- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2013-1-26
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2016-3-21
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 162
- สำคัญ
- 0
- UID
- 10617

|
มีคำถามอยู่คำหนึ่งที่ผมถูกถามแล้วผมต้องครุ่นคิดอยู่นานจึงเขียนออกมาเป็นเรื่องราวได้ คำถามที่ว่าก็คือมีวิญญาณของคนไทยเท่านั้นหรือที่ตกนรก เพราะผ่านทีไรก็เห็นแต่คนไทย เป็นคำถามที่ตั้งข้อสงสัยให้ผมอยู่ตลอดว่า ชาวต่างประเทศ เขาตกนรกหรือขึ้นสวรรค์เหมือนกันกับคนไทยไหม ทำอย่างไรดี เอาละสิ จะสอบถามใครได้ล่ะทีนี้ อ้อ ท่านพญายมราชสิ ท่านสามารถให้คำตอบกับผมได้มากที่สุด เมื่อคิดได้ดังนี้ ผมก็กำหนดสมาธิจิต เพื่อลงไปกราบท่านพญายมราชในนรกเบื้องล่าง สิ่งแรกที่ผมไม่ลืมก็คือ ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งไปถึงท่านพญายมราชด้วยเทอญ หลังจากนั้นผมก็มานั่งอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าของท่าน ผมก้มลงกราบท่าน
# o' H" Y! y4 Cผม : “กราบสวัสดีท่านอีกครั้งครับ”
; l9 L; D3 s- |# N. x& {$ z7 Vท่าน : “สวัสดีเหมือนกัน”/ p1 x9 K4 Z( t" {! r9 ]
ผม : “ผมมีข้อสงสัยที่จะสอบถามท่านสักนิดครับ”
& p; }8 v, l' F4 t3 Y) t% ]+ O s! sท่าน : “มีอะไรเธอจงถามมา”
# ?9 n. N' E A7 K; H& S5 m, M( z& s( Pผม : “ก็เรื่องที่ว่านอกจากคนไทยแล้วเนี่ย ยังมีชนชาติอื่นที่เขาตกนรกอีกไหม”
9 R5 `1 r8 x' n0 I7 Gท่าน : “มี ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน ภาษาไหน ต่างก็ลงนรกแห่งเดียวกันนี่แหละ”$ A9 _& V3 `( A) N
ผม : “อ้าว ! หรือครับ แล้วผมไม่เห็นความแตกต่างกันเลยละครับ”
: I) g" [; {9 N! T6 b7 Q) ~, l9 Uท่าน : “ก็เธอติดกับลักษณะของคนไทยก็เลยเห็นแต่คนไทย” w. D2 Y, P' C, h, ]3 \
ผม : “อ้อ ! ผมเห็นในหนังว่า นรกบางชาติเขามีความแตกต่างกับของคนไทย จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกันไหม”, I' b% M6 I4 L$ {8 p
ท่าน : “ที่เธอเห็นนะเกิดจากจินตนาการเสียเป็นส่วนใหญ่”" R; |# u8 D$ V- g* ^
ผม : “บางทีก็เป็นผู้ดูแลนรกของต่างประเทศ อยากยึดสวรรค์มาเป็นของตน”* w9 W4 ?. |3 n+ A) P
ท่าน : “แล้วเธอเชื่อไหมละ”
. y5 H7 `! p8 k9 Eผม : “ไม่ครับ ผมเคยฟังมาว่า คนต่างชาติเมื่อเขาตายก็มารวมกัน ณ สถานที่แห่งนี้”
9 g% }* g5 Z* ]ท่าน : “เธอเข้าใจถูกต้องแล้ว”* N6 X/ \' [% I
ผม : “ผมมองไปรอบ ๆ ผมก็แยกไม่ออกอยู่ดีว่า ใครเป็นใคร เพราะทั้งรูปร่างก็คล้ายกันหมด คือตัวดำเหมือนเจ้าเงาะป่าไม่มีผิด แล้วผมจะแยกออกได้อย่างไร”' y4 M) v u3 H" a
ท่าน : “ก็นั่นอย่างไรละ เธอมองตามรูปร่างไงล่ะ แต่หากมองไปที่จิตเธอก็จะพบความแตกต่างว่า รูปร่างเดิมเขา" Q$ T# G) A3 r
เป็นอย่างไร”- S0 `( X1 ]& z# O; m
ผม : “อ๋อ ! เป็นอย่างนี้นี่เอง ท่านพอจะมีตัวอย่างให้ผมดูไหมครับ”
; I% P# ?5 C( k0 L7 kท่าน : “มี เอาเรื่องอะไรล่ะ”
9 B" c+ C f# c3 Eผม : “คงเป็นเรื่องของการฆ่าสัตว์ก่อนก็แล้วกัน”
/ V' Y* h7 d) |ท่าน : ได้ ถ้าเช่นนั้นเธอมองไปบริเวณด้านขวาของเธอ
' {, d# x8 `" x: g/ R: M o/ Iผมหันกลับมามองตรงบริเวณด้านขวามือก็ปรากฏร่างของชายคนหนึ่ง มีรูปร่างสูง ผิวคล้ำ ยืนกางแขน กางขา หลังพิงกำแพง ที่บริเวณขาและแขนทั้งสองข้างถูกตรึงด้วยโซ่ โอ้ คุณพระ สิ่งที่ผมเห็นต่อจากนั้นก็คือ นายนิรบาล 2 คน นำไม้ท่อนยาวประมาณ 3 ฟุต ขนาดประมาณข้อมือ กระหน่ำตี ที่เรียกว่า กระหน่ำก็กระหน่ำจริง ๆ เพราะต่างฝ่ายต่างตีแบบไม่นับ ร่างของชายคนนั้นโอนไปเอนมา หากไม่มีโซ่ที่ผูกไว้ที่บริเวณข้อมือและขาแล้วก็คงต้องกระเด็นไปไกลแน่ ๆ เพราะแรงที่ตีแต่ละที หนักหน่วงเอาการอยู่ เรียกว่าตีแบบสุดแรงเกิด เสียงของชายคนนั้นโหยหวน ฟังดูแล้วขนลุกชันไปทั้งตัว เสียงไม่เหมือนกับคนร้อง แต่เหมือนสัตว์มากกว่า เหมือนกับควายที่กำลังได้รับความทุกข์ทรมาน สิ่งที่ตามมาก็คือ นายนิรยบาลคนหนึ่งถือมีดที่มีความยาวประมาณ 1 ฟุต มากรีดไปตามตัวของชายคนนั้น เลือดที่เปรอะตามตัวว่า น่ากลัวแล้ว แต่เลือดสด ๆ ที่ไหลออกมาตามบาดแผลน่ากลัวกว่าไหลออกมาเหมือนน้ำหยดตามพื้นเต็มไปหมด ต่อจากนั้นนายนิรยบาลก็ลอกหนังของชายคนนั้นแบบสด ๆ ลอกจนหมดทั้งตัว เหลือแต่เนื้อแดง ๆ ที่ยืนอยู่เลือดสด ๆ ไหลนองพื้นไปหมด ต่อจากนั้นนายนิรยบาลที่ถือมีดก็นำมีดมาผ่าไปตรงบริเวณท้องของชายคนนั้น ตั้งแต่สะดือจนไปถึงหน้าอก ต่อจากนั้นก็นำเครื่องในออกมากองไว้ตรงแท่นศิลาที่อยู่ใกล้ ๆ หลังจากนั้นนายนิรยบาลก็ชำแหละเนื้อของชายคนนั้นออกมาเป็นชิ้น ๆ กองไว้ ตรงแท่นศิลาที่วางหนังกับเครื่องในไว้เมื่อสักครู่นี้ เมื่อหันไปดูชายคนนั้นอีกครั้ง ก็ปรากฏว่าเหลือแต่โครงกระดูก แต่ที่น่าแปลกใจก็คือยังมีเสียงร้องออกมาจากโครงกระดูกนั้นตลอดเวลา นายนิรยบาลเมื่อเห็นว่าชำแหละเนื้อออกมาหมดแล้วก็หันไปที่เครื่องในที่กองไว้แล้วหยิบหัวใจที่กำลังเต้นตุบ ๆ ชูขึ้นมาแล้วก็บีบจนหัวใจดวงนั้นเละคามือ ชายคนนั้นที่อยู่ในรูปของโครงกระดูก กรีดร้องออกมาจนสุดเสียง เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นนายนิรยบาลที่อยู่ตรงบริเวณนั้นก็นำน้ำชุบชีวิตมาพรมตรงบริเวณชิ้นส่วนของร่างกายที่บนแท่นศิลาและโครงกระดูก ก็ปรากฏเป็นร่างชายคนนั้นอีกครั้ง ชิ้นส่วนของร่างกายที่วางอยู่บนแท่นศิลาก็หายไป ผมละสายตาจากภาพดังกล่าวแล้วหันมาพูดกับท่านพญายมราช
" g6 `4 }5 Z8 Pผม : “ชายผู้นี้เขาทำกรรมอะไรครับ”
9 \! Z2 q& H7 \% i. d6 T' M6 ~" rท่าน : “ชายผู้นี้เขาฆ่าควายเป็นอาชีพ ในบางครั้งควายที่เขาฆ่ายังไม่ทันตาย เขาก็ลอกหนังออกมาเลย ก็ต้องถูกลอกหนังบ้าง”5 \6 e9 G8 r6 A( M: M, ^
ผม : “เขาต้องถูกลงโทษนานสักแค่ไหนครับ”8 K7 @5 o: B w) P1 w
ท่าน : “ต้องถูกลงโทษแบบนี้ถึง 600 ปีมนุษย์ ส่วนดินแดนอื่นอีกเป็น 1,000 ปี หลายแดนกว่าจะหมดกรรมนับเวลาเกือบ 10,000 ปี กว่าจะขึ้นไปเมืองมนุษย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมนุษย์นะ”
* C @2 Q" X/ a" R8 qผม : “น่าสงสารเขาอยู่นะครับ”
6 h$ I' `& P t) ]3 z% C1 t- q7 hท่าน : “ทำอย่างไรได้เขามีความเชื่อแบบผิด ๆ เอง ก็ถือได้ว่าเขาเลือกทางของเขาเอง”: g% Y$ a" b* Q. M" a3 X U2 U
ผม : “แต่เมื่อเขาเกิดเป็นมนุษย์เขาก็จำไม่ได้อยู่ดีว่าเขาเคยกระทำผิดอะไรมา”
( g5 [( N0 k' z1 e1 d& }: wท่าน : “นั่นก็ถือว่ามันเป็นกรรมของเขาเอง”
! U, c* G% S; g3 F& Eผม : “มันก็ถูกแต่ถ้าหากเขาจำได้ว่าทำแบบนี้มันผิด ผมรับรองได้ว่าไม่มีใครที่ทำผิดอย่างแน่นอน”+ M1 z5 t& r+ X F* n
ท่าน : “เราเข้าใจแต่มันเป็นกฎของธรรมชาติ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึกไว้ภายในจิตใต้สำนึกเหมือนกัน ที่มนุษย์เรียกมันว่า สำนึกผิดชอบชั่วดีนั่นอย่างไร”
7 B; f% f2 p+ ]& f& Z& v$ c. w lผม : “อ๋อ ! เป็นแบบนี้นี่เองมนุษย์ถึงมีความคิดแยกแยะได้ว่าแบบใดผิดแบบใดถูก แต่เพราะกรรมที่สนองช้าเกินไปเลย มองไม่เห็นว่าเป็นความผิดหรือถูก เลยเลือกที่จะทำชั่วดีกว่าเพราะผลตอบแทนรวดเร็วกว่า” \6 w7 T8 ?, i
ท่าน : “ก็อย่างที่เธอเข้าใจนั่นแหละ คนที่มีบุญจึงเลือกที่จะไม่ลงมาเกิดกัน แล้วเธอมีคำถามเพิ่มเติมอีกไหม”
; t' s* q, b% K( x4 k. Iผม : “ครับ แล้วชาติอื่นๆ เขามารับโทษในดินแดนนี้เหมือนกันหรือเปล่า”
' m+ o# s6 e. s! ]# y3 Y0 jท่าน : “ก็อย่างที่เข้าใจนั่นแหละทุกชาติทุกศาสนาต้องมาสู่ดินแดนแห่งนี้เหมือนกัน”+ ]/ @) `* {8 H7 I
ผม : “แล้วจากเรื่องราวที่ผมรับรู้มาว่า คนที่เขาเป็นชาติอื่นบางคนเขาเห็นว่านรกมีความแตกต่างจากคนพุทธเห็น”
4 e4 w# Y: V: T3 n/ aท่าน : “ถูกต้องแล้ว เพราะบางชาติเขาทำสมาธิจิตยังมีกำลังไม่เต็มที่ สิ่งที่เขาเห็นเลยไม่ชัดเจนมากเท่าที่ควร”3 X$ I" i G# r$ O- }6 @0 R+ g
ผม : “ผมเข้าใจแล้ว หมดคำถามแล้วครับ”
8 N, U9 }2 x. G1 Hท่าน : “อย่างนั้นก็พักเรื่องราวไว้เท่านี้ก่อน หากมีปัญหาข้อสงสัยเธอก็ลงมาสอบถามได้”
, C5 E j# ^4 w# M! p% q+ X! ~& G
" u( \2 N% [# n) k จากเรื่องนี้ผมได้ข้อสรุปที่ว่า ทุกชาติ ทุกศาสนา มีสถานที่แห่งการลงทัณฑ์สถานที่เดียวกัน แต่การมองแตกต่างกันไป ตามความเข้าใจของตัวเองเท่านั้น, H7 ~& W2 }! }: e0 t; V
|
|