรม วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05274.JPG



DSC05269.JPG



DSC05281.JPG



หอระฆัง วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


Rank: 8Rank: 8

DSC05276.JPG



DSC05275.JPG



ฐานอุโบสถสมัยโบราณ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)

เมื่อหลายปีที่ผ่านมา วัดมีการสร้างถนนผ่านด้านหลังวัด มีการขุดค้นพบพระเครื่องจำนวนมาก และยังพบฐานอุโบสถสมัยโบราณและของโบราณจำนวนมาก ทางกรมศิลปากรดำเนินการสำรวจแล้ว


DSC05311.JPG



DSC05278.JPG



ใบเสมาหิน อุโบสถสมัยโบราณ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)



DSC05322.JPG



DSC05323.JPG



บ่อน้ำทิพย์ อยู่นอกกำแพงด้านหน้า วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05324.JPG




ประวัติบ่อน้ำทิพย์ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


สมัยที่พระแม่เจ้าจามเทวี เสด็จจากกรุงละโว้มาขึ้นที่วัดกู่ละมัก ได้อธิษฐานให้มีน้ำขึ้นมาจากพื้นดิน เพื่อที่เหล่าทหารและคนติดตามได้ดื่มกินกัน เรียกว่า “บ่อน้ำทิพย์” กาลเวลาผ่านไป มีดินทับถมจนไม่เหลือร่องรอย คุณนวลระหงส์ ธานัสชา ได้ทำพิธีขุดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

----------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : หนังสือละคอนการกุศล พระราชประวัติพระนางจามะเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญไชย พระนางจามะเทวี ๑๔๐๐ ปี นครหริภุญไชย, โดยชมรมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติ กรมศิลปากร ดาราวิดีโอ จำกัด.)



DSC05306.JPG



หอเสื้อวัด และบ่อน้ำ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)



DSC05309.JPG



บ่อน้ำ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)



DSC05310.JPG



กุฏิสงฆ์ วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


DSC05288.JPG



โรงครัว วัดรมณียาราม (กู่ละมัก)


Rank: 8Rank: 8

ภาพวัดรมณียาราม (กู่ละมัก) พ.ศ.๒๕๕๐


DSC05256.JPG



DSC05312.JPG



DSC05261.JPG



DSC05260.JPG



DSC05263.JPG



DSC05262.JPG



ขอจบการเดินทางด้วยภาพเก่าวัดรมณียาราม (กู่ละมัก) ถ่ายภาพเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ สวัสดีค่ะ

----------------------


ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
        • วัดรมณียาราม (กู่ละมัก) อ.เมือง จ.ลำพูน
        •
พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๔๙, ๑ มกราคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๑ (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์.        
        • หนังสือละคอนการกุศล พระราชประวัติพระนางจามะเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญไชย พระนางจามะเทวี ๑๔๐๐ ปี นครหริภุญไชย, โดยชมรมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติ กรมศิลปากร ดาราวิดีโอ จำกัด.

**หมายเหตุ :


ท่านใดประสงค์จะนำรูปภาพหรือเนื้อหาบทความไปใช้ประโยชน์ที่อื่น สามารถนำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตจากข้าพเจ้าก่อน


และได้โปรดกรุณาให้เครดิตอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มา : เว็บแดนนิพพาน และกรุณาอย่าลบหรือครอบตัดเครดิตแหล่งที่มาบนรูปภาพ “Photo by Dannipparn.com”


(ป.ล. หากว่ากระทู้บทความนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าต้องขออภัยในความผิดพลาดต่างๆ ในฐานะปุถุชนที่ย่อมทำผิดและถูกสลับกันไปไว้ ณ ที่นี้ด้วย และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป)


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-12-13 17:15 , Processed in 0.091222 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.