- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2011-11-18
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2017-8-8
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 40
- สำคัญ
- 0
- UID
- 9735

|
" J% |1 L- r9 d3 }1 s$ S
9 b# ?2 l3 w% a' A/ R[size=150%]โอวาทธรรม
* D* I! h0 `, [& r! p# I# mของ / b2 w8 ?5 G# @) v" w
[size=150%]พระราชพรหมยาน2 ~) |' u9 ~; B; M# ]1 i
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
4 Y* D) q- J4 H( ~2 _' ?วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี ' l3 L# m2 \' e# E
" @$ c5 }$ q6 l8 G2 m6 A8 P3 B
; d, w; s: {& U4 `
) y2 w) O/ P9 R, Hการอุทิศส่วนกุศล
n# f S% S6 i
1 t- `6 d3 d7 V) a& k"หลวงพ่อคะ...ลูกทำสังฆทานให้สัมภเวสี ถ้ากลับไปแล้ว
5 i" z: X" M. Y9 }% U1 Jจะกรวดน้ำได้ไหมคะ...?"* @" ~4 O8 B* F! j
* j$ ]$ W1 M% s6 ]8 o# _
การอุทิศส่วนกุศลในพระพุทธศาสนานี่ไม่มีน้ำ
4 _/ m+ V: H8 B+ m0 t% Vแต่ที่พระเจ้าพิมพิสารทำเป็นองค์แรก
: T7 @. r* s2 K `เพราะว่าศาสนาพราหมณ์เขาถือว่า ถ้าจะให้อะไรกับใคร
; A, [# i( J; Fต้องให้คนนั้นแบมือแล้วเอาน้ำราดลงไป7 d# w' \0 ?; t+ H0 k2 w$ {
) E* U+ p/ |" t- ]
และตอนที่พระเจ้าพิมพิสารทำ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ห้าม
8 u# O! N4 v6 c" l: nเวลาที่พระเจ้าพิมพิสารอุทิศส่วนกุศลต้องใช้น้ำ$ G/ H b' l( n, @* C
เพราะว่าท่านเพิ่งพบพระพุทธเจ้า
2 H) b3 N: P+ Cประเพณีของพราหมณ์ยังชินอยู่ แต่ว่าใจท่านตั้งตรง8 S* J' X* e- l! g# o4 C
8 L/ s# @$ r, w! |# s$ Y3 Gเวลาอุทิศส่วนกุศลจริงๆในพระพุทธศาสนาไม่ต้องใ้ช้น้ำ3 S9 V, c _! d; X# U
ผีกับเปรตต้องรีบวิ่งกลับเพราะไม่ได้กินแน่ เพราะฉันเคยพบมาแล้ว
" J5 o! z/ |' B+ h7 S4 Q! Yแต่ไม่มีน้ำนะ ว่า "อิมินาฯ" เพลินไป
$ x4 Y& W3 ]+ J0 X% oยังไม่ถึงครึ่งก็มีคน ๒ คนถือโซ่คล้องคอปั๊บลากไปเลย/ D6 v' B n4 E: N9 r7 W- A
- U0 J; J6 T" _; g) c3 h/ c4 P3 f
1 _! d4 g3 @+ O0 J8 P! F
8 \; {5 m6 P2 z; o1 h2 p- j& F/ Eกรวดน้ำแบบแห้ง
4 j) t9 P7 \' e. _. F @' }, L& `( Y' j+ L( x
"มีบางคนเขาบอกว่า กรวดน้ำแบบแห้ง! _1 C9 z* B+ B2 V! Q2 l, ?
ตายไปชาติหน้าจะแห้งแล้งเพราะไม่มีน้ำ: c# D+ p% l& ?& X+ }$ h+ U
โบราณพูดอย่างนี้จะจริงหรือเปล่าคะ...?"3 o+ p" u2 V ^" U7 d
+ @! y F% C- t, h& G3 B8 |* g
เขาพูดได้ยินหรือเปล่า? คนที่พูดมาได้ยินหรือเปล่า?
! x. T3 o8 c$ t* d: Nคนโบราณพูดอย่างนี้ คนโบราณพูดหรือเปล่า?. L3 G% E1 j! j5 L% w
ถ้าได้ยินแสดงว่า เขาพูดจริงแต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งจริง
" g0 {7 Y* \9 [6 _: [# Y4 a& ]( v; c: U5 D1 F' D
การอุทิศส่วนกุศล พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ใช้น้ำ( U' K6 j' z, |/ h3 a
ฉันใช้น้ำวันเดียว วันบวช ว่าไม่ถูกเลย
0 h' h# _& h; C) Y, j/ S1 K9 M) @ต้องระวังน้ำหยดอีก ผีไม่ได้กินน้ำ& M9 H" q" W7 O7 v
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันไม่เคยใช้น้ำเลยก็เห็นผีได้รับ
2 _( }, Q+ w- E8 A6 C( Fแต่ชาติหน้าถ้าจะทำอย่างนั้น ถ้าฉันยังไม่ตายก็ไม่ได้เหมือนกัน
# a; I$ V2 Y: {7 V/ [แต่ไม่เป็นไรนะ กินน้ำเกลือเผื่ออยู่แล้ว เผื่อชาติหน้าจะอด
7 z: B Y' H% v. L {3 \7 Q: D1 a2 r4 d( t. T( l
"อ๋อ...มิน่าล่ะ...หลวงพ่อถึงให้น้ำเกลือบ่อยๆ"1 g i; M% Q/ D
ใช่..มีทั้งน้ำสะอาด น้ำเกลือ น้ำหวาน เผื่อไว้ตลอด
) s( x0 D+ x9 I c" p; Z: |# S- R5 k* T& V. o2 N
รวมความว่า เวลาจะอุทิศส่วนกุศล ให้ใช้ภาษาไทยสั้นๆ
6 s* a' Q, n5 Z, z- wอย่างทำบุญสังฆทาน เราก็ตั้งใจว่า
' t$ }1 t+ e- ^' l: t7 O"การบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ผลจะมีแก่ข้าพเจ้าเพียงใด
- F4 b/ {8 ^! T* Z2 q- a7 k7 Iขออุทิศส่วนกุศลให้แก่...(บอกชื่อ) 2 I4 s% u/ U& T
ขอให้มาโมทนารับผลเช่นเดียวกับข้าพเจ้า"( @+ ~0 N( N' D* j4 H
6 s8 K$ R6 K. Z. n
และตอนที่พระสงฆ์ให้พรนี้ # Q5 e& q6 Q( `3 e1 }
ก็ขอเจ้าภาพและทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว
$ C. ?) n0 q* U! {ตั้งจิตปรารถนาเอาตามประสงค์
! p$ y! e+ Z$ O* `; g5 Z, {2 H, C1 v3 `% Z4 Y1 h" Z. L
สมมติว่า ท่านทั้งหลายตั้งใจเพื่อ "พระนิพพาน" + L# u3 @3 `$ L! i. D8 K
อันนี้ก็ต้องเผื่อด้วยว่า หากสมมติว่าเราตายจากชาตินี้แล้ว5 f$ g9 Q, H a, g
ยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงไร ( [" b! y) @9 w; }* V5 t; F- K
สมมติว่าเราตาย...ถ้าไม่เผื่อไว้ละก็มันจะขลุกขลัก1 p8 O* N; X; ]& E x
% N [- k) f9 z iฉะนั้น การอธิษฐานจิต คือ ตั้งอธิษฐานเขาเรีัยกว่า อธิษฐานบารมี4 E. _" w e7 r& q: n5 }
เจริญพระกรรมฐานก็ดี ถวายสังฆทานก็ดี อธิษฐานว่า
2 e$ z" K+ Z. D"ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้' A7 D6 _8 [1 C
แต่ทว่าถ้าหากข้าพเจ้าไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด- g% n0 F/ ? ^0 {) ^( n
จะเกิดใหม่ไปในชาติใดก็ตาม ขอคำว่าไม่มี...จงอย่าปรากฏแก่ข้าพเจ้า"7 U5 R/ o1 B2 E% Q
4 M; E, Q4 R) c1 n" o& wถ้าเราต้องการอะไรให้มันมีทุกอย่าง
0 X* H/ q/ H5 A3 ?+ b: nจะไม่รวยมากก็ช่าง เท่านี้ก็พอแล้ว
4 f l+ x4 e1 f, v; U+ N4 T( C6 e3 {: a! R# M/ y# c# x0 B- n
8 L8 P) D% l) }) x, @- B" Q3 P
, E, e5 m1 a* fลืมอุทิศส่วนกุศล
) F% O* u9 ~( G2 Q6 M9 ~/ v/ N
: Y6 T- ^, R6 L. ?9 c( X5 U"เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...?"
3 ^. e, o. x( O; h- }/ ?การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปีๆ บุญก็ยังอยู่
6 e4 B& T6 [" a2 R( pถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปีก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย) v f6 J/ {/ x) f7 ~
ไม่ใช่เราทำบุญแล้วเดี๋ยวเดียวมันก็หาย ไม่ใช่อย่างนั้นนะ
- n! X9 u. H+ G7 ~7 k/ G
. h4 `0 F; f2 E- K! Z+ x! r4 P"แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ?"
9 I; a# j7 c& ~) }3 p E7 b, Rก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ5 k7 g; y/ H5 k! V! e% g; M; K1 q
3 J( S; {/ N! V2 C- N$ J* f
แต่อยู่ที่ว่า เราจะให้เขาหรือไม่ให้ . | O& L) c' ^6 s; K7 B
การอุทิศส่วนกุศลนี่ถ้าเราไม่ให้เราก็กินคนเดียว ใช่ไหม" Q2 y* ~( b# [* g& s
ทีนี้ถ้าเราให้เขา ของเราก็ไม่หมด
, m* E. m. L+ N Uอีกส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม; ?/ Q# n, }6 j5 q$ B: v: i% P
( W5 v5 F- b( V% D& f( F2 B# ^8 E* G4 N/ _อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ
; P2 V* W3 p8 B ]8 S" l6 h# Qสมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าให้ช้างของมหาเศรษฐี
3 C. v6 ^0 [8 z) x/ l4 ?เวลาที่ทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ - s, f) q' \3 o. J% x. ~
ท่านก็สงสัยว่า การแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม W! o! h+ t' @6 k4 `
จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ท่านรับบาตรนะ
s n% x/ `6 V/ y2 [* }& \+ `9 V: B/ z
ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า 0 M; ?& P' U. {: f
สมมติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย8 k: }+ L& {+ q% m' [- ~
คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง
4 C/ i0 r3 ?; n+ a! t% qก็มาขอต่อไฟที่คบของโยม แล้วคบทุกคนก็สว่างไสวหมด
/ Q! c3 F2 M# S$ j' Oอยากทราบว่า ไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม?
) K2 }! \9 C+ ^& k4 u8 L! v9 H3 q' eท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ9 ]3 k M \* G3 o1 l
8 R9 X& K' _$ [+ vแล้วท่านก็บอกว่า การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน
9 F3 H5 T! ]- G% Kให้เขาอนุโมทนา แต่บุญของเราเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์; n! O7 @) I$ U: \( q, t3 ~" e
7 y8 I2 i9 ?' j$ R/ R) l
: j4 p" z6 c: i+ Z7 h/ t" X. x+ u" v! A' W
การแผ่ส่วนกุศล& P p* I9 n. p' E' Y
2 `, A5 g3 `! H& q3 H% W" d. L# n"การแผ่ส่วนกุศลไปให้แก่บิดามารดา ท่านจะได้รับผลไหมคะ...?"
& Q0 A$ R5 F- R
+ {9 v+ a) c6 E5 m3 Rการได้รับส่วนกุศลนี่ ถ้าหากท่านมีโอกาสโมทนา ท่านก็ได้รับ- j0 F$ c0 D3 N( \; ?( @. |
ถ้าท่านไม่มีโอกาสโมทนาก็ไม่ได้รับ * m- P5 `- `4 f8 q; k4 t
" M5 V5 w6 J' {! U6 s1 G5 rเหมือนเราเอาสิ่งของไปให้แก่ผู้รับเขาไม่รับ เขาจะได้ไหม
9 P9 f6 I2 z8 F2 n, z2 Tถ้าพวกเขาอยู่ในนรก ไฟไหม้ทั้งวัน ถูกสรรพาวุธสับฟันทั้งวัน! k, H( C2 D1 ~! g) d6 q6 {. C
ถ้าเราเอาขนมไปให้กิน เขากินได้ไหม?
+ r; l4 N4 w. V, l1 V"ไม่ได้ค่ะ"# u3 P* p/ d4 S
อยู่ในแดนเปรต ๑๑ จำพวก ไมไ่ด้รับ7 G0 j$ g1 y8 H) w- J3 _
แต่ถ้าเป็นพวกที่ ๑๒ คือ ปรทัตตูปชีวีเปรต พวกนี้มีโอกาสโมทนา# A8 _& v5 h9 Z' n3 f
9 q! s% w O1 ]% I"แล้วผู้สร้างจะได้ไหมคะ...?"
( [# J* U. P/ W! u( iไม่แน่..ถ้าสร้างดีก็ได้บุญ ถ้าสร้างไม่ดีก็ได้บาป' ~6 ^2 L7 ~7 J; `
"เป็นไงคะ...?" 2 {, u. I. G/ v$ j; [
คือ ก่อนจะทำบุญ ก็กินเหล้ากันก่อน พอพระไปก็กินเหล้ากันแล้ว
) c3 a0 ~7 A3 ^) O- n) Dถ้าหากมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีบาป มีแต่บุญ ผู้สร้างได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
$ y0 }0 W( d+ z9 |- Sคือ บุญนี่จะได้แก่ผู้สร้างก่อน แล้วผู้สร้างอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น+ o. e" d+ [# q) P9 P: B
ถ้าเขามีโอกาสโมทนาก็ได้รับ
/ a. d z7 N4 K% H; j* B( T
% G) Y/ k( s8 t+ E0 V. H& R 6 B5 g5 E8 l1 B6 y& M
; q1 q5 p0 ]/ ^$ B; b$ N3 Aอุทิศเจาะจง3 h' J! @* f7 W' a" h! W
6 }3 X7 F) y+ _6 l1 L
"ทีนี้การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆที่ตายไปแล้ว
9 k0 K1 W4 r& |) Yจำเป็นไหมครับว่าะต้องออกชื่อ รู้สึกว่า มีมากเหลือเกิน"0 ^! G; A. z" H7 F/ L; y5 C
: o9 Z% F3 o4 [% A) \ถ้านึกได้ก็ออกชื่อเขาก็ได้ ถ้าออกชื่อน่ะดีอยู่อย่าง
6 r: P9 P0 z' p: E' L% t, iถ้ากรรมหนาอยู่นิด ถ้าออกชื่อเจาะจงเขาได้เลยนะ4 O3 I, {! Y. f/ u$ K7 k8 a
ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวมๆ ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี
J7 u/ I8 m2 Q6 i" \ @: H& Yเอายังงี้ดีกว่า ถ้าขืนไล่ชื่อไปน่ากลัวจะไม่จบ' a: j' D9 ^5 q ~: p
( d* P4 ?$ ?8 U3 Q; G% y
มันมีอยู่คราวหนึ่ง ไปเทศน์กัน ๓ องค์ # C/ Y* M6 n' Y& f7 j% ]
บังเอิญที่ไปก็มีอารมณ์จิตคล้ายคลึงกัน ( `+ T4 C; _9 M. h
เวลาเพลเขาก็ถวายอาหาร ก็มีพระอื่นด้วยรวมแล้ว ๕ องค์
/ O, i! \# T) W, |& \: s
. E3 F# x/ R2 C3 q& ~4 iทีนี้ตาทายกเขานำอุทิศส่วนกุศลในวันนั้น แกก็ออกชื่อคนตาย& V) Q% X4 O: D2 d$ O6 K
แล้วก็บรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว บอกเท่านั้นแหละ
$ s/ d) l9 K8 F0 nพวกผีก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลาอยู่
! Z5 E8 y/ G( F2 Z. J& x$ B' `ไอ้คนที่เป็นญาติรับโมทนาแล้วผิวพรรณดีขึ้น
* r1 Z, N9 V. T7 W a* o1 ~* aไอ้พวกที่ไม่ใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับ5 [% ^3 |. i9 Q- p# D. H
' [3 I+ b v+ u& O U! E" B1 z) l7 Vพอเขานิมนต์ขึ้นไปเทศน์ & |9 z7 Y) e4 K* l
ตอนลงท้ายเขาถามกันว่า การอุทิศส่วนกุศลทำยังไง
. E. I( r, f2 w4 Gองค์ที่มีปากร้ายอยู่สักหน่อยบอกว่า1 ^! g) r, ^, Q4 w
ญาติโยมที่นำอุทิศส่วนกุศล อย่าให้ใจแคบเกินไปนักสิ
$ ~9 z1 B' W8 L. ~
: p7 ?+ q8 g. ?8 |; oอย่าลืมว่า การทำบุญแต่ละคราว . d$ B4 @0 O) u4 v b w/ N) e
พวกปรทัตตูปชีวีเปรต ก็ดี พวก สัมภเวสี ก็ดี จะมายืนล้อมรอบ
: Q- C; V* _& S$ n: v" x: Z3 L3 x! h, I/ j8 x8 r( S
อย่างสวดบท อยัญจะโขฯ น่ะ
* C/ f- `! f+ U6 xพวกบรรดาผีทั้งหลายทั่วบริเวณจะคอยโมทนา ^/ }6 V% _. c( R) O+ O2 s* k
แต่ถ้าเราให้แต่ญาติๆก็จะได้; d# u3 w2 n: n- c
แต่บุคคลอื่นไม่ใช่ญาติจะไม่ได้# x3 L8 i! J5 w/ I& i# j6 N8 a
# d' U5 u4 S& b+ z" T0 aฉะนั้นก็ควรจะให้ต่อๆกันไป
. Q* m, q' V) ^ n: X( |: Sคือว่า ให้ทั้งหมด ทั้งญาติและไม่ใช่ญาติ & S& J! B! ]$ e% u; I9 f! S8 Z
1 X8 ~8 X% |; ~% a
, q( S3 U$ z3 X2 _
0 [7 d1 R1 |2 R: T5 l5 f6 nพุทธานุสติ1 P7 j# Z3 c" K2 @6 N/ [# F
; U. ~1 b% S; @: U1 W
"คนไปนิพพานแล้วอุทิศให้ได้หรือไม่...?"( X6 u0 H X6 S0 O: B
ได้...แม้แต่พระพุทธเจ้าเราก็ควรอุทิศให้ได้! b! K) P7 n2 A% j/ Y
เพราะเป็นการสนองคุณ แสดงความกตัญญูกตเวที n6 q5 ]' W4 B" g- R
& s8 G; \- t) ?4 @7 y- E+ w9 eความจริงท่านไม่ต้องการหรอก ของท่านมีจนล้นแล้ว
6 D# T2 Y3 ^ k- X$ h+ {) j6 _ถึงแม้ท่านจะไม่รับ แต่อย่าลืม อย่างเราเป็นพ่อแม่เขาน่ะ" `; U; \0 ?# ]( J$ o% H; }. e4 x
ถ้าไอ้ลูกมันอยู่บ้านไกล นานๆ มาหาที
0 F8 F4 s9 Q. E; l, m9 Oเอาของอะไรมาให้ ถึงแม้ของนั้นไม่มีค่าอะไร เราก็ยังดีใจใช่ไหม ^9 L1 O& G/ T( D
เห็นว่า ลูกน่ะมีน้ำใจ มีกตัญญูรู้คุณ
2 Z0 q" o6 Y& E [) `: w! B3 B0 W: L' s
อันนี้ก็เหมือนกัน ถ้าหากว่า เราอุทิศส่วนกุศลให้พระพุทธเจ้า7 ~1 y) a+ S" f$ `6 j: F8 U% Y% S
ก็แสดงว่า เรากตัญญูรู้คุณของพระพุทธเจ้า8 [$ @ ?, o: w
# d- _$ K# s6 b& M& e' i9 e4 U: o
การบูชาคุณของพระพุทธเจ้าด้วยความกตัญญูรู้คุณนี่: j5 H% h6 l) n$ c7 i
เป็นเหตุให้เราไม่ลงนรก
- q2 a6 _9 g$ g, [+ Gท่านจะรับหรือไม่รับนี่ไม่สำคัญ , g8 S+ v0 P% Q4 j0 \( y& ~
สำคัญที่ว่า ให้ใจของเราตามระลึกถึงอยู่เสมอก็แล้วกัน
( g1 ^+ s5 v% h' Y& s( n$ {0 d: W9 e8 b/ X
* ^ ]" M b& j+ ^% ?% y" M. K/ c0 ~
+ `0 u) f: z) _: J8 ]- n2 s9 e
6 x1 b3 K% B4 L! b$ w+ q
คัดลอกเนื้อหาจาก
3 Z+ f2 r( q, j( Sหนังสือเรื่อง การอุทิศส่วนกุศล หน้าที่ ๓-๙
: g7 Z% I, v/ [# ]+ G8 f; k! @โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร |
|