แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

โอวาทพระสุปฏิปันโน [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๒๔

หลวงปู่สีโห เขมโก

วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น

L47.png



การอยู่วัดวาอารามนี้  

ย่อมใกล้ชิดกับชาวบ้าน  

ทำให้ใกล้ความประมาท  

ถ้าแม้ทรงจิตไม่ได้  

กิเลสจะเข้าเกาะกุมทำให้จิตใจกำเริบ  

จึงควรหลีกหนีสิ่งเหล่านี้  

เข้าป่าดงพงไพรในภาคต่างๆ อยู่เป็นนิตย์...

L48.png


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๒๓

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

L47.png



คนเรามันรักสุข เกลียดทุกข์นี่ หนักก็หนักอยู่ตรงนี้แหละ ไม่รับความจริง” ...เราเกิดมา นินทา สรรเสริญก็ดี อย่าไปรับเอามาหมักไว้ในใจ ปล่อยผ่านไปเสีย...ความรัก ความชัง ความโลภ ความหลง เกิดขึ้นก็เพราะกิเลสมันเสวนากันอยู่...จาโค ปฏินิสสัคโค สละคืนถอนออกจากใจนี้เสีย...

ตัณหาทั้งหลายก็ไหลมาจากเหตุ ให้ละวางเสียให้หมด ให้ตั้งอยู่ในศีล ในทาน ในการบำเพ็ญกุศล ละบาปเสียให้หมดทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ ที่ทุจริตละเสียให้หมด...เมื่อนำที่ทุจริตออกหมดแล้ว...รักษากาย วาจา ใจ ที่สุจริตไว้ เมื่อกายเป็นศีล วาจาก็เป็นศีล ใจก็เป็นศีล เป็นธรรม เป็นมรรค เป็นผลตั้งขึ้นในจิตใจ สุจริตธรรมตั้งอยู่แล้วจิตก็เบาสบาย...

...อดีตเป็นธรรมเมา อนาคตเป็นธรรมเมา จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน ตัดตัณหา ตัดกิเลส ตัดมานะทิฏฐิ ตัดความยึดมั่นถือมั่นของตนให้เสร็จลงก็สงบได้...

L48.png


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๒๒

หลวงปู่ขาว อนาลโย

วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

L47.png



ศึกษาอบรมธรรม ก็จงตั้งใจจริงๆ อย่านำความเหลาะๆ แหละๆ มาสังหารตน และทำลายเพื่อนฝูงผู้ตั้งใจปฏิบัติธรรม...ขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้ว มันจะไม่ไว้หน้าใคร มันทำลายทั้งสิ้น ไม่ว่าพระหรือเณร...อย่าเข้าใจว่ามันจะมาถวายตัวเป็นศิษย์ก้นกุฏิ หรือให้ความสะดวกในการบำเพ็ญธรรม อย่าเข้าใจว่าเป็นอาจารย์ของมัน...

แท้จริง กิเลสมันขึ้นมาอยู่บนหัวเรา ตั้งแต่เป็นฆราวาส จนมาบวชเป็นพระเป็นเณรแล้ว มันยังไม่ยอมลงจากหัวเราเลย นี่แหละพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต สอนถ่ายทอดกันมาแก่บรรดาศิษย์ให้ใส่เกล้าเอาไว้ !

แก่นแท้ของธรรมอยู่ที่ สติ จงหมั่นทำสติให้แก่กล้า สติทำอะไรไม่ผิดพลาด กุศลและธรรมทั้งหลาย คุณงามความดีทั้งหลาย เกิดขึ้นได้เพราะบุคคลมีสติอย่างเดียว...จะคิด จะพูด จะทำ ให้มีสติระลึกนึกเสียก่อน มันผิดก็ให้รู้ มันถูกจึงค่อยทำ...

ผู้อื่นไม่ได้ทำให้จิตของเราเศร้าหมองหรือผ่องแผ้ว...เราเองเป็นผู้ทำให้จิตของตนเศร้าหมอง...ผู้อื่นช่วยไม่ได้ แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้....ท่านทรงเป็นผู้บอกทางไปเท่านั้น ผู้ปรารถนาความเจริญความสุขต้องหมั่นฝึกฝนอบรมตนเอง ทำเอง-รู้เอง-ได้เอง...ใครทำ-ใครได้

ผู้ทำคุณงามความดีมีศีล...ศีลที่บริบูรณ์แล้วย่อมเป็นที่มาแห่งโภคทรัพย์..จิตดี จิตไม่อิจฉาริษยาพยาบาทเบียดเบียน เป็นดวงจิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำให้คนบริสุทธิ์ ทำให้คนมีศีลมีโภคทรัพย์

L48.png


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๒๑

หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม

วัดอรัญญวิเวก อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

L47.png



เมื่อเป็นพระเจ้าแผ่นดินโลกุตรมนุษย์ได้เป็นพระอรหันต์เข้าพระนิพพานไปแล้ว พระนิพพานก็ยังมีอยู่ไม่เสื่อมสูญ... พระพุทธเจ้าเข้าพระนิพพานก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอนุรุทธะ พระอานนท์ เข้านิพพานก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล นางภิกษุณีทั้งหลายได้บวชกาย วาจา ใจ ใจก็เป็นพระนิพพานแล้ว เข้าพระนิพพานได้ด้วย เหมือนกับพระจันทร์ พระจันทร์ไม่มีวันแก่ไม่มีวันเจ็บ พระจันทร์ไม่มีร้อนไม่มีหนาว ดาวไม่มีเกิดไม่มีตาย

คนเรานี้เป็นบ้าเป็นบอ คอยาว ตาขาว ลิ้นยาว ใช้ไม่ได้ ส่วนพระธรรมคำสอนเกิดจากหัวใจของพระพุทธเจ้า เกิดจากหัวใจของพระอรหันต์ทั้งหลาย....ทำไมพวกเราทั้งหลายและพวกท่านทั้งหลายจึงไม่รู้ ทำไมเราจึงไม่เห็น...ถ้าเราเป็นพระอรหันต์ เป็นพระโสดาบัน เป็นพระอนาคามีเมื่อใด ก็เมื่อนั้นแหละจึงจะเห็น จะรู้ที่อยู่พระพุทธเจ้าที่อยู่ของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย

L48.png


Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๒๐

พระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล

วัดแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

L47.png



“ธรรมปัญญา” ...ท่านพระบรมครูเจ้าทรงตรัสรู้... “อะไรในโลกที่ชื่อว่า อาวุธแล้วไม่สามารถจะนำมาต่อสู้กับกิเลสได้เลย นอกเสียจากธรรมะและปัญญาเท่านั้น”

ดังนั้น ผู้ที่จะมีอาวุธวิเศษเช่นนี้ได้ แล้วรักษาให้อยู่ตัวได้แล้ว ต้องอาศัยหลักรักษาเสมอด้วยชีวิต นั่นคือ...ต้องมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา...เท่านั้น ซึ่งจะรวมมาอยู่ที่จิตใจภายในของเรา เป็นคลังอาวุธ

ดังนั้น กิเลสมาร ที่ฉลาดแหลมคม จึงมักแอบเข้ามาเผาจิตใจ คือที่เก็บคลังอาวุธนี้เสีย เพราะมัวเกรงกลัวนัก

...บุคคลที่เร่าร้อนกระวนกระวาย ทุกข์ยากลำบากลำเค็ญอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็เพราะถูกกิเลสมารแอบเข้ามาเผาจิตใจได้นั่นเอง ไฟกิเลสนี้ยากนักหนาที่จะดับมันได้ ถ้าไม่ได้พระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเข้าสู่จิตใจ...

พระพุทธเจ้าและพระสาวกเจ้าทั้งหลาย ทรงเตือนว่า.....ให้มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม จงรีบลงมือปฏิบัติฝึกฝนจิตใจให้แก่กล้าด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา เสียบัดนี้ จึงจะไม่เสียทีกิเลสทั้งภายนอกและภายใน”

L48.png


Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๑๙

หลวงปู่คำแสน (ทิม) อินทจักโก

(พระครูสุคันธศีล)

วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

L47.png



ศีลบริสุทธิ์ ถือสัจจะบริสุทธิ์ ถือหลักธรรมพรหมวิหารธรรม ๔ ประการอันบริสุทธิ์ เพื่อเสริมสร้างบารมีธรรม สัจจบารมีนี้สำคัญ ถ้ามีสัจจะแล้วทำอะไร ปฏิบัติอะไร ก็จะได้ผลเสมอ แม้เรากำลังน้อยทำไม่ไหว ก็ยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นตัวท่านช่วยประคองให้จนได้พบกับความสำเร็จนะเออ... เออ...สร้างให้ดี สร้างให้จบก็จะสิ้นทุกข์ ไม่ยากไม่ลำบากอีกต่อไป ทำดีไปเถิด

ศีลเป็นรากแก้วของชีวิต จะทำดีมีชื่อเสียงได้ก็ด้วยศีลธรรมนี้เอง...ใครมีศีลผู้นั้นเป็นเทวดา...ผู้ใดรักษาศีลได้มั่นคง ผู้นั้นมีสติสัมปชัญญะแล้ว เพราะศีลนี้ทำให้กาย วาจา ใจ ของมนุษย์สูงขึ้น...ถ้ายังมุ่งหวังอยากได้สมาธิ ก็ต้องมีศีล...อยากได้ปัญญาก็รักษาศีลเสียก่อน ได้ศีลแล้ว ธรรมะจะเกิดขึ้นในตัวเราเอง

ธรรมะอยู่ที่ไหนล่ะ...อยู่ที่ใจ อยู่ที่ตัวเรานี้...ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ มันเป็นเรื่องเฉพาะตัว...มีเป็นธรรมดา จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ของใครของมันนะ

ธรรมะอยู่ในกายเรานี้แล้วทุกอย่าง...สติปัญญา เอามาเป็นเครื่องวัด วัดมันไปทุกๆ วัน เราจะได้รู้ว่าอะไรตกต่ำบ้าง เมื่อตกต่ำเราก็รีบสร้างให้ปกติอย่าพร่อง บุญกุศลเป็นเรื่องของดีบริสุทธิ์...จำไว้นะ

L48.png


Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๑๘

หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม

(พระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์)

วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

L47.png



กายนี้คือก้อนทุกข์...กายนี้เป็นที่หมายให้พ้นเสียจากทุกข์...ฝึกสติปัญญาให้ดีแล้วมาพิจารณากายนี้ให้แจ้ง ก็จะพ้นทุกข์ได้

นักปฏิบัติพึงทราบดังนี้ว่า “มรรค” ก็ดี “อริยมรรค” ก็ดี ตกแต่งเอาเองได้ “ผล” ก็ดี “อริยผล” ก็ดี ตกแต่งเอาเองไม่ได้ เป็นของเป็นเอง หรือสำเร็จเอง มาจากมรรคและอริยมรรคที่ตกแต่งถูกต้องแล้ว

เมื่อบุคคลต้องการผลประโยชน์ทางโลกีย์ ก็ให้พึงตกแต่งมรรคในทางโลกีย์ให้ถูกต้อง เช่น ต้องการเดินไปมาสะดวก ก็ให้ตกแต่งถนนหนทางให้เรียบร้อย...ต้องการมีวิชาความรู้ ก็ให้ศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้ต่อครูอาจารย์...ถ้าต้องการความมั่งคั่งบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติมากๆ ก็ให้ตกแต่งการค้าขายให้ถูกต้องในทางสุจริตธรรม...

ถ้าต้องการเป็นคนดี ก็ให้ตกแต่งการประพฤติปฏิบัติของตนให้เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตธรรม...ถ้าต้องการเป็นคนมีชื่อเสียงยศถาบรรดาศักดิ์ ก็ให้ตกแต่งตนเป็นคนทำราชการแผ่นดินให้ถูกต้องในทางราชการนิยม...

เมื่อบุคคลต้องการโลกุตตระ ให้ตกแต่งอริยมรรคให้ถูกต้องตามพระพุทธพจน์เดิมของพระพุทธเจ้า

L48.png

Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๑๗

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

(พระราชวุฒาจารย์)

วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

L47.png



จิตนื้คือพุทโธ จิตนี้คือธรรม เป็นสภาวะพิเศษที่ไม่ไปไม่มา เป็นความบริสุทธิ์ล้วนๆ จิตนี้เหนือความดีและความชั่วทั้งปวง ซึ่งไม่อาจจัดเป็นลักษณะรูปหรือนามได้

หลักธรรมที่แท้จริงคือจิต...จิตของเราทุกคนนั้นแหละคือหลักธรรมสูงสุดที่อยู่ในจิตใจของเรา นอกจากนั้นแล้ว มันไม่มีหลักธรรมใดๆ เลย

จิตนี้แหละคือหลักธรรม ซึ่งนอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่ใช่จิต แต่จิตนั้นโดยตัวมันเองก็ไม่ใช่จิต ดังที่ท่านได้ปรารภไว้ว่า จิตนั้นมิใช่จิตดังนี้ นั่นแหละย่อมหมายถึง สิ่งบางสิ่งซึ่งมีอยู่จริง

ขอให้เลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น เมื่อนั้นเราอาจกล่าวได้ว่า คลองแห่งคำพูดได้ถูกตัดขาดไปแล้ว พิษของจิตก็ได้ถูกถอนขึ้นจนหมดสิ้น จิตในจิตก็จะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ ซึ่งมีอยู่ประจำอยู่แล้วในทุกคน

คติประจำใจ = ...อย่าส่งจิตออกนอก...


   ปริศนาธรรม = ...หยุดคิด...หยุดนึก...!


   ธรรมะ = ...จงเข้าไปสู่สิ่งสงบเงียบให้ได้ลึกซึ้ง โดยการลืมต่อสิ่งนี้ด้วยตัวเราเอง. สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรานี้แหละ (สติ) คือสิ่งๆ นั้นในอัตราที่เต็มที่ทั้งหมด ทั้งสิ้น และสมบูรณ์ถึงที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรนอกไปจากนี้เลย...!

L48.png


Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๑๖

หลวงปู่ดี ฉันโน

วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

L47.png



การภาวนาธรรม มีสติกับจิตนี้แหละ คือ พุท-โธ ที่แท้จริง...ท่านแปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ถ้าไม่มีสติ จิตใจก็ไม่อยู่ที่...จะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานไม่ได้ จะกลายเป็นความโง่เซ่อไปเท่านั้น...ขอรักษาสติกับจิตจงดีๆ จะเกิดภูมิปัญญาขึ้นเอง

L48.png



Rank: 8Rank: 8

ตอนที่ ๑๕

หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ

(พระราชสังวราภิมณฑ์)

วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

L47.png



ทางไปสู่ความไม่เกิด...เอ้อ แล้วทำไมจึงจะพ้นจากขันธ์ ๕ เหล่านั้นนะ...ก็พระท่านว่าไม่เกิดแหละดี ไม่เกิดเป็นตัวเหตุ...ไม่เกิด เออ ไม่เกิดนี่ แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่เกิด...

ทานบ้าง ศีลบ้าง ภาวนาบ้าง ปัญญาบ้างและอื่นๆ...ทานให้แก่ใครไม่ทราบที่เรียกว่าทำทาน...ท่านทำทานของท่านจบแล้วหรือยัง ? ท่านรักษาศีลของท่านจบแล้วหรือยัง ? ท่านเจริญสมาธิของท่านแล้วหรือยัง ? ปัญญาของท่านเกิดขึ้นแล้วหรือยัง ?!

L48.png


‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 00:45 , Processed in 0.069561 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.