แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 3562|ตอบ: 8
go

ประสบการณ์พบเจออาคม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

       kachon20116202114.jpg 4 L+ F6 `4 g# v7 _' {
ประสบการณ์อีกประสบการณ์หนึ่งที่ผมต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอด  จากสิ่งที่ตาเนื้อไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งหลายคนที่มองไม่เห็นก็บอกว่างมงายส่วนผู้ที่มีประสบการณ์ก็บอกว่ามันน่าเหลือเชื่อ  ส่วนผู้ที่ได้จักษุทิพญาณต่างบอกว่ามีจริงเรื่องที่ผมจะบอกก็คือไสยศาสตร์หรืออาคม  คำว่า  อาคมจะมีอยู่  2  ด้าน  คือด้านสว่างกับด้านมืด  ในส่วนของอาคมในด้านสว่างผมจะไม่ขอพูดถึง  แต่เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังก็คืออาคมในด้านมืด  ที่ผมได้พบเจอมาและเกือบเอาชีวิตไม่รอด  แต่ก็รอดมาได้ด้วยบุญฤทธิ์ และการอุทิศบุญ  หากไม่เป็นเพราะบุญฤทธิ์ผมคงไม่ได้มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังได  เอาเป็นว่าผมขอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็แล้วกันเดี่ยวจะยาวไปกันใหญ่
9 q# r* G* l0 A1 b! |- ~% }8 X        วันนี้เป็นวันที่ผมมีเวรรักษาการดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนเมื่อเวลาประมาณ  2  ทุ่มกว่าๆ ผมเดินตรวจมาถึงบริเวณบ้านพักของผู้ดูแลโรงเรียนและแล้วผมก็ต้องตกเพราะสิ่งที่ผมพบก็คือมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมีทั้งเด็กและใหญ่อยู่ภายในบ้านพัก  เมื่อพบดังนั้นผมนึกขึ้นว่าทำไมมีวิญญาณมาอยู่ที่นี่ได้  วิญญาณเหล่านั้นต่างมีท่าทางตกใจเมื่อได้พบกับผม  เห็นดังนั้นผมจึงอุทิศบุญโดยเอ่ยว่า  ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังวิญญาณเหล่านี้ด้วยเทอญ  วิญญาณเหล่านั้นก็ปรากฏอาการดีใจเหมือนว่าไม่เคยได้รับบุญมาก่อนผมจึงขอคุยด้วย* o# _2 \) }* o- m  P  b: q
        ผม  :                  สวัสดีได้รับบุญจากผมแล้วใช่ไหม
+ A1 k$ \: v( V- z) g* A7 K8 }( Z1 c        วิญญาณ  :          ได้รับแล้วดีจังเลย
& n0 P- n+ n) {" z; \        ผม  :                  ถ้าดีช่วยตอบคำถามผมสักหน่อยได้ไหมเดี๋ยวผมให้อีก3 Y5 z. T  X: Q4 l5 n6 k8 P
        วิญญาณ  :          ได้พวกเรายินดีตอบคำถาม$ Z4 C" `" p# l3 H9 u
        ผม  :                  พวกท่านมาทำอะไรกัน* D! W: z8 j) Z/ n
        วิญญาณ  :          พวกเราถูกสั่งให้มาบังคับคนที่นี่ให้เชื่อฟังคำสั่ง
! i' u- |" C8 G! r6 B        ผม  :                  แล้วทำสำเร็จไหม! Q5 g) X; K- {
        วิญญาณ  :          ได้เป็นบางคนเท่านั้น
( H/ ~+ b7 K. s. s/ R" G        ผม  :                 แล้วทำไมไม่ออกมา  นอกบ้านล่ะ  [6 P. N- F4 J% P0 [' U
        วิญญาณ  :          พวกเราไม่กล้าออกเพราะที่นี่มีแต่คนเก่งๆ
0 e8 M7 U/ x6 ]4 F  l5 c+ ^8 P0 D1 s        ผม  :                  พวกเธอมาจากที่ไหนกัน
1 _2 r. _5 i5 S  _7 b6 X4 {1 f        วิญญาณ  :          พวกเราติดตามคนนี้มาจากหมออาคมคนหนึ่ง
; v, k, u0 \1 g1 w; A: p        ผม  :                  พวกเธอถูกมัดด้วยอาคมใช่ไหม
# X8 @/ i# I* Z: y$ e8 O0 `2 w6 l8 M        วิญญาณ  :          ท่านรู้8 z5 h- f! O# L. \4 x" U4 ^
        ผม  :                  ก็พอรู้บ้าง$ ^3 T. V' l  h# \4 R
        วิญญาณ  :          ใช่พวกเราถูกมัดด้วยอาคม+ y! @  k4 t! l" u2 G! o  Y3 G( l/ b
        ผม  :                  ต้องการให้ผมช่วยไหมล่ะ1 D& y( N; n0 d& ~3 t  |2 u  G3 C
        วิญญาณ  :          พวกเราทรมานเหลือเกินต้องทนกับการถูกบังคับท่านช่วยเราด้วย" h0 w5 y' ]& S
        ผม  :                 ได้เดี๋ยวผมจะช่วยแต่ต้องเลิกบังคับคนอื่นนะ!
  C1 }' P; U0 h) h& j        วิญญาณ  :          ขอบคุณท่านมากที่จะช่วยพวกเรา1 l. k+ T2 s% [
ผมผละออกมาจากบริเวณตรงนั้นแล้วผมกลับมาที่ห้องพัก  จากนั้นผมก็ทำการอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นให้เป็นอิสระจากอาคมที่ผูกมัดพวกเขาไว้  แต่สิ่งที่ผมไม่อาจลืมก็คือการขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่ผูกมัดดวงวิญญาณเหล่านั้นไว้  การอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาประมาณ  1  อาทิตย์  ผมได้เดินมาดูพวกเขา  ณ  ตรงบริเวณที่พบอีกครั้งก็ปรากฏว่าพวกเขาต่างมีสภาพที่ดีขึ้นจากตอนที่พบกันในตอนแรก  แต่พวกเขายังคงถูกมัดด้วยอาคมอยู่  ผมจึงขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่มัดพวกเขาไว้อีกครั้งจนเวลาผ่านไป  ประมาณ  3  วัน ผมเดินอยู่ตรงบริเวณลานกว้างก็ได้ปรากฏมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมาหาผมและมาขอบคุณผมแล้วพวกเขาก็จาไปยังภพภูมิของแต่ละคน  ผมรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาให้หลุดพ้นจากการถูกบังคับ/ P+ G' |# R2 p9 t
        ทำให้ผมได้ทราบว่าคนที่ใช้อาคมคอยบังคับคนอื่นโดยที่พวกเขาไม่เต็มใจพวกเขาก็จะไม่อยากอยู่กับคุณ  แต่ในทางกลับกันหากคุณดูแลพวกเขาด้วยความเมตตาพวกเขาก็จะคอยช่วยเหลือคุณอย่างเต็มใจนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีส่วนเกี่ยวกับ  อาคม  และเข้าไปล้างอาคมด้วยอำนาจบุญฤทธิ์ของพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์9 {) `  Q3 R  z( z
! Z, Q% j3 H% n, u, P9 a% i4 [6 A5 H

Rank: 1

จิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับด้วยไสยเวทย์3 _) A7 h5 U( M" g$ W
        ผมเองตั้งใจว่าจะไม่เขียนเรื่องการพบไสยเวทย์อีก แต่ก็ต้องมาคิดทบทวนดูใหม่ เมื่อต้องมาพบกับเรื่องที่จะเล่าดังต่อไปนี้  ในวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554  พวกของผมคนหนึ่งถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ ซึ่งผมเองถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จากท่านผู้ดูแลที่อยู่ในโลกทิพย์ โดยท่านได้ปรามผมว่า “เธออย่าได้แก้ไสยเวทย์ให้ผู้ใดอีกนะ แม้กระทั่งตัวของเธอเอง เพราะว่าหากเธอแก้ผลจะกลับมาสู่ตัวเธออันเนื่องมาจากผลของกรรม” ดังนั้นผมจึงไม่อาจขัดคำเตือนได้ แต่หากถามว่า ผมสามารถแก้ไสยเวทย์ให้คนอื่นได้ไหม คำตอบก็คือ ได้ครับ แต่ผมต้องถูกพลังของไสยเวทย์ที่เขากระทำมันย้อนกลับเข้ามาสู่ตัวของผม อันเนื่องมาจากเข้าไปขัดขวางกรรมของผู้อื่น มันเป็นกฎที่ผมต้องแลก ผมจึงไม่สามารถแก้เรื่องของไสยเวทย์ให้แก่ผู้อื่นได้ มีแต่คำแนะนำเท่านั้น ; _$ g% H0 q/ W% h2 _
ขอกลับเข้าเรื่องของจิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากพบว่าพวกของผมเขาถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ จึงบอกให้พี่เขารู้ตัว ต่อจากนั้นผมได้พบกับวิญญาณที่หมอผีส่งมาด้วยเวทย์มนต์ เพื่อทำร้ายพวกของผม วิญญาณดวงนั้นมีรูปร่างเหมือนนักกล้ามไม่มีผิด มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ผิวสีคล้ำ ดวงตาสีแดงกล่ำ ด้วยความเป็นห่วงพวกของผม กลัวว่าเขาจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ ผมจึงเตรียมตัวอุทิศบุญให้แก่วิญญาณที่ติดตามเวทย์มนต์นั้นมา พลันผมก็ได้ยินเสียงห้ามจากวิญญาณนั้นว่า “ท่านอย่าทำแบบนั้น” ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก และเกิดความสงสัย เพราะปกติวิญญาณโดยทั่วไปนั้น เมื่อผมอุทิศบุญให้เขาจะยินดี แต่นี่กลับห้ามผม แสดงว่าต้องมีเหตุที่ไม่ปกติแน่ ๆ ผมจึงถามออกไป. W) |2 a; w$ `/ }6 j# w1 H/ j) U
ผม : “มีอะไรหรือ”
% g1 p0 `3 i6 G4 vเทพ : “มีสิ ท่านอย่าให้บุญกับผมนะครับ”6 u9 T$ f* \9 |
ผม : “อ้าว ! ทำไมล่ะ”
+ M! o0 H$ P3 I. Q0 G) q/ ?เทพ : “ผมสงสารท่านนะสิ”% x" p4 @+ \2 {6 Q$ Z+ Q9 z1 a
ผม : “ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อผมอุทิศบุญให้น่าจะดีไม่ใช่หรือ”
: @0 K" a0 e1 B* {เทพ : “มันก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ดีแก่ตัวท่าน”, }0 a+ a5 r4 F7 ], a. s
ผม : “ไม่ดีอย่างไร”
# `6 u9 E* _) gเทพ : “หากท่านช่วยให้ผมหลุดพ้นจากอำนาจของหมอผี ท่านเองจะถูกกระทำจากไสยเวทย์มากขึ้นสิครับ”
1 p, W- b( t/ N  J" lผม : “ด้วยเหตุผลอะไรล่ะ”
" I9 T) x6 K2 K$ t5 F& M9 ?เทพ : “ก็ด้วยเหตุที่ว่ามีวิญญาณที่ทำงานให้หมอผีอีกดวงหนึ่งคอยดูการกระทำของท่านอยู่ หากเขารู้ว่าท่านช่วยเหลือผมแล้วละก็ท่านก็จะถูกกระทำอาคมใส่ทำให้เดือดร้อนอีกแน่ ๆ”
  J$ ]: U9 I( eผม : “แล้วผมจะมีทางช่วยเหลือได้อย่างไร”
! D: Y, L* D6 [+ H6 w2 Oเทพ : “ท่านไม่ต้องช่วยผม เดี๋ยวผมจะอนุโมทนาบุญจากท่านเอง เพียงเท่านี้ผมก็สามารถหลุดพ้นจากการถูกบังคับ+ n* N$ V8 ~+ @* z, \. q
ด้วยอาคมเหมือนกัน”
* |% j  d2 Z% b/ w! k& Tผม : “จริงสิ แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ขอบคุณมากที่เป็นห่วงผม ถึงแม้ตัวเองจะลำบากก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงในตัวผมอีก เอาเป็นว่าผมจะพยายามประคองสมาธิไว้ให้ได้นานที่สุดก็แล้วกัน เพื่อที่จะอนุโมทนาบุญได้มาก ๆ”' j4 u: l- |1 Y% e- D2 Z5 R
เทพ : “ขอบคุณท่านด้วยเช่นกัน”
8 ~! d) {# o0 g6 Rผม : “ไม่เป็นไร ผมถือว่าทุกคนเป็นญาติธรรมกัน ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อดีกว่า เดี๋ยวเขารู้ว่าเราติดต่อกันจะลำบาก”
4 `3 U; l! i3 |เทพ : “ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้มีพรายกระซิบเริ่มมาดูการเปลี่ยนแปลงแล้ว”
. J* b* l) f" S( {ผม : “ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อแล้วกัน ขอบคุณ สวัสดี”1 ^& U! z/ [* Q/ z" f1 [0 p
3 v% {4 h: \8 I( L  I* t
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมแอบสังเกตเทพอยู่เป็นระยะเป็นเวลาประมาณ 10 กว่าวัน เทพก็มีสภาวะเป็นเทวดา ทำให้ผมสบายใจขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมได้เข้าใจว่า คนในหมู่มารก็มีคนดี ถ้าเป็นวิญญาณอื่นเขาคงให้ผมอุทิศบุญให้ไปแล้ว หากผมอุทิศบุญให้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน เขาก็สามารถเป็นเทวดาได้เลย หรือเป็นบุญจากสมาธิก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นไม่ต้องใช้เวลา 10 กว่าวัน ถึงจะพ้นจากการถูกบังคับ แต่ผลกระทบที่จะเกิดกับผมคงจะรุนแรงมาก ในหมู่มารยังมีเทวดา ในหมู่เทวดายังมีมารปนกันไป
1 J" W; q' U0 [5 z9 n

Rank: 1

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ ได้ความรู้อีกแล้วครับ ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้รู้จักกับคุณนะครับ

Rank: 1

การที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผลอแล้วเริ่มใหม่ ทั้งวันจนกว่าจะนอน อย่างนี้เป็นบุญใช่ไหมครับ แล้วถ้าเป็นเท่ากับบุญสมถะภาวนาไหมครับ สาธุครับ

Rank: 1

สาธุจ้า...รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้รู้จักกับคุณมารน้อย...สู้สู้..นะ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ

Rank: 1

ต้นฉบับโพสต์โดย ณัฐดนัย เมื่อ 2013-8-19 17:10 6 K* l- n# l0 V4 V
การที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผล ...

2 t+ R5 D, u9 x' S0 u
) V' g+ B7 G7 K% P7 |1 Lจากที่คุณณัฐดนัย ถามมาผมขอตอบดังนี้ ผมขอยกคำกล่าวก่อนที่พุทธองค์จะเข้าสู่ปรินิพพาน คำกล่าวสุดท้ายก่อนที่ท่านจะดับขันธุ์ "อย่าประมาท" นั้นก็ทำให้เข้าใจได้ว่า ขอให้เรามีสติตั้งอยู่กับตัว อย่าหลงลืมสติ หากจะถามว่าการที่เราประคองสติไว้จนกว่าจะนอน จะเกิดบุญไหม เรื่องนี้บอกได้ว่าเป้นบุญอย่างแน่นอน บุญจะเทียบเท่าสมถะภาวนาไหม ผมว่าได้มากกว่า สมถะคือการบังคับจิตให้นิ่งไม่ไหวติง ไม่ให้ไหลตามกระแสของภายนอก  หากประคองสติไว้จะไม่ต่างอะไรกับวิปัสนา(เราต้องไม่บังคับ หากเราบังคับก็ไม่ต่างจากสมถะ) ทำให้เราเข้าใจถึงบทบาทของกาย และจิตที่ทำหน้าที่ของเขา เราพิจารณาตามสภาพจริงของเขาให้เขาทำหน้าที่ของเขาส่วนเราก็คอยดูและพิจารณา ถ้าสนใจลองศึกษาจากพระอาจารย์ปราโมทย์  ในเวปทั่วไปก็ได้ครับ

Rank: 1

สาธุครับ คุณมารน้อยทำให้ผมได้เข้าใจธรรมขึ้นอีกแล้วครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
3 t9 t; X% N4 T* M: F4 V/ S6 Gอนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-5-26 07:56 , Processed in 0.053683 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.