แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 9196|ตอบ: 23
go

"ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรม ณ บ้านลานเสียงธรรม ซ.นาคนิวาส 40 ลาดพร้าว 71 กรุงเทพฯ  26 - 28 ก.พ. 59" [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

"ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ณ บ้านลานเสียงธรรม ซ.นาคนิวาส 40 ลาดพร้าว 71 กรุงเทพฯ  26 - 28 ก.พ. 59"
1. ผู้ให้กรรมฐานและสอบอารมณ์ : คุณแม่ชีเกณฑ์ นิลพันธ์ ปัจจุบันท่านเป็นผู้อบรมและสอบอารมณ์ผู้ปฏิบัติธรรม ณ วัดป่าเจดีย์เทวธรรม อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ท่านมีประสบการณ์อบรมผู้ปฏิบัติธรรม ทั้งจากวัดร่ำเปิง ตโปทาราม จ.เชียงใหม่ และสถานที่อื่นๆ มากว่า 42 ปี ท่านเปิดกว้างสอนได้ทุกแนวการปฏิบัติ ทั้งมีคำบริกรรม ไม่มีคำบริกรรม และผู้เริ่มต้นใหม่ที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน

2. การเดินทาง : บ้านลานเสียงธรรม ตั้งอยู่ เลขที่ 7/44 หมู่ 4 ซอย นาคนิวาส 40, ลาดพร้าว 71 กรุงเทพฯ  ดูแผนที่ บรรยากาศของสถานที่ และเงื่อนไขการเข้าร่วมปฏิบัติธรรม ได้ที่  http://pantip.com/topic/34688038

3.การเตรียมตัว : สามารถเข้าร่วมปฏิบัติธรรมได้ตามวันเวลาที่ตนเองสะดวก สิ่งของที่ต้องเตรียมไป คือ ชุดขาวหรือเสื้อผ้าสีอ่อน ของใช้ส่วนตัว ยาทากันยุง  (ไม่มีค่าใช้จ่าย อาหารเป็นมังสวิรัติทั้งหมดทุกมื้อ) ***ยินดีต้อนรับทั้งผู้ชาย ผู้หญิง สาวประเภทสอง และผู้พิการที่สามารถดูแลตัวเองได้***

4. อ่านแนวทางการสอนและการสอบอารมณ์ของคุณแม่ชีเกณฑ์ ได้ที่...
               - http://pantip.com/topic/34688038
               - เฟสบุค สวนปฏิบัติธรรมชมวิว  https://web.facebook.com/%E0%B8% ... 03876685810/?ref=hl

5. สอบถามรายละเอียดและแจ้งชื่อลงทะเบียน : เปิดรับผู้ปฏิบัติธรรม 30 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งชื่อแล้ว 13 คน แจ้งชื่อจริง นามสกุล ชื่อเล่น เบอร์โทร วันที่ไปและกลับ จำนวนคน ได้ที่ .....คุณอ้วน : 02-5783998 ,  02-9071535 ,  086-3787677  ID Line uan_panisa หรือ https://web.facebook.com/panisa.tourinthailand?__nodl  (สามารถส่งข้อความได้เลยโดยไม่ต้องสมัครเป็นเพื่อน)

6. สอบถามการปฏิบัติและแนวทางการสอนของคุณแม่ชีเกณฑ์ กับท่านโดยตรง ได้ที่ 062-1270465(12call) , 0868540049(dtac) 10.00-22.00 น.


Rank: 1

"แผนที่ของ บ้านลานเสียงธรรม"

สอบถามเส้นทางได้ที่ คุณอ้วน : 02-5783998 ,  02-9071535 ,  086-3787677  ID Line uan_panisa  หรือ https://web.facebook.com/panisa.tourinthailand?__nodl




Rank: 1

"บรรยากาศใน บ้านลานเสียงธรรม"

Rank: 1

"เงื่อนไขการเข้าร่วมปฏิบัติธรรม"

เปิดรับเพียง 30 คน เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสสอบอารมณ์ตัวต่อตัวกับคุณแม่ชีเกณฑ์ ขณะนี้มีผู้แจ้งชื่อลงทะเบียนแล้ว 13 คน 

เงื่อนไขการปฏิบัติธรรมคือ งดกาแฟ  ปิดวาจาทุกคน งดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด งดอ่าน งดเขียน ไม่เน้นการสวดมนต์ ไม่เน้นการนั่งสมาธินานๆ เน้นให้ปฏิบัติเดินนั่งทั้งวัน  ตื่นตี 3 เข้านอน 4 ทุ่ม สอบอารมณ์ตัวต่อตัว



Rank: 1

"ตารางการปฏิบัติธรรม"

คุณแม่จะเดินทางมาถึง บ้านลานเสียงธรรม ในช่วงสายของวันพฤหัสบดี ที่ 25 ก.พ. 59 ทุกท่าน ทั้งผู้มาปฏิบัติธรรม หรือ ต้องการมาเพียงสนทนาธรรม หรือ ต้องการมากราบคุณแม่เฉยๆ หรือ มาปรึกษาเรื่องทุกข์ในใจ สามารถเข้ามากราบคุณแม่ได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 25 ก.พ. 59

25 ก.พ. 59   ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถเข้ามาได้เลยก่อน 22.00 น.เมื่อเข้ามาแล้วคุณแม่ท่านก็จะแนะนำการปฏิบัติให้เลย โดยไปขึ้นกรรมฐานพร้อมกันในเช้าวันที่ 26 ก.พ.59

26 ก.พ. 59 
8.00 น.  ผู้ปฏิบัติธรรมที่ลงทะเบียนเข้าปฏิบัติธรรมในวันศุกร์ ต้องมาภายในเวลา 8.00 น. 
8.30 น. ขึ้นกรรมฐานกับคุณแม่ชีเกณฑ์ และ คุณแม่จะแนะนำการปฏิบัติให้เลย
11.00 น. อาหารเที่ยง 20 นาที พักจัดการเรื่องส่วนตัว
12.00 น. เริ่มปฏิบัติธรรม
15.00 น. คุณแม่ เริ่มสอบอารมณ์ผู้ปฏิบัติธรรมทีละคน 
18.00 น. สวดมนต์ ทำวัตรเย็น สนทนาธรรมกับคุณแม่ และปฏิบัติธรรมต่อ
22.00 น. เข้าที่พัก

27 ก.พ 59
3.00 น. ตื่นนอน จัดการธุระส่วนตัว แยกย้ายปฏิบัติธรรม
5.00 น. สวดมนต์ ทำวัตรเช้าและสนทนาธรรมกับคุณแม่ หลังจากนั้นแยกย้ายกันปฏิบัติธรรม
7.00 น. อาหารเช้า 20 นาที จัดการธุระส่วนตัว
8.00 น. เริ่มปฏิบัติธรรมต่อ
8.30 น. ขึ้นกรรมฐานสำหรับผู้ที่มาใหม่
11.00 น. อาหารเที่ยง 20 นาที จัดการธุระส่วนตัว
12.00 น. ปฏิบัติธรรมต่อ
15.00 น. คุณแม่เริ่มสอบอารมณ์ทีละคน
18.00 น. สวดมนต์ ทำวัตรเย็น สนทนาธรรมกับคุณแม่ และปฏิบัติธรรมต่อ
22.00 น. เข้าที่พัก

28 ก.พ. 59
3.00 น.  ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัวและปฏิบัติธรรมต่อ
5.00 น. สวดมนต์ ทำวัตรเช้า สนทนาธรรมกับคุณแม่ 
6.00 น. ลากรรมฐาน
7.00 น. อาหารเช้า
8.00 น. เก็บของและช่วยเก็บทำความสะอาดสถานที่ พร้อมถ่ายรูปกับคุณแม่ชีเกณฑ์
9.00 น. แยกย้ายเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพทุกคน 

ในแต่ละวันคุณแม่จะขึ้นกรรมฐานให้ในช่วงเช้า จึงขอให้ทุกท่านเข้ามาก่อนเวลา 8.00 น.  และสำหรับท่านใดที่กลับก่อน ต้องแจ้งล่วงหน้าในวันลงทะเบียน เพื่อจัดเวลาในการสอบอารมณ์และลากรรมฐานกับคุณแม่ สำหรับท่านใดที่เกิดข้อสงสัยในการปฏิบัติธรรมที่คุณแม่แนะนำ สามารถปรึกษากับคุณแม่ได้ทุกเมื่อหากขณะนั้นท่านไม่มีผู้สนทนาด้วย โดยไม่ต้องรอคิวสอบอารมณ์ของตัวเอง

ตารางการปฏิบัตินี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามสถานการณ์ในวันจริง และจะมีการติดประกาศให้ผู้ปฏิบัติได้เห็นด้วย





Rank: 1

"การเตรียมตัว"

ทางบ้านลานเสียงธรรม มีทุกอย่างบริการผู้ปฏิบัติธรรมทุกคน มีห้องนอนรวมมุ้งลวด แยกหญิงชาย หมอน ผ้าห่ม เสื่อครบ มีน้ำปานะ อาหาร 2 มื้อ ผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านเตรียมเพียงแค่ของใช้ส่วนตัว ยาประจำตัว ยาทากันยุง ไฟฉายด้วยก็ดี เผื่อไว้เดินจงกรมนอกศาลาในตอนกลางคืน ชุดขาว หากท่านใดไม่มี คุณแม่ท่านไม่ให้ไปซื้อ ใช้เสื้อผ้าสีอ่อน เช่น เสื้อขาว กางเกงดำ กางเกงเทาก็ได้ สำหรับผู้หญิงขอขายาว ไม่เอาสามส่วน สี่ส่วน และที่สำคัญที่สุด คือเตรียมตัวและใจมาให้พร้อม โดยเฉพาะท่านที่ติดกาแฟ คุณแม่ท่านห้ามแอบเอามา ให้อมลูกอมธรรมดาแทนได้


Rank: 1

"วัดป่าเจดีย์เทวธรรม บ.โคกสูง ต.ดงลาน อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด"

ในช่วงเวลาปกติที่คุณแม่ไม่ไปไหน ท่านจะอยู่ที่ วัดป่าเจดีย์เทวธรรม  จ.ร้อยเอ็ด สามารถไปปฏิบัติกับท่านได้ที่วัดทุกวัน แต่ต้องแจ้งท่านล่วงหน้า

Rank: 1

"ประวัติของคุณแม่ชีเกณฑ์ นิลพันธ์ ตอนที่ 1"

ตั้งแต่จำความได้แม่ไม่ชอบของหอมของทาเลยตั้งแต่เด็ก พอได้กลิ่นจะง่วงนอน อายุได้ 13 ปี มีโอกาสตามป้าซึ่งบ้านอยู่ใกล้กันไปฟังธรรมจากหลวงปู่ศรี มหาวีโร แห่งวัดบ้านป่ากุง จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำทุกวันพระ

ครั้งแรกที่ไปฟัง หลวงปู่ศรีท่านบอกว่า...มนุษย์เกิดมามีแต่ความอยาก มีแล้วก็อยากมีอีก ต้นไม้ที่มีรากก็จะสามารถออกดอก ออกผล มีลูก ต่อยอดไปไม่มีวันจบสิ้น เปรียบกับมนุษย์ที่มีครอบครัว ก็มีทั้งลูก หลาน ญาติ พี่น้อง ถ้ามีสามีดีก็ดีไป ถ้ามีไม่ดีก็เหมือนตกนรก ถ้ามีลูกดีก็ดีไป ถ้ามีลูกไม่ดีก็เหมือนตกนรก มีหลายคนถ้าไม่ดีหลายคนก็เหมือนตกนรกหลายหลุม หากใครต้องการหลุดพ้น ต้องออกจากการมีครอบครัว ด้วยการตัดช่องน้อยแต่พอตัว คนฟังธรรม 100 คน ฟังแล้วหลุดพ้นได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

แม่เห็นด้วยตามที่หลวงปู่ท่านเทศน์ หลังจากวันนั้นทุกคืนวันพระ แม่จะตามป้าไปนอนที่วัด เพื่อไปปฏิบัติธรรมและฟังเทศน์จากหลวงปู่ศรี หลวงปู่ศรีสอนให้บริกรรมพุทโธ หลังจากนั้นก่อนที่แม่จะบวช มีอาจารย์ผู้หนึ่งนำไปวัดโมกขวนาราม จ.ขอนแก่น ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งปฏิบัติตามแบบสายหลวงปู่เทียน ที่นี่มียารักษาโรคต่างๆ เป็นยาแผนโบราณ เขาพาแม่ไปเพื่อปฏิบัติและรักษาโรคด้วย แม่มีโรคประจำตัวมาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งเวียนหัว ปวดหัว ปวดท้อง และเจ็บหน้าอก

ด้วยใจที่ไม่ฝักใฝ่ในทางโลกเลย แม่ขอพ่อกับแม่บวชตั้งแต่อายุยังน้อย แต่พ่อไม่อนุญาติ บอกกับแม่ว่าขอดูให้แน่ใจก่อน ถ้าบวชออกไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจอยากมีเรือนขึ้นมาจะเป็นบาป เวลาผ่านไปจนอายุย่าง18 ปี ทางผู้ใหญ่เห็นแล้วว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จิตใจของแม่ไม่ได้หวั่นไหว คลอนแคลนโอนเอนไปตามกระแสโลกแม้แต่น้อย จึงตัดสินใจอนุญาติให้แม่ออกบวช นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แม่ได้อยู่ในร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนา ครองเพศแม่ชีมาจนถึงทุกวันนี้

อ่านประวัติของคุณแม่ชีเกณฑ์ ตอนต่อไปได้ที่ http://pantip.com/topic/32013264

Rank: 1

"แม่ค่ะ หนูจะเขียนคำเรียกแม่อย่างไรดีค่ะ"

เมื่อแรกเริ่มที่ต้องเขียนเล่าการปฏิบัติธรรรมกับคุณแม่ เกิดปัญหาขึ้นว่าจะเขียนคำเรียกคุณแม่ว่าอย่างไรดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายเดือน เรียกท่านอย่างเดียวว่า "แม่" จะเขียนว่า "แม่ชีเกณฑ์" มันก็ดูห้วนและกระด้างไปในการเขียนเล่าเรื่อง จะใช้คำว่า "แม่" เฉยๆ อันนั้นก็เป็นภาษาพูด 

ถามคุณแม่ว่าจะใช้คำไหนดี "แม่" หรือ "แม่ชีเกณฑ์" ท่านจึงเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง....ครั้งหนึ่งท่านไปเยี่ยมคุณแม่ของผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง คุณแม่ของเขา อายุเกือบ 90 ปี คุณยายยังแข็งแรงดี พูดจาฉะฉานและยิ้มร่าเริง ขณะที่คุณแม่นั่งสนทนากับคุณยาย ลูกของเขาเดินเข้ามา และเรียกคุณแม่ว่า "แม่ชีเกณฑ์" 

คุณยายหันมาดุลูกสาวของเขาว่า เรียกท่านอย่างนี้ได้อย่างไร คุณแม่ท่านบวชมาเกิน 10 ปีแล้ว เราจะต้องเรียกท่านว่า "คุณแม่ชีเกณฑ์" อย่างนี้ถึงจะเหมาะสม
จึงได้ข้อสรุปจากคุณแม่ว่า ในงานเขียนและเมื่อคุยกับคนอื่น จะเรียกท่านว่า "คุณแม่ชีเกณฑ์" คุณแม่ท่านยังบอกอีกว่า หรือจะเรียกท่านว่า "คุณแม่" หรือ "แม่" เฉยๆ ก็ได้ หลายๆ ท่านก็คงจะเกิดคำถามนี้ในใจว่าจะเรียกท่านอย่างไรดีจึงจะเหมาะสม 

Rank: 1

"คุณแม่สอนปฏิบัติแนวไหนค่ะ"

แม่สอนวิปัสสนาในสติปัฏฐาน 4 มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ ดับอารมณ์ได้ทันปัจจุบัน ถามว่าแนวไหนก็แนวมรรคมีองค์ 8 คุณจะเอาแนวไหนก็ได้ แต่ให้คุณเอาแนวเจริญสติปัฏฐาน 4 สติปัฏฐาน 4 ไม่ใช่เฉพาะหนอ แม่เปิดกว้าง อะไรก็ได้ จะมีคำบริกรรมหรือไม่มีก็ได้ 

มีผู้ปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง เขาเล่นสมถะ จิตนิ่งเข้าฌานอยู่เป็นสิบปี แต่เขาไม่เจริญสติเลยทำให้เขาติดอยู่ตรงนั้น มีแต่ความสงบแต่ไม่มีปัญญาที่จะดับทุกข์ในใจตน เขาบริกรรมพุทโธ แม่ก็เลยบอกว่าเพราะเธอขาดสติและปัญญา เธอจงเจริญสติโดยเอาพุทโธนั่นแหละเป็นกรรมฐาน

สติปัฏฐาน 4 กว้าง จะเอาวิธีกรรมใดก็ได้ จะเอา 84,000 พระธรรมขันธ์มากำหนด จะเพ่งอะไรก็ได้ แต่เมื่อจิตสงบแล้วคุณต้องเจริญสติ ให้รู้เท่าทันอารมณ์ที่มากระทบทางตาหูลิ้นจมูกกายใจ ในผู้ที่ไม่มีคำบริกรรมอะไรเลย ก็ให้รู้เท่าทันอารมณ์เช่นกัน ให้มีสติรู้เท่าทันว่าโกรธ ว่าเกลียด มีโทสะมีโมโหมั้ย ให้รู้เท่าทันอารมณ์ที่คิด ที่ปรุงแต่ง 

ถ้าให้เอาหนอเข้าไป เขาฝืน เขาเคือง เขาอึดอัด ก็เอาอะไรก็ได้ แม่จะบอกจุดให้เขาไปสังเกตเพื่อให้เกิดสติและปัญญา ทำไมต้องให้รู้เท่าทันอารมณ์เพราะจะได้รู้จักตัวเองเห็นตัวเอง ว่ากำลังเกาะกำลังยึดอะไรอยู่ ทุกข์กับมันมากมั้ย เมื่อเห็นตัวเองจะได้เห็นโทษเห็นภัยอารมณ์ที่เราไปเกาะไปยึดอยู่ 

เมื่อรู้จักตัวเอง เห็นว่ามันทันมั่งไม่ทันมั่ง เอาอยู่มั่งเอาไม่อยู่มั่ง ถ้าอยากออกจากทุกข์ อยากแก้ตัวเอง แม่ก็จะสอนให้เขาเกิดสติเกิดปัญญา ที่จะสอนตัวเองเตือนตัวเองได้ หัวใจของการปฏิบัติอยู่ตรงนี้ ให้เรารู้เท่าทันอารมณ์และดับอารมณ์ปัจจุบันได้ทัน ดับทันมันก็ไม่ทุกข์ ดับไม่ทันมันก็เป็นภพเป็นชาติ


‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 00:54 , Processed in 0.034913 second(s), 14 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.