แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 6028|ตอบ: 7
go

วัดพระธาตุแอ้ว ม.๗ ต.บ้านปวง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_8226.1.jpg



วัดพระธาตุแอ้ว

ม.๗ ต.บ้านปวง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน  

[พระบรมธาตุเจดีย์]

----------------------


(แก้ไขข้อมูลล่าสุด : 30 ตุลาคม 2566)


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8159.JPG



การเดินทางไปวัดพระธาตุแอ้ว

ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ (ลำพูน-ลี้) ประมาณ ๑๐๕ กิโลเมตร ถึงอำเภอลี้ และเลี้ยวเข้าแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๗๔ (ลี้-แม่บอน) ไปอีก ๑๓ กิโลเมตร ถึงทางเข้าวัดพระธาตุแอ้ว


IMG_8165.JPG



ทางเข้า วัดพระธาตุแอ้ว อยู่ติดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๗๔ (ลี้-แม่บอน) กิโลเมตรที่ ๑๓


IMG_8182.1.JPG



ไปอีกประมาณ ๓ กิโลเมตร จาก
ทางเข้วัดพระธาตุแอ้ว แล้วเลี้ยวแยกขวาตามป้ายชี้ทางไปวัดพระธาตุแอ้ว


IMG_8180.JPG



IMG_8342.JPG



IMG_8193.JPG



วัดพระธาตุแอ้ว ตั้งอยู่กลางทุ่งนา บรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ


IMG_8196.JPG



ซุ้มประตูทางเข้า วัดพระธาตุแอ้ว


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8214.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ (พระธาตุแอ้ว) วัดพระธาตุแอ้ว



IMG_8226.JPG



IMG_8239.JPG



IMG_8267.JPG



IMG_8292.JPG



IMG_8272.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ (พระธาตุแอ้ว) วัดพระธาตุแอ้ว

ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และวัตถุมงคลต่างๆ สร้างโดย พระนางจามรี ผู้สร้างเมืองลี้ จ.ลำพูน เมื่อประมาณ พ.ศ.๑๘๐๐ และบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุ พ.ศ.๒๕๑๕ โดย พระครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี (วัดพระพุทธบาทผาหนาม อ.ลี้ จ.ลำพูน) เป็นประธานในการก่อสร้าง


IMG_8236.JPG



คำไหว้พระธาตุแอ้ว
(ตั้งนะโม ๓ จบ) อิทัง วันทามิ เจติยัง สังกัจจัง วะระสัญญิตัง เอเตนะมะมะ ปุญเญนะ สะทา โสตถี ภะวันตุเม


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8214.2.JPG



ประวัติพระธาตุแอ้ว



วัดพระธาตุแอ้ว ตั้งอยู่ที่บ้านปวง หมู่ที่ ๗ ตำบลบ้านปวง อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ในสมัยก่อนประมาณ พ.ศ.๑๘๐๐ คนไทยที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรน่านเจ้าถูกศัตรูรุกราน จึงได้พากันอพยพจากที่เดิม หนีภัยข้าศึกลงมาสร้างบ้านแปงเมืองลงมาทางใต้ แถบหลวงพระบางบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองกิตติศัพท์โด่งดังไปทั่ว จึงเป็นเหตุให้ข้าศึกศัตรูยกกองทัพเข้าตีชิงเอาเมือง เจ้าเมืองชื่อพระเจ้าคัมภีระสิ้นพระชนม์กลางสนามรบ


พระราชธิดาชื่อ พระนางจามรี ราชธิดาจึงพาไพร่พลอพยพข้ามน้ำโขงมุ่งหน้ามาทางทิศตะวันตกถึงเมืองฝาง และล่องลงมาทางทิศใต้เรื่อยๆ ซึ่งมีราชองครักษ์ชื่อ ท้าวปันมหาด พร้อมไพร่พลช้างและพลม้า ซึ่งมี ท้าวปูเหลือง เป็นขุนศึกเคียงคู่ท้าวปันมหาด ล่องลงมาตามลำน้ำปิงลงมาจากเมืองเชียงดาว ทนลำบากตรากตรำร่วมกันมาเหมือนลูก พ่อแม่ ตรงนี้เองพระนางจึงยอมรับว่าเป็นแม่เลี้ยงหรือแม่นะ และต่อมาแถวนั้นจึงชื่อว่า บ้านแม่นะ อยู่ในอำเภอเชียงดาวในปัจจุบัน

จนมาถึงเมืองแม่ระมิงค์ หรือเมืองเชียงใหม่ปัจจุบัน และล่องตามลำน้ำปิงไปเรื่อยๆ จนถึงดอยลูกหนึ่ง พระนางจึงบวงสรวงเทพยดาฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า ถ้าข้าพเจ้ามีบุญบารมีจะได้สร้างบ้านแปงเมือง ณ ตรงไหน ก็ขอช้างม้ามงคลจงนำทางให้ข้าพเจ้าไปทางนั้นเถิด ช้างและม้ามงคลจึงหันหัวลงข้ามน้ำแม่ปิงตรง “ดอยหล่อ” ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่

ลัดเลาะขึ้นมาตามลำน้ำลี้ขึ้นมาเรื่อยๆ มาจนถึงสบลำน้ำแม่ลอบขึ้นมา ซึ่งเป็นภูเขาสลับซับซ้อนสูงชันมาก จนอำมาตย์ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จเหน็ดเหนื่อยมาก จึงอุทานออกมาทางปากว่า “หุยหุย” และต่อมาตรงนั้นจึงเรียกว่า ดอยอี่หุย ซึ่งปัจจุบันจึงเรียกเพี้ยนว่า "
ดอยอี่หุ้ย" ตั้งแต่อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีขึ้นมาจนถึงบนยอดดอยเขตติดต่ออำเภอแม่ทา

และเดินทางต่อมาเข้าเขต “อำเภอลี้” ทางบ้านทุ่งข้าวหางในเขตอำเภอทุ่งหัวช้างในปัจจุบันเรื่อยมา และมาซ่อมแซมแหย่งช้างและพักผ่อน เพราะเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง และต่อมาภายหลังจึงเรียกว่า “แม่แสม” พักผ่อนพอหายเหนื่อยแล้ว จึงได้นำช้างไปเลี้ยงตรงบ้านห้วยไร่และช้างได้หลุดหายไปหลายวัน จึงตามหาเจอ

เมื่อหาช้างมงคลเจอแล้ว จึงได้เตรียมไพร่พลและเดินทางต่อ และต่อมาห้วยนั้นจึงเรียกว่า “ห้วยช้างหาย” และไปเจอช้างที่ขุนห้วยๆ หนึ่งแล้ว จึงนำช้างมงคลมาตกแต่งห้างประดับประดา เสร็จแล้วจึงได้เดินทางต่อไป และต่อมาภายหลังตรงนั้นจึงเรียกว่า “ห้วยห้าง”


เมื่อเดินทางมาถึงที่ๆ แห่งหนึ่งเป็นเวลานาน จึงสมควรที่จะพักผ่อน ท้าวปันมหาดราชองครักษ์ จึงพยายามใช้ขอและง้าวกระทุ้งหัวช้าง เพื่อจะให้ช้างหมอบ แต่ช้างไม่ยอมหมอบ จึงพยายามอยู่หลายครั้ง ช้างจึงยอม และต่อมาภายหลังตรงนั้นจึงได้ชื่อว่า “ทุ่งหัวช้าง” ซึ่งเป็นที่ตั้งอำเภอในปัจจุบัน

พักผ่อนหลายวันพอหายเหนื่อยแล้ว จึงได้เดินทางต่อไป จนถึงลำห้วยๆ หนึ่ง ช้างตกใจวิ่งหนีจนกระดิ่งหรือ (เด็ง) ที่แขวนคอช้างหลุดหาย ต่อมาภายหลังตรงนั้นจึงได้ชื่อว่า ห้วย “แม่ปันเด็ง” จากนั้นจึงได้เดินทางต่อไป จนถึงบริเวณที่ราบเรียบสะอาดแห่งหนึ่งพอที่จะสร้างบ้านแปงเมือง จึงพากันปลงข้าวของจอดพักเก็บข้าวของลงจากหลังช้างหลังม้า และต่อมาภายหลังตรงนั้นจึงได้ชื่อว่า “แม่ปลง” หรือบ้านปวงในปัจจุบัน

ในขณะพักไพร่พลอยู่นั้น ท้าวปันมหาด ซึ่งมีนิสัยชอบออกป่าล่าสัตว์ จึงได้ชวนบริวารไพร่พลออกล่าสัตว์ ซึ่งไม่ไกลจากห้วยแม่ปลงนัก ท้าวปันมหาดจึงได้ประสบอุบัติเหตุถูกอสรพิษกัด ฝ่ายพระนางจามรีและคณะบริวารที่รอคอยไม่เห็นการกลับมาของท้าวปันมหาด จึงพากันออกติดตามหา จึงได้มาพบและหาหยูกยามาโรม มาทา เสกเป่า พยาบาลรักษา แต่ก็ไม่หาย ท้าวปันมหาดทนพิษบาดแผลไม่ไหวถึงแก่พิราลัย ณ ที่บ้านแม่ปวงแห่งนั้น

พระนางจามรีจึงให้ข้าราชบริพารจัดการบำเพ็ญพระราชกุศลศพท้าวปันมหาดตามขัตติยราชประเพณี แล้วจึงได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุและวัตถุมงคลต่างๆ ที่ได้อาราธนาติดตามตัวมาก่อสร้างพระธาตุเจ้าเจดีย์เป็นอนุสรณ์สถานกราบไหว้ จึงถวายพระนามวัดแห่งนี้ว่า “วัดพระธาตุแอ่ว” หรือวัดพระธาตุแอ้วในปัจจุบัน

เสร็จแล้วพระนางจึงบวงสรวงเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วจึงได้เดินทางต่อไปจนถึงเมืองลี้ สร้างวัดพระธาตุดวงเดียวและพระราชสถานพระธาตุห้าดวง และสร้างเมืองลี้ขึ้นจนเจริญรุ่งเรืองตามประวัติเมืองลี้ หลังจากบ้านเมืองเข้าสู่ความปกติสุข พระนางจึงได้ส่งข้าราชบริพารเสนาอำมาตย์กลับมาทำนุบำรุงวัดพระธาตุแอ้วและวัดวาอารามอีกหลายแห่ง ตลอดจนมาตั้งรกรากสร้างไร่สร้างนาทำมาหากินกันที่บ้านปวงบ้างทุ่งหัวช้างบ้าง จึงเกิดเป็นต้นตระกูลหลายตระกูลดังนี้

๑. ตระกูลท้าวปันมหาด ๒. ตระกูลเจ้าข้อมือเหล็ก ๓. ตระกูลเจ้ากาบบัวไหล ๔. ตระกูลเจ้าหนานเสือ ส่วนเจ้าปูเหลือง เจ้าน้อยบุญศรี ยกศาลขึ้นให้เป็นอารักษ์เจนเมืองขึ้น ณ ทางเข้าบ้านปวง ส่วนเจ้าปันมหาด และเจ้าปูเหลือง ยกศาลขึ้นไว้ที่บ้านฆ้องคำ และยังมีตระกูลอื่นๆ อีกหลายตระกูล ซึ่งพากันตั้งหลักปักฐานทำมาหากินอยู่แถวนี้

ส่วนวัดพระธาตุแอ้วก็มีพระภิกษุสามเณรอยู่ประจำบ้างไม่อยู่บ้าง ถูกทิ้งร้างบ้างเป็นบางช่วงบางตอน ลุมาถึงปี พ.ศ.๒๕๑๕ คณะศรัทธาผู้เฒ่าผู้แก่ได้ไปอาราธนาท่านครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม อ.ลี้ จ.ลำพูน มาเป็นประธานในการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุให้ดีดังเดิม มีพระสงฆ์มาอยู่บ้างไม่อยู่บ้าง และถูกทิ้งร้างมาโดยตลอด


จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๕๐ ได้มีพระสงฆ์มาอยู่ประจำ ได้บูรณะดังที่เห็นอยู่เวลานี้ และได้ยกฐานะวัดร้างขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่ประจำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้ซื้อที่ดินขยายวัดและพัฒนาวัดทุกๆ ด้านขึ้น แต่ก็ยังขาดจตุปัจจัยและทุนทรัพย์ในการดำเนินงาน จึงขอบอกบุญญาติโยมพุทธบริษัทร่วมเป็นเจ้าภาพในการพัฒนาวัดพระธาตุแอ้วให้สำเร็จลุล่วง ให้เป็นที่ทำบุญทำกุศล ศึกษาเล่าเรียน กราบไหว้บูชาของลูกหลานและพุทธศาสนิกชน


ขอเจริญพร

พระสมุห์วิชา สิริธโร

เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแอ้ว


---------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : พระสมุห์วิชา สิริธโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแอ้ว. หนังสือประวัติวัดพระธาตุแอ้ว, หน้า ๓-๕.)



IMG_8254.JPG


ภาพถ่ายพระสมุห์วิชา สิริธโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแอ้ว พระภิกษุผู้เรียบเรียงประวัติวัดพระธาตุแอ้ว



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8302.JPG



วิหาร วัดพระธาตุแอ้ว


ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๗) วิหารอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป (พระประธาน) รูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) พระครูบาเจ้าศรีวิชัย พระครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี และพระครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา



IMG_8212.JPG



วิหาร วัดพระธาตุแอ้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง พ.ศ.๒๕๕๗



IMG_8332.JPG



พระประธาน ประดิษฐานภายในวิหาร วัดพระธาตุแอ้ว



IMG_8313.JPG



รูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ประดิษฐานภายในวิหาร วัดพระธาตุแอ้ว



IMG_8322.JPG



รูปเหมือนพระครูบาเจ้าศรีวิชัย (นักบุญแห่งล้านนาไทย) (ด้านซ้ายมือ) และพระครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี (วัดพระพุทธบาทผาหนาม อ.ลี้ จ.ลำพูน) (ด้านขวามือ) ประดิษฐานภายในวิหาร วัดพระธาตุแอ้ว



IMG_8329.JPG



รูปเหมือนพระครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน) ประดิษฐานภายในวิหาร วัดพระธาตุแอ้ว



IMG_8216.JPG



รูปพระสีวลีเถระ
วัดพระธาตุแอ้ว



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8310.JPG



IMG_8305.JPG



ศาลเจ้าแม่จามรีเทวี (ผู้สร้างเมืองลี้) วัดพระธาตุแอ้ว


IMG_8306.1.JPG



ภาพวาดพระนางจามรี ผู้สร้างเมืองลี้ จ.ลำพูน และวัดพระธาตุแอ้ว


IMG_8306.JPG



คำไหว้เจ้าแม่จามรี
(ตั้งนะโม ๓ จบ) อิมินาสักกาเรนะ มัยหังมาตา จามรีนะ สิระสา นะมิระ มะอะอุ นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู มะอะอุสิวังพรหมา สัพเพชะนา สัพเพ ชานา พะหูชะนา สัพพะสิเนหา มาปูชิตัง สัพพะสุขัง มหาลาภัง ภะวันตุมัง สัพพะโกธัง
วินาสันติ สิทธิเนหัง นิรันตะรัง ปิยังมะมะ เตพาหุหะติ นะชาลีติ อิมัสมิง เทวะธิดาจามรี อาราเม วะสันตา สุขิตาโหนตุ   


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8297.JPG



ศาลาบำเพ็ญบุญ วัดพระธาตุแอ้ว


IMG_8220.JPG



IMG_8338.JPG



พระประธาน ประดิษฐานภายในศาลาบำเพ็ญบุญ วัดพระธาตุแอ้ว


IMG_8336.JPG



รองเจ้าอาวาสวัดพระธาตุแอ้ว (พ.ศ.๒๕๕๗)

.....ทางคณะเว็บแดนนิพพานได้ร่วมทำบุญถวายปัจจัยบูรณะพัฒนาวัดพระธาตุแอ้วและถวายยาแด่หลวงพ่อ รองเจ้าอาวาสวัดพระธาตุแอ้ว ก่อนเดินทางออกจากวัด


IMG_8253.JPG



IMG_8295.JPG



กุฏิเจ้าอาวาส วัดพระธาตุแอ้ว


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8307.JPG



IMG_8207.JPG



IMG_8224.JPG



เกิดเป็นสตรีไม่มีศีลสิ้นสวย


ผู้ชายด้วยไม่มีศีลก็สิ้นศักดิ์ศรี


IMG_8202.JPG



IMG_8205.JPG



IMG_8191.JPG



การเดินทางมาวัดพระธาตุแอ้ว ขอจบการเดินทางด้วยภาพ
บรรยากาศภายในและโดยรอบวัด สวัสดีค่ะ

----------------------


ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
        • วัดพระธาตุแอ้ว อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน  
        • พระสมุห์วิชา สิริธโร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแอ้ว. หนังสือประวัติวัดพระธาตุแอ้ว. ได้รับความอนุเคราะห์เอกสารจาก รองเจ้าอาวาสวัดพระธาตุแอ้ว (พ.ศ.๒๕๕๗).

**หมายเหตุ :


ท่านใดประสงค์จะนำรูปภาพหรือเนื้อหาบทความไปใช้ประโยชน์ที่อื่น สามารถนำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตจากข้าพเจ้าก่อน


และได้โปรดกรุณาให้เครดิตอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มา : เว็บแดนนิพพาน และกรุณาอย่าลบหรือครอบตัดเครดิตแหล่งที่มาบนรูปภาพ “Photo by Dannipparn.com”


(ป.ล. หากว่ากระทู้บทความนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าต้องขออภัยในความผิดพลาดต่างๆ ในฐานะปุถุชนที่ย่อมทำผิดและถูกสลับกันไปไว้ ณ ที่นี้ด้วย และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป)


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-4-19 14:38 , Processed in 0.081705 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.