แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 7918|ตอบ: 23
go

ภาพบรรยากาศงานหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์วัดท่าซุง 22/7/56 [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

ประวัติหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่เก่าแก่อยู่ในวิหารหลวงปู่ใหญ่ มาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (หลวงปู่ใหญ่มาบูรณะวัดนี้ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ครองราชย์ได้ปีที่ ๙ หลวงปู่ใหญ่ท่านมาถึงวัดท่าซุง เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๓๓๒)
          ในวิหารนี้มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์ ส่วนมากจะปั้นเป็นพระพุทธรูปทรงสมัยอยุธยา เป็นเกศหนามขนุนทั้งสิ้นต่อมาพระพุทธรูปบางองค์รวมทั้งหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ถูกพวกมิจฉาชีพตัดเอาพระเศียรไป และมีคนมาปั้นเศียรต่อให้แต่ก็ไม่สวยงามเท่าไรนัก โดยปั้นเป็นหน้าคนฟันเหยิน ตาโปน หมุ่นมวยผม
          ดั้งนั้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ผู้บูรณะได้กราบขออนุญาตจากพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ในสมัยนั้น ) ซ่อมแซมพระพุทธรูปทั้งหมดที่ชำรุด รวมทั้งขอปั้นปูนทับองค์หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ด้วย หลวงพ่อท่านก็อนุญาต และได้กล่าวอีกว่า "พระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อปั้นเสร็จให้ทำป้ายชื่อติดเอาไว้ พ่อให้ชื่อท่านว่า หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์  ต่อไปในภายภาคหน้าจะมีคนมาขึ้นกับท่านมาก และนี่ก็คือ ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ได้กล่าวมา จนถึงทุกวันนี้
         ฉะนั้นถ้าใครได้อ่าน และปราถนาที่จะได้ชมบารมีของท่าน ก็ขอเชิญสักการะได้ที่วิหารหลวงปู่ใหญ่ อยู่คู่กับโบสถ์เก่า วัดท่าซุง ท่านเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก บางท่านได้อธิฐานจิตขอพรจากท่าน และได้สมความปราถนาก็มีหลายราย ดังนั้น ท่านใดที่สนใจจะเข้าไปชมบารมีหรืออธิฐานจิตขอพรจากท่าน ก็เชิญได้ตามที่ปราถนา ถ้าไม่เกินวิสัย ก็ขอให้โชคดี และ สมความปราถนาทุกท่าน ฯ S6005658.JPG

Rank: 1

ตอบกระทู้ thamma02 ตั้งกระทู้


S6005631.JPG

Rank: 1

อธิฐาน......................... S6005633.JPG

Rank: 1

ตักบาตรในยามเช้า S6005635.JPG

Rank: 1

นำแผ่นทองที่จะหลอมมา จาร ชื่อ ตนเอง ครอบครัว และ พรหมเทวดาตลอดจนเจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลายให้ร่วมอนุโมทนาด้วย S6005640.JPG

Rank: 1

ทีมงานหล่อกำลังเป่าลมเพื่อเร่งให้ความร้อนละลายทองที่อยู่ในเบ้าหลอม ให้ได้ความเหลวที่ต้องการ S6005641.JPG

Rank: 1

วิหารทองคำในยามเช้า ผู้คนยังไม่มีมากเท่าไร มองดูสภาพของสิ่งปลูกสร้างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้สร้างไว้ ครั้งเมื่อท่านยังทรงสังขารอยู่ สภาพในตอนนั้นสดใสงดงามมาก แต่ปัจจุบันกาลเวลาทำให้ความสดใสนั้นมัวหมองลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หวลคิดถึงสัจธรรมข้อหนึ่งที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และท้ายสุดก็ดับไป มันเป็นกฏตายตัวของ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีอะไรทนสภาพเดิมได้สักอย่าง S6005646.JPG

Rank: 1

ระหว่างรอเวลา ก็ได้เข้ามาปัดกวาดลานพระยืน ๓๐ ศอก และบริเวณเจดีย์พุดตาล ซึ่งทุกครั้งที่ได้มายังถิ่นเดิม ผมมักจะมาทำความสะอาดบริเวณนี้อยู่เป็นประจำ เก็บเกี่ยวบุญไปทีละนิด ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ เติม ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเต็ม หลวงพ่อเคยบอกกับผมว่า ภาชนะทีใส่น้ำจนเต็มแล้วหากนำสิ่งใดใส่ลงไป น้ำนั้นก็จะล้นออก ท่านบอกผมเช่นนั้น ทำให้ผมคิดได้ว่า หากว่าจิตของปุถุชนทั้งหลายที่เต็มไปด้วยกุศล ก็เปรียบเหมือนน้ำที่เต็มภาชนะ แต่ครั้นนำสิ่งใดใส่ลงไปในภาชนะนั้น น้ำก็จะล้นออกมา เพราะว่ามีสิ่งที่เข้าไปแทนที่  สิ่งใดที่ว่านี้หมายถึง อกุศล ยามใดที่มันเข้าไปแทนที่น้ำในภาชนะนั้น ความดีของเราก็จะลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ ฉะนั้นควรงดเสียซึ่งบาปที่เป็นอกุศล S6005648.JPG

Rank: 1

เปลวไฟที่ลุกโชติช่วง เพื่อเผาโลหะที่จะนำไปเทในพิมพ์ ต้องอาศัยความร้อนอย่างต่อเนื่อง และความร้อนต้องสูงมาก หากสังเกตุ ก็จะได้ข้อคิดที่ว่า ในการที่เราจะแผดเผากิเลส เราจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่าทิ้งระยะ ยิ่งร้อนโลหะยิ่งละลาย เปลวไฟก็ต้องร้อนสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการต่อสู้กับกิเลส จะต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง สม่ำเสมอ อย่าทำเหมือนทีเล่นทีจริง S6005657.JPG

Rank: 1

ศิษย์หลวงพ่อเริ่มทยอยกันเข้ามาจนเต็มพี้นที่ ตอนนี้ตรงใหนว่าง ก็นั่งกันตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นถนน ทางเดิน หรือลานหญ้า ทุกคนต่างไม่กลัวกับความสกปรกเลอะเทอะ เพราะว่าพก กำลังใจกันมาเต็มเปี่ยมแทบทุกคน S6005660.JPG

‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-12-30 01:40 , Processed in 0.028399 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.