นมัสการพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อัญเชิญจากประเทศภูฏาน ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

	2015-2-4 23:43 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.68 KB) 2015-2-4 23:43 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.73 KB) นมัสการพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อัญเชิญมาจากประเทศภูฏาน ณ  วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่

	2015-2-4 23:46 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.22 KB) 2015-2-4 23:46 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.93 KB) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๒ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ เขต ๑ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ค่ะ

	2015-2-4 23:47 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.03 KB) 2015-2-4 23:47 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.85 KB) พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ภายในประดิษฐานพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ ค่ะ 2015-2-4 23:47 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.54 KB) หน้าบันด้านหน้า พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ค่ะ

	2015-2-4 23:49 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.34 KB) 2015-2-4 23:49 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.9 KB) 2015-2-4 23:49 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.61 KB) 2015-2-4 23:49 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.38 KB) 2015-2-4 23:49 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.94 KB) บรรยากาศภายใน วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ประชาชนทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และต่างจังหวัด ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ต่างหลั่งไหลมากราบนมัสการพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จำนวนมากค่ะ

	2015-2-4 23:50 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.42 KB) 2015-2-4 23:50 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.78 KB) 2015-2-4 23:50 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.72 KB) ดอกไม้ธูปเทียน บูชาพระทันตธาตุ ทำบุญตามจิตศรัทธาได้ ภายใน วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ค่ะ

	2015-2-4 23:51 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.75 KB) 2015-2-4 23:51 อัปโหลด ดาวน์โหลด (96.85 KB) เดี๋ยวเราเข้าไปกราบนมัสการพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ ภายใน พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร กันเลยนะคะ

	2015-2-4 23:56 อัปโหลด ดาวน์โหลด (268.93 KB) 2015-2-4 23:56 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.3 KB) 2015-2-4 23:56 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.69 KB) 2015-2-4 23:56 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.62 KB) ภายใน พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร มีประชาชนจำนวนมากต่างมากราบนมัสการพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ พร้อมกับถวายดอกไม้ธูปเทียน กระทงสะเดาะเคราะห์ และตุงประจำปีเกิด เป็นพุทธบูชาค่ะ

	2015-2-5 00:03 อัปโหลด ดาวน์โหลด (99.8 KB) 2015-2-4 23:58 อัปโหลด ดาวน์โหลด (96.08 KB) พระทันตธาตุพระพุทธเจ้ากัสสปะ ประดิษฐานภายใน พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ค่ะ

	2015-2-5 00:01 อัปโหลด ดาวน์โหลด (98.39 KB) 2015-2-5 00:01 อัปโหลด ดาวน์โหลด (97.61 KB) ข้อมูลอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุ จากประเทศภูฏาน มาประดิษฐานที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมือง เชียงใหม่ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุ จากประเทศภูฏาน มาประดิษฐานที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมือง เชียงใหม่ เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงได้ร่วมกันสักการะ และร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากประเทศภูฏาน ขึ้นบนรถบุษบกจากท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปประดิษฐานที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมือง เชียงใหม่ เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงได้ร่วมกันสักการะ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๕ จากนั้นในวันที่ ๒๐-๒๖ มกราคม ๒๕๕๕ จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดคอหงส์ หาดใหญ่ จากนั้นวันที่ ๒๗ มกราคมถึง ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดหนองแวง พระมหาธาตุแก่นนคร ทั้งนี้สืบเนื่องจากสมเด็จพระราชธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ซึ่งถือเป็นปีมหามงคลโดยมีการอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้ากัสสปะ จากราชอาณาจักรภูฏาน มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย ถือว่าเป็นมงคลแห่งพระบรมกษัตริยาธิราชของ ๒ ราชอาณาจักรและประสานสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ นับเป็นการส่งเสริมด้านศาสนสัมพันธ์ของคณะสงฆ์ไทย และถือเป็นเกียรติประวัติต่อประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง

	2015-2-5 00:04 อัปโหลด ดาวน์โหลด (352.24 KB) 2015-2-5 00:04 อัปโหลด ดาวน์โหลด (283.19 KB) ประวัติความเป็นมาพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ จากประเทศภูฏาน พระทันตธาตุองค์นี้ ทางภูฏานระบุว่าไม่ใช่พระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า “โคดม” องค์ปัจจุบัน แต่เป็นของพระพุทธเจ้า “กัสสปะ” ที่เสด็จอุบัติขึ้นก่อนหน้าพระพุทธเจ้าโคดม และประกอบกับไม่เคยอัญเชิญออกนอกประเทศภูฏานมาก่อน ก็ยิ่งทำให้เกิดการ “ใคร่ศึกษาอยากรู้” รัฐบาลโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงได้ประสานนำสื่อมวลชนไทยตามรอยพระทันตธาตุถึงภูฏาน และจากการร่วมเดินทางไปยัง “ทาชิโชซอง” ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระทันตธาตุประดิษฐานอยู่ในพระราชวังของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ก็ได้รับการเปิดเผยจาก ดอร์จี ทีเชอริง เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงวัฒนธรรมแห่งภูฏาน ว่า พระบรมสารีริกธาตุองค์นี้เป็นส่วนพระทันตธาตุของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า (ทว่าไม่ได้ระบุว่าเป็นพระทันตธาตุส่วนไหนบน ล่าง ซ้าย ขวา) มีอายุราว ๓,๐๐๐ ปี และเป็นองค์เดียวในโลกที่เหลืออยู่ เก็บรักษาไว้อย่างดีในพระราชวังของสมเด็จพระราชาธิปดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนดังกล่าวเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งพระทันตธาตุว่า เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 8 ได้มีพระลามะรูปหนึ่งเดินทางลี้ภัยมาจากประเทศอินเดียเข้ามาในดินแดนของภูฏานและได้นำพระทันตธาตุมาด้วยโดยมีหลักฐานบันทึกว่าเป็นพระทันตธาตุของพระกัสสปพุทธเจ้า “ทาชิโชซอง” หรือ “ตาชิโชซอง” ตั้งอยู่ที่เมืองทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน เป็นป้อมปราการที่มีความงดงาม ประกอบด้วยกลุ่มอาคารหลายหลัง เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการปกครอง หน่วยงานราชการต่างๆ สถานที่ประชุมรัฐสภา พระราชวังอันเป็นสถานที่ทรงงานของกษัตริย์ รวมถึงเป็นศูนย์กลางของศาสนจักร ซึ่งประกอบด้วยวิหารหลวงและอื่นๆ เป็นที่ประทับของพระสังฆราชและคณะสงฆ์ในฤดูร้อน สำหรับวิหารหลวงในซองแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ใช้ในการประกอบพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ที่ผ่านมาก็ทำในวิหารหลวงแห่งนี้ เรียกว่าซองนี้มีทั้งส่วนที่เป็นวัดและวัง ถ้านึกภาพให้เห็นง่ายๆ ก็คล้ายกับพระบรมมหาราชวังของไทย ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นวัด เป็นวัง และมีหน่วยงานราชการบางส่วนตั้งอยู่ เพียงแต่ในพระบรมมหาราชวังของไทยจะไม่มีพระภิกษุจำพรรษาเท่านั้น อย่างไรก็ตามทาชิโชซองปกติไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเยี่ยมชม แต่จะอนุญาตให้เข้าชมได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น