แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 47038|ตอบ: 10
go

พระปัจเจกพุทธเจ้า : ในคำภีร์อนาคตวงศ์

Rank: 1

visutti โพสต์เมื่อ 2012-3-5 16:41 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
พระปัจเจกพุทธเจ้า : ในคำภีร์อนาคตวงศ์
... มีเรื่องของพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ปรากฏในคัมภีร์อื่นที่ไม่ใช่ในพระไตรปิฏก แต่ก็มีพุทธศาสนิกชนรู้จักคัมภีร์นี้พอสมควร นั่นคือ  "พระอานคตวงศ์"  ซึ่งในคัมภีร์นี้ได้กล่าวถึง  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต ๑๐ พระองค์  ในคัมภีร์นี้ได้กล่าวถึง  อธิการในอดีตของพระนรสีหสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้กล่าวไว้ดังนี้
เรื่องพระนรสีหสัมมาสัมพุทธเจ้า
... ดูก่อน พระธรรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้มีอายุ เมื่อศาสนาของ พระเทวเทพสัมมาสัมพุทธเจ้า เสื่อมไปแล้ว ในกัปนั้น             โตเทยยพราหมณ์ จักได้เป็นพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า  "พระนรสีหสัมมาสัมพุทธเจ้า"
... พระผู้มีพระภาคเจ้า  ได้ทรงมีพระวรกายสูง ๖๐ ศอก     แสงสว่างแห่งพระพุทธรัศมี กลางวันมีสีประหนึ่งว่า แสงสว่างแก้วมรณี กลางคืนเป็นเช่นกับแสงทอง ทรงมีต้นแคฝอยเป็นต้นไม้ตรัสรู้
... ด้วยพุทธานุภาพ มีข้าวสาลีหอมเกิดขึ้นตามปกติ มหาชนทุกจำพวกไม่ได้ค้าขาย ไม่ได้ทำไร่ไถนา พากันเก็บเอาข้าวสารแห่งสาลี มาหุงต้มบริโภค มีต้นกัลปพฤกษ์เกิดขึ้นต้นหนึ่ง มีสิ่งของต่างๆ เกิดขึ้น เพราะอาศัยต้นกัลปพฤกษ์ คนเหล่านั้นไม่ต้องแต่งกาย ตามปกติคนเหล่านั้น มีผิวพรรณสีเหมือนทอง
... เบื้องพระเศียรของพระผู้มีพระภาคเจ้า จะมีเศวตฉัตรแล้วด้วยแก้ว ๗ ประการ ปรากฏแก่กล้า จัดว่าได้มหาสมบัติ ด้วยประการฉะนี้
... ดูก่อน พระธรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้เจริญ เมื่อศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้า ล่วงไปแล้ว ศาสนาของเรา ก็จักมีในกาล ระหว่างกลางศาสนาทั้งสอง โตเทยพราหมณ์ได้เป็นพ่อค้านามว่า  "นันทมาณพ"
... สมัยหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เที่ยวบิณบาตอยู่ในเวลานั้น นันทมาณพ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ถวายผ้ากัมพลผืนหนึ่ง และทอง ๑ แสน เป็นทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ในเวลาถวายทานสิ้นสุดลง เขาได้ตั้งความปรารถนาไว้ว่า : -
    ..." ข้าแต่พระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เจริญ ด้วยผลแห่งทานอันนี้ ขอจงเป็นปัจจัยให้ได้พระสัพพัญญตญาณเถิด "
    ... พระปัจเจกพุทธเจ้า รับเอาผ้าผืนนั้นมาห่มแล้ว เบื้องของพระปัจเจกพุทธเจ้าเหลือ ๑ ศอก เบื้องล่างจากพื้นเท้าเหลือประมาณ ๑ ศอก ยืนอยู่ด้วยพระบาททั้งคู่ นันทมาณพเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ตั้งความปรารถนาไว้ ๒ อย่างว่า :-
... " ข้าแต่พระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เจริญ ด้วยผลแห่งการถวายผ้ากัมพลเป็นทานนี้ ขออำนาจของข้าพเจ้าจงแผ่ไปเบื้องบน ๑ โยชน์ ในเบื้องล่าง ๑ โยชน์เถิด "
... ในเวลาจบคำปรารถนาพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ออกจากบ้านไป ตรงกลางทาง  นางกุมารีรุ่นคนหนึ่ง พบพระปัจเจกพุทธเจ้ากำลังเดินไป จึงเรียนถามท่านว่า :-
..." ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ใครถวายผ้าแก่พระคุณเจ้า? "
... พระปัจเจกพุทธเจ้าบอกว่า " ดูก่อนอุบาสิกา พ่อค้านามว่า นันทมาณพ ถวายผ้ากัมพลผืนหนึ่งเป็นทานแก่อาตมาภาพ "
... นางกุมารีเรียนถามว่า:-
" ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เขาตั้งความปรารถนาว่าอย่างไร? "
... พระปัจเจกพุทธเจ้าบอกว่า " ดุก่อนอุบาสิกา พ่อค้านามว่า นันทมาณพ ได้ตั้งความปรารถไว้ ๒ อย่าง คือ ปรารถนาพระสัพพัญญตญาณ,  ๒ ปรารถนาสมบัติคือความเป็นพระราชา "
... กุมารี ฟังคำนั้นแล้ว ทำจิตให้เลื่อมใส ถือเอาผ้าผืนหนึ่งถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ในเวลาถวายทานเสร็จ นางกุมารีจึงตั้งความปรารถนาไว้ว่า :-
" ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ด้วยการถวายผ้าเป็นทานนี้ ถ้าชายพ่อค้าจักได้สมบัติแห่งมหาราชาไซร้ ดิฉันจักเป็นอัครมเหสีเขา "
... สรุปว่า ในกาลนั้น ปุถุชนทั้งสอง สร้างศาลาไว้หลังหนึ่งในสถานที่ถวายทานนั้น ให้ช่างจิตรกรรมสลักรูปพระปัจเจกพุทธเจ้า ณ เสาศาลานั้น นางกุมารีรวบผมบนศรีษะ เอาน้ำมันทาเอาไฟจุดบูชา
... นันทมาณพ กระทำการบริจาคทานนั้น ถวายทาน รักษาศีล ดำรงอยู่ชั่วอายุ ณ ที่นั้น ในเวลาสิ้นอายุ จุติแล้วไปบังเกิดในภพบนดาวดึงส์ กับด้วยนางกุมารีนั้น ในเวลานั้น คนทั้งสองดำรงอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สิ้นเวลา ๓๖ ล้านปี โดยนับปีของมนุษย์
... คนทั้งสองจุติจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น นันทมาณพ บังเกิดเป็น พระธรรมราชา ในนครทวาราวดี ฝ่ายกุมารีบังเกิดในมหาสมบัติในตระกูลเศรษฐี ในพระนครนั้น
... บิดามารดา ได้นำนางกุมารีซึ่งมีอายุครบ ๑๖ ปี เข้าไปถวายแด่ พระธรรมราชา ญาติๆ ทั้งหลายได้ตั้งชื่อนางกุมารีว่า " มงคลเทวี "
... ก็พระนางมงคลเทวี ได้เป็นหัวหน้าหญิง ๑๖,๐๐๐ นางแล้ว ตกว่าพระธรรมราชาทรงให้หญิงนางสนมทั้งหมด จัดสำรับอาหารเลี้ยงกันและกันแล้ว  นางสนมทุกนางจะได้นิ้วทองบริโภคอาหารก็หามิได้  นางมลคลเทวีเป็นเจ้าแห่งทาน  ให้ทานอย่างเดียว ในกาลก่อนจึงได้นิ้วทองในปัจจุบัน
... พระเจ้าธรรมราชา กับพระนางมงคลเทวี ครั้นถวายทานเสมอกันในชาติก่อน จุติแล้ว ปัจจุบันจึงได้มหาสมบัติ   ด้วยอานุภาพแห่งทาน   นันทมาณพ ได้เสวยมนุษยสมบัติและเทวสมบัติแล้วบังเกิดเป็น                     โตเทยยพราหมณ์แล้ว
... ดูก่อนพระธรรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้เจริญ ด้วยผลแห่งทาน โตเทยยพราหมณ์จักได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า  "นรสีห์"  ในอานคต
... ดูก่อนพระธรรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้เจริญ ด้วยอาการอย่างนี้ สรรพสัตว์ หากยังไม่ได้บรรลุธรรม อันเลิศในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๘ องค์เหล่านี้คือ
ของ เรา ๑ , ของพระรามพุทธเจ้า ๑ , ของพระธรรมราชาพุทธเจ้า ๑ , ของพระธรรมสามีพุทธเจ้า ๑ , ของพระนารทพุทธเจ้า ๑ , ของพระรังสีมุนีพุทธเจ้า ๑ , ของพระเทวเทพพุทธเจ้า
... ในอนาคต โตเทยยพราหมณ์ จักเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า นรสีห์ ขอท่านทั้งหลายจงปรารถนาพบศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า นรสีห์ พระองค์นั้นเถิด

เหตุแห่งการบรรลุพระปัจเจกโพธิญาณ ที่ปรากฏในคัมภีร์ชาดก :
      นอกจาก ขัคควิสาณสูตร ที่ปรากฏใน คัมภีร์สุตตนิบาต คัมภีร์อปทานและคัมภีร์จูฬนิทเทศแล้ว ในคัมภีร์ชาดก ก็ได้กล่าวถึงการบรรลุพระปัจเจกโพธิญาณไว้เหมือนกัน จะได้นำมาแสดงโดยลำดับ


Rank: 1

วิศว์ โพสต์เมื่อ 2012-3-15 22:17 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ

Rank: 1

mini7 โพสต์เมื่อ 2012-4-1 16:34 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

Rank: 1

hmu111 โพสต์เมื่อ 2012-5-27 17:19 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ

Rank: 1

direk35 โพสต์เมื่อ 2012-8-9 11:13 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
โมทนาสาธุครับ

Rank: 1

bwilliam โพสต์เมื่อ 2012-8-20 23:25 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ

Rank: 1

Teerapat โพสต์เมื่อ 2012-8-27 14:33 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ ครับท่าน

Rank: 1

คันธมาทน์ โพสต์เมื่อ 2012-9-29 13:03 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ

Rank: 1

ZAC โพสต์เมื่อ 2012-10-17 20:33 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ

Rank: 1

คนจากอดีต โพสต์เมื่อ 2012-11-13 13:59 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สาธุ...

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-4-19 07:29 , Processed in 0.043113 second(s), 14 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.