แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 4344|ตอบ: 0
go

‪แนะนำเทวดากำลังหมดบุญให้ปฏิบัติธรรม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

4.jpg
- w, {0 h" Q  O; Eธรรมะหากใครปฏิบัติก็มีแต่ความสุข ความเจริญ ให้ผลในทางดีทั้งทางโลกมนุษย์ และโลกทิพย์ ไม่ว่าจะส่งผลช้าหรือส่งผลเร็ว ก็ส่งผลในทางที่ดีทั้งนั้น ในทางโลกมนุษย์แล้วนั้น หลายๆคนอาจจะมองว่าธรรมะ หากใครนำมาปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องของคนแก่บ้างหละ เชยบ้างหละ แต่ในทางโลกทิพย์แล้วนั้นใครปฏิบัติธรรมถือว่าสร้างกรรมดีมีผลในทันที จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เทวดา ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าทางธรรมเช่นกัน
9 i' k9 h1 `7 X3 Kดังเรื่องราวที่ผมจะเล่าประสบการณ์การใช้บุญให้ฟังกันนะครับ' _# q# g" U4 W5 m4 O  `# w9 ]
วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ในเวลาพักเที่ยงจากการทำงานเมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมตัวพักผ่อนเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงบ่ายต่อไป ผมรู้สึกสัมผัสกับพลังจิตอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นพลังที่เย็นสบาย ไม่หนัก มาสัมผัสเบาๆ แต่แฝงด้วยพลังที่มั่นคง ทำให้ผมทราบทันทีว่าท่านต้องไม่ใช่จิตวิญญาณที่อยู่ภพภูมิต่ำๆแน่ๆ ผมจึงเดินกลับที่พัก เพื่อผมจะทราบว่า ท่านประสงค์ส่ิงใด เมื่อถึงที่พักแล้ว จึงกำหนดจิตเพื่อสื่อสารกับท่าน จิตที่นิ่งกลับนิ่งยิ่งขึ้นเมื่อสัมผัสกับพลังของท่าน การสนทนาจึงได้เริ่มต้นขึ้น; F- `1 U/ t$ j' j$ b6 d# {
ผม : สวัสดีครับ ท่านประสงค์สิ่งใดที่พอจะให้ผมช่วยได้7 O- O$ e1 q9 `
เทวดา : ยินดีที่ได้พบ  l4 D8 c; m4 _# x
ผม : ยินดีเช่นกันครับ # F( A- _) X+ C! ^- ]
เทวดา : เรามีข้อธรรมอยากจะถามสักนิด ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม
% b8 J+ ~6 I& M, {( ]ผม : หากผมช่วยได้ ก็ยินดีช่วยครับ
. W3 @/ Y/ \2 c% b0 q- w$ Lเทวดา : เรามีข้อสงสัยว่าเทวดาสามารถหลุดพ้นสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นได้หรือไม่1 L1 f, R, X6 p
ผม : ได้สิครับ
& b& ~) W& Q  V" sเทวดา : แล้วจะทำเช่นไร
1 I2 k& `' F" Q$ U3 [) Bผม : ท่านจะลองภูมิผมหรอครับ หรือมีสิ่งอื่น
' i9 j' m$ r! P7 v) V  Nเทวดา : มิใช่เลย เราขออภัย ลืมบอกไปว่าเรากำลังหมดบุญ แต่เรายังไม่อยากมาเกิดยังเมืองมนุษย์ในเวลานี้ เพราะโลกมนุษย์เต็มไปด้วยความเสื่อม มนุษย์ขาดซึ่งศีลธรรม เราจึงยังไม่อยากมาเกิดในตอนนี้ จึงมีผู้แนะนำว่าให้มาหาท่าน เราจึงมาหา ขออภัยในความเข้าใจผิด0 [, ]$ a8 v& g: d: k: l
ผม : ผมมิได้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าสงสัยเท่านั้น ต้องขออภัยเช่นกัน
, h7 @" T0 y) bเทวดา : เราเข้าใจ มาสู่คำถามที่ค้างไว้ ว่าเราจะทำเช่นไร  }- o: [+ Y! j1 O3 D9 p5 p. u0 L
ผม : สิ่งแรกคือ ‪#‎บุญชั้นทาน‬ ครับ
) ]( m$ t. f( ]. I, i: g0 L7 wเทวดา : เราจะทำทานได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีกายเนื้อ7 O" |7 O$ q* W
ผม : ทำได้ครับ บุญชั้นทานนั้นมีหลายแบบ ซึ่งทานหมายถึงการให้ ให้ในสิ่งดี มีประโยชน์แก่ผู้รับ แล้วทานเองก็มีหลายแบบ เทวดาอย่างท่าน สิ่งที่ทำได้ก็คือ ให้ ‪#‎บุญเป็นทาน‬ สามารถทำได้โดยสละบุญของท่านให้วิญญาณที่เดือดร้อนโดยบอกว่า "ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำบุญของข้าพเจ้าส่งถึงวิญญาณดวงนี้ด้วยเทอญ" ต่อมาก็ ‪#‎ธรรมทาน‬ โดยการ นำคำสอนของพระพุทธองค์มาบอกผู้อื่น พูดกล่าวด้วยความเคารพ พูดด้วยเจตนาดี นี่ก็คือธรรมทาน ต่อมาก็ ‪#‎อภัยทาน‬ หากท่านโกรธ อาฆาตแค้น พยาบาท สิ่งใดหรือผู้ใดให้ท่าน ให้อภัยในสิ่งนั้นหรือคนคนนั้นเสีย พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรโดยพูดว่า "ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า หากผู้หนึ่งผู้ใดหรือใครก็ตามที่กระทำกรรมกับข้าพเจ้าไว้ด้วยทางกาย วาจา ใจ ไม่ว่าภพใด ภูมิใด ชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อเขาผู้นั้น ขอให้เขาผู้นั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ขอพระรัตนไตร ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญสาธุ" แต่ต้องทำด้วยความจริงใจนะ แล้วท่านจะหลุดพ้นจากความพยาบาท ท่านจะพบแต่ความสุข ความเจริญ
9 t3 f; q! ~' g1 y6 T3 gเทวดา : สาธุ แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม% p2 U& h4 w) Q3 t; g- p1 `2 U2 b' g1 Q
ผม : มีครับ เป็น ‪#‎บุญชั้นศีล‬ ซึ่งบุญชั้นศีลนี่ท่านเป็นเทวดาทำได้อยู่แล้ว
9 G6 c: N: n) d4 v9 d6 oเทวดา : เราจะทำได้อย่างไร
- O3 C9 O, C6 G& ?, p9 Uผม : ก็ท่านเป็นเทวดา ท่านไปฆ่าใครหรือทำร้ายใครหรือไม่
$ R+ G! m" m7 K6 H8 Zเทวดา : ไม่เคย* |$ H. A$ _9 b
ผม : ท่านเคยไปลักขโมยผู้ใดหรือไม่
& R5 C# H  b. Y% u: a- kเทวดา : ไม่เคย0 W& ^  v0 G$ b$ [+ U  n" g( Q
ผม : ท่านเคยผิดลูกผิดเมียใครหรือไม่
1 W! W; L2 S" d0 Y( g/ uเทวดา : ไม่เคย( j: l, n' E& X' x& o. g5 @
ผม : ท่านเคยโกหก หรือพูดไม่ดีทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่" G% w% u' o2 ^( S  l4 b
เทวดา : ไม่เคย4 B, d( J& ]) k8 }% u$ Q
ผม : แล้วท่านเคยดื่มสุรา น้ำจันทร์ จนขาดสติ หรือไม่2 t$ p8 I) u7 g  C4 B  \$ [
เทวดา : ไม่เคยเลย, A" A  U; ?; R" E! x
ผม : ก็นี่อย่างไรหละคือศีล 5 ส่วนศีลที่สูงๆขึ้นกว่านี้ก็ยังมีอีก ท่านลองศึกษาดู การรักษาศีลของท่านให้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร โดยอธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระรัตนไตร ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอรักษา ขอยึดมั่นต่อศีลธรรม ขอบารมีของพระรัตนไตรโปรดปกปักรักษาข้าพเจ้าด้วยเทอญ" ให้ท่านลองทำดู& Z: m5 x: T0 G& h. l, B# z7 a' R2 o6 Y
เทวดา : สาธุ เราจะทำ แล้วยังมีอีกไหม ดีจังที่ได้สนทนากับท่าน
3 ^- `3 q; ~# D: hผม : มีครับ ก็ ‪#‎บุญภาวนา‬ สิ่งนี้ไม่ยากเลย การภาวนา ก็คือการสวดมนต์ ไม่ว่าสวดมนต์บทใดก็ได้อนิสงค์เช่นเดียวกัน หากท่านไม่รู้จะสวดมนต์บทใด ก็ให้ท่านกล่าวว่า " ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ ........" ไปเรื่อยๆจนกว่าท่านจะพอใจ
7 m" V7 C: h3 W0 Z+ ?5 Fเทวดา : สาธุ ง่ายดีแฮะ0 j* i& a* H4 f( v
ผม : ก็สิ่งง่ายๆนี่แหละที่คนมองข้าม ไปมองอะไรก็ไม่รู้ให้ยากให้ลำบาก
7 c: `# l- R; {# S7 S* K3 Uเทวดา : จริงของท่าน แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม* U  |! d4 e4 D$ z# n* S6 y: _* c7 w
ผม : มีครับ ‪#‎บุญชั้นสมาธิ‬ เป็นบุญที่ดีเป็นบุญที่เจริญ ซ้ำยังมีกุศลมาก4 e, G# \4 F6 [6 x) k
เทวดา : แล้วเราจะทำได้อย่างไร  P) u# p: Z, c" A+ ?
ผม : ท่านจำคำภาวนาที่ผมบอกได้ใช่ไหมครับ
& g" i# r$ F: {5 N' \เทวดา : ได้สิเราจำขึ้นใจเลยหละ5 j  [, N) B, v% ~* _6 I1 B) b/ J8 S
ผม : ให้ท่านภาวนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ภาวนาจนกว่าจิตจะนิ่ง จิตจะจับที่คำภาวนา มีเหลือแต่คำภาวนา นี่แหละสมาธิครับ หรือให้ท่านกล่าวว่า "พุทโธ ๆๆๆ" คำเดียวก็ได้ โดยกล่าวว่า "ข้าแต่พระรัตนไตย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำดวงจิตข้าพเจ้าให้กลายเป็นสมาธิด้วยเทอญ พุทธโธ ๆ ๆ ๆ " เพียงเท่านี้ก็เป็นการทำสมาธิแล้ว
0 p7 x  ^5 x# F2 W& s6 Rเทวดา : สาธุ ดีจริงง่ายๆเช่นนี้เอง เราจะนำไปปฏิบัติ มิเสียเวลาจริงๆที่มาพบท่าน แล้วยังมีข้อธรรมอีกหรือไม่
2 }) K) e/ H' Y7 kผม : มีครับ( M% [4 h. g5 N2 F8 Y" g' S
เทวดา : มีอีกหรอ น่าสนใจจริงๆ ไหนท่านลองกล่าวมาสิ* O- \4 L( T. ~+ ^6 m
ผม : ได้สิ เขาเรียกว่าวิปัสสนา ท่านรู้จักวิปัสสนาไหม4 c2 G9 V6 X6 P$ K4 D& ]% B4 P/ g
เทวดา : ไม่รู้เลย ไหนท่านลองอธิบาย
, M% X# c" y" P3 J- K+ zผม : วิปัสสนาคือการระลึกรู้ เข้าใจในธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจกฏของธรรมชาติว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นมาตั้งอยู่ และดับไปในท้ายที่สุด เป็นกฏของธรรมชาติ
3 ]+ O$ Y. W4 d0 S- X4 Kเทวดา : นั้นสินะ จริงของท่าน
1 H" h0 }) w3 `5 H' Uผม : มนุษย์กับ ชาวทิพย์จะต่างกันตรงที่มนุษย์มีร่างกายหยาบ แต่เทวดาอย่างท่านไม่มี
# A0 D- P- J1 z. B. R9 Z! oเทวดา : ใช่แล้ว# s) a+ s* |* E
ผม : แต่พื้นฐานแล้วไม่ต่างกัน มนุษย์มีขันธ์ 5 ซึ่งประกอบด้วย ! g: j* o, a7 ^6 v* n+ l  R: P
- รูป คือธาตุที่ประกอบมาเป็นกายเนื้อนี่เอง - S" ^% u% K8 r+ F" _- X5 D+ r4 q8 {
- เวทนา คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์) V& d, q$ U/ P
- สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้เช่น จำว่าเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน
3 `$ e1 K2 S: R0 h/ _; _* s8 l! _- สังขาร คือ ความร่วงโรยของวัยเด็ก วัยกลางคน วัยชรา ความตายอย่างเทวดาก็จะมีบุญเป็นสังขาร มีมรณะ เป็นสังขาร ใช่ไหม: J$ i- q4 i$ q; |
เทวดา : ใช่7 a8 e% h* D( `8 J. N8 E: a
ผม : วิญญาณ คือการรับรู้สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง การรับรู้ว่า สิ่งนี้เป็นดี เป็นเลว แต่เทวดาจะมีข้อแตกต่างจากมนุษย์เพียงข้อเดียว ก็คือรูป แต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังมีอยู่ครบ ให้ท่านพิจารณาดูเถิดว่าสิ่งที่ท่านมีนี้เที่ยงหรือไม่
3 O' Y' v3 G$ U" wเทวดา : ไม่เที่ยง ไม่คงทน หากคงทนเราคงไม่มาหาท่าน
3 O: f$ V  C( g* U0 a4 w3 Q( R! F) `ผม : จริงที่สุด ให้ท่านพิจารณาดูว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่
+ C6 k- V  F% l# z7 i0 dเทวดา : เป็นเช่นนั้นจริงๆ8 @% j6 `! ]+ _8 N5 G( v
ผม : มีข้อสงสัยอีกหรือไม่
! F, b2 g/ c3 qเทวดา : หมดข้อสงสัย หากมีข้อสงสัยเราจะมาหาท่านและคุยกับท่านอีก
  [3 u) |2 L) T. x, B' q$ x! l) }/ Oผม : ยินดี และน้อมส่งท่านกลับยังวิมานของท่าน "ข้าพเจ้าขออำนาจพระรัตนไตร โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาถวายแด่เทวดาผู้นี้ด้วยเทอญ"  I9 i; K5 ^$ x; W+ `( k
เทวดา : สาธุ ไปแล้วนะ
7 q& L/ D5 q" ]) E1 N+ ?/ b1 P; lแม้แต่เทวดายังมีความเสื่อมถอยของบุญ แล้วเราเป็นเพียงแค่มนุษย์ความเสื่อมถอยของบุญจะไม่เกิดแก่เราได้เช่นไร จงถามตัวเองเสมอว่า ‪#‎วันนี้คุณสร้างบุญแล้วหรือยัง‬ ขอบุญนี้จงไปถึงวิญญาณทุกดวงที่ต้องการบุญด้วยเถิด สาธุ; x( t; l) ?- P5 b  l6 A2 z
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-2-23 22:15 , Processed in 0.028502 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.