แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 3174|ตอบ: 8
go

ประสบการณ์พบเจออาคม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

       kachon20116202114.jpg 1 {8 c4 O4 {1 N* l' c, T( t1 g
ประสบการณ์อีกประสบการณ์หนึ่งที่ผมต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอด  จากสิ่งที่ตาเนื้อไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งหลายคนที่มองไม่เห็นก็บอกว่างมงายส่วนผู้ที่มีประสบการณ์ก็บอกว่ามันน่าเหลือเชื่อ  ส่วนผู้ที่ได้จักษุทิพญาณต่างบอกว่ามีจริงเรื่องที่ผมจะบอกก็คือไสยศาสตร์หรืออาคม  คำว่า  อาคมจะมีอยู่  2  ด้าน  คือด้านสว่างกับด้านมืด  ในส่วนของอาคมในด้านสว่างผมจะไม่ขอพูดถึง  แต่เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังก็คืออาคมในด้านมืด  ที่ผมได้พบเจอมาและเกือบเอาชีวิตไม่รอด  แต่ก็รอดมาได้ด้วยบุญฤทธิ์ และการอุทิศบุญ  หากไม่เป็นเพราะบุญฤทธิ์ผมคงไม่ได้มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังได  เอาเป็นว่าผมขอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็แล้วกันเดี่ยวจะยาวไปกันใหญ่* [: h4 w# W9 u5 M9 ^. A' L  b$ K
        วันนี้เป็นวันที่ผมมีเวรรักษาการดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนเมื่อเวลาประมาณ  2  ทุ่มกว่าๆ ผมเดินตรวจมาถึงบริเวณบ้านพักของผู้ดูแลโรงเรียนและแล้วผมก็ต้องตกเพราะสิ่งที่ผมพบก็คือมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมีทั้งเด็กและใหญ่อยู่ภายในบ้านพัก  เมื่อพบดังนั้นผมนึกขึ้นว่าทำไมมีวิญญาณมาอยู่ที่นี่ได้  วิญญาณเหล่านั้นต่างมีท่าทางตกใจเมื่อได้พบกับผม  เห็นดังนั้นผมจึงอุทิศบุญโดยเอ่ยว่า  ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังวิญญาณเหล่านี้ด้วยเทอญ  วิญญาณเหล่านั้นก็ปรากฏอาการดีใจเหมือนว่าไม่เคยได้รับบุญมาก่อนผมจึงขอคุยด้วย
! d/ X# |2 a% J3 ^8 I        ผม  :                  สวัสดีได้รับบุญจากผมแล้วใช่ไหม
$ n1 f( S* W" T9 O% I7 I        วิญญาณ  :          ได้รับแล้วดีจังเลย
. f2 u' n  D+ s" V" w0 g4 }3 @, A        ผม  :                  ถ้าดีช่วยตอบคำถามผมสักหน่อยได้ไหมเดี๋ยวผมให้อีก- \, }/ O& B8 S; }* z/ F
        วิญญาณ  :          ได้พวกเรายินดีตอบคำถาม  `% Y# [% W1 u# B. Y
        ผม  :                  พวกท่านมาทำอะไรกัน; _- v. S0 U* E
        วิญญาณ  :          พวกเราถูกสั่งให้มาบังคับคนที่นี่ให้เชื่อฟังคำสั่ง
7 H" j% q. ^9 ?9 a2 j7 C8 m        ผม  :                  แล้วทำสำเร็จไหม
8 v% y" d" ]: k# Y- x. \, w% @: e        วิญญาณ  :          ได้เป็นบางคนเท่านั้น2 j9 g; h7 n1 Q; @3 E" I7 A
        ผม  :                 แล้วทำไมไม่ออกมา  นอกบ้านล่ะ
, @3 i  ]0 f5 Q        วิญญาณ  :          พวกเราไม่กล้าออกเพราะที่นี่มีแต่คนเก่งๆ& [5 v  h$ ]. I* w1 g  I
        ผม  :                  พวกเธอมาจากที่ไหนกัน& x) x" C; ~: e, a
        วิญญาณ  :          พวกเราติดตามคนนี้มาจากหมออาคมคนหนึ่ง
* H1 @- @; I3 Y) s0 `1 O" h        ผม  :                  พวกเธอถูกมัดด้วยอาคมใช่ไหม
% H' w- J5 [& ^0 |. J5 o        วิญญาณ  :          ท่านรู้- G: p& i3 A8 i, j0 Z- \8 b
        ผม  :                  ก็พอรู้บ้าง2 A+ n; ]0 h0 X2 K" L) {
        วิญญาณ  :          ใช่พวกเราถูกมัดด้วยอาคม
6 W) Y: [* n: m( [$ ~1 A, j) l        ผม  :                  ต้องการให้ผมช่วยไหมล่ะ" B+ D; B7 [* b9 s+ b/ }' t$ e
        วิญญาณ  :          พวกเราทรมานเหลือเกินต้องทนกับการถูกบังคับท่านช่วยเราด้วย
9 r$ |( H* o. A7 ~        ผม  :                 ได้เดี๋ยวผมจะช่วยแต่ต้องเลิกบังคับคนอื่นนะ!
3 y0 }. m( G' L4 a9 T        วิญญาณ  :          ขอบคุณท่านมากที่จะช่วยพวกเรา& L+ _: Z$ ^$ f* o) p: O4 f
ผมผละออกมาจากบริเวณตรงนั้นแล้วผมกลับมาที่ห้องพัก  จากนั้นผมก็ทำการอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นให้เป็นอิสระจากอาคมที่ผูกมัดพวกเขาไว้  แต่สิ่งที่ผมไม่อาจลืมก็คือการขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่ผูกมัดดวงวิญญาณเหล่านั้นไว้  การอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาประมาณ  1  อาทิตย์  ผมได้เดินมาดูพวกเขา  ณ  ตรงบริเวณที่พบอีกครั้งก็ปรากฏว่าพวกเขาต่างมีสภาพที่ดีขึ้นจากตอนที่พบกันในตอนแรก  แต่พวกเขายังคงถูกมัดด้วยอาคมอยู่  ผมจึงขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่มัดพวกเขาไว้อีกครั้งจนเวลาผ่านไป  ประมาณ  3  วัน ผมเดินอยู่ตรงบริเวณลานกว้างก็ได้ปรากฏมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมาหาผมและมาขอบคุณผมแล้วพวกเขาก็จาไปยังภพภูมิของแต่ละคน  ผมรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาให้หลุดพ้นจากการถูกบังคับ
. r1 _" O# D; }& t        ทำให้ผมได้ทราบว่าคนที่ใช้อาคมคอยบังคับคนอื่นโดยที่พวกเขาไม่เต็มใจพวกเขาก็จะไม่อยากอยู่กับคุณ  แต่ในทางกลับกันหากคุณดูแลพวกเขาด้วยความเมตตาพวกเขาก็จะคอยช่วยเหลือคุณอย่างเต็มใจนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีส่วนเกี่ยวกับ  อาคม  และเข้าไปล้างอาคมด้วยอำนาจบุญฤทธิ์ของพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
" A3 X6 {  h% w4 G% b0 a/ {3 U  f0 c3 ?4 E, e4 E2 Q% j

Rank: 1

จิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับด้วยไสยเวทย์- u8 V. E- H$ @2 v! e2 p; g# X) U& l
        ผมเองตั้งใจว่าจะไม่เขียนเรื่องการพบไสยเวทย์อีก แต่ก็ต้องมาคิดทบทวนดูใหม่ เมื่อต้องมาพบกับเรื่องที่จะเล่าดังต่อไปนี้  ในวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554  พวกของผมคนหนึ่งถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ ซึ่งผมเองถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จากท่านผู้ดูแลที่อยู่ในโลกทิพย์ โดยท่านได้ปรามผมว่า “เธออย่าได้แก้ไสยเวทย์ให้ผู้ใดอีกนะ แม้กระทั่งตัวของเธอเอง เพราะว่าหากเธอแก้ผลจะกลับมาสู่ตัวเธออันเนื่องมาจากผลของกรรม” ดังนั้นผมจึงไม่อาจขัดคำเตือนได้ แต่หากถามว่า ผมสามารถแก้ไสยเวทย์ให้คนอื่นได้ไหม คำตอบก็คือ ได้ครับ แต่ผมต้องถูกพลังของไสยเวทย์ที่เขากระทำมันย้อนกลับเข้ามาสู่ตัวของผม อันเนื่องมาจากเข้าไปขัดขวางกรรมของผู้อื่น มันเป็นกฎที่ผมต้องแลก ผมจึงไม่สามารถแก้เรื่องของไสยเวทย์ให้แก่ผู้อื่นได้ มีแต่คำแนะนำเท่านั้น + d, R1 C2 a; Z; Y( `; l
ขอกลับเข้าเรื่องของจิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากพบว่าพวกของผมเขาถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ จึงบอกให้พี่เขารู้ตัว ต่อจากนั้นผมได้พบกับวิญญาณที่หมอผีส่งมาด้วยเวทย์มนต์ เพื่อทำร้ายพวกของผม วิญญาณดวงนั้นมีรูปร่างเหมือนนักกล้ามไม่มีผิด มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ผิวสีคล้ำ ดวงตาสีแดงกล่ำ ด้วยความเป็นห่วงพวกของผม กลัวว่าเขาจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ ผมจึงเตรียมตัวอุทิศบุญให้แก่วิญญาณที่ติดตามเวทย์มนต์นั้นมา พลันผมก็ได้ยินเสียงห้ามจากวิญญาณนั้นว่า “ท่านอย่าทำแบบนั้น” ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก และเกิดความสงสัย เพราะปกติวิญญาณโดยทั่วไปนั้น เมื่อผมอุทิศบุญให้เขาจะยินดี แต่นี่กลับห้ามผม แสดงว่าต้องมีเหตุที่ไม่ปกติแน่ ๆ ผมจึงถามออกไป
% Q5 t; o  a# [9 }! Z6 q! v! P. [4 Lผม : “มีอะไรหรือ”3 K6 \* Z& P: r! B; W. _$ ?8 Q
เทพ : “มีสิ ท่านอย่าให้บุญกับผมนะครับ”' I7 ^2 H% M. _5 G
ผม : “อ้าว ! ทำไมล่ะ”
; ^$ Q' n" \1 f+ ~2 D4 kเทพ : “ผมสงสารท่านนะสิ”
/ q  d5 C* H3 T$ w, i* ^ผม : “ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อผมอุทิศบุญให้น่าจะดีไม่ใช่หรือ”
, Y% {4 s& T% ?9 E; u) I- pเทพ : “มันก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ดีแก่ตัวท่าน”
" t9 ^' ?4 C2 C' s% Rผม : “ไม่ดีอย่างไร”
. |+ e1 f% G& z. k3 k$ Lเทพ : “หากท่านช่วยให้ผมหลุดพ้นจากอำนาจของหมอผี ท่านเองจะถูกกระทำจากไสยเวทย์มากขึ้นสิครับ”
( h( Z, o+ R7 S) P9 D  C# }ผม : “ด้วยเหตุผลอะไรล่ะ”/ n7 L$ e$ W: T4 @- p) b! t
เทพ : “ก็ด้วยเหตุที่ว่ามีวิญญาณที่ทำงานให้หมอผีอีกดวงหนึ่งคอยดูการกระทำของท่านอยู่ หากเขารู้ว่าท่านช่วยเหลือผมแล้วละก็ท่านก็จะถูกกระทำอาคมใส่ทำให้เดือดร้อนอีกแน่ ๆ”0 K2 n0 i0 l4 Q
ผม : “แล้วผมจะมีทางช่วยเหลือได้อย่างไร”
9 [" f3 e- N) `, a! T7 g7 Xเทพ : “ท่านไม่ต้องช่วยผม เดี๋ยวผมจะอนุโมทนาบุญจากท่านเอง เพียงเท่านี้ผมก็สามารถหลุดพ้นจากการถูกบังคับ% v$ f6 }- m. q
ด้วยอาคมเหมือนกัน”
. R9 E1 v1 }0 x, Mผม : “จริงสิ แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ขอบคุณมากที่เป็นห่วงผม ถึงแม้ตัวเองจะลำบากก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงในตัวผมอีก เอาเป็นว่าผมจะพยายามประคองสมาธิไว้ให้ได้นานที่สุดก็แล้วกัน เพื่อที่จะอนุโมทนาบุญได้มาก ๆ”9 b' ?: A7 A8 E$ l" `
เทพ : “ขอบคุณท่านด้วยเช่นกัน”
$ Q( h5 N* G9 E4 w$ B3 jผม : “ไม่เป็นไร ผมถือว่าทุกคนเป็นญาติธรรมกัน ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อดีกว่า เดี๋ยวเขารู้ว่าเราติดต่อกันจะลำบาก”
7 r: p" P+ Z, b5 B4 u. }6 L& aเทพ : “ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้มีพรายกระซิบเริ่มมาดูการเปลี่ยนแปลงแล้ว”
# K/ Q9 Y5 `3 m- l7 J- m- y" }ผม : “ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อแล้วกัน ขอบคุณ สวัสดี”
8 N: z7 }  s7 S
) X) t: D' X1 x# x. \1 x( i; _ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมแอบสังเกตเทพอยู่เป็นระยะเป็นเวลาประมาณ 10 กว่าวัน เทพก็มีสภาวะเป็นเทวดา ทำให้ผมสบายใจขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมได้เข้าใจว่า คนในหมู่มารก็มีคนดี ถ้าเป็นวิญญาณอื่นเขาคงให้ผมอุทิศบุญให้ไปแล้ว หากผมอุทิศบุญให้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน เขาก็สามารถเป็นเทวดาได้เลย หรือเป็นบุญจากสมาธิก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นไม่ต้องใช้เวลา 10 กว่าวัน ถึงจะพ้นจากการถูกบังคับ แต่ผลกระทบที่จะเกิดกับผมคงจะรุนแรงมาก ในหมู่มารยังมีเทวดา ในหมู่เทวดายังมีมารปนกันไป
2 y2 h1 ]: O" |5 Y/ |

Rank: 1

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ ได้ความรู้อีกแล้วครับ ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้รู้จักกับคุณนะครับ

Rank: 1

การที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผลอแล้วเริ่มใหม่ ทั้งวันจนกว่าจะนอน อย่างนี้เป็นบุญใช่ไหมครับ แล้วถ้าเป็นเท่ากับบุญสมถะภาวนาไหมครับ สาธุครับ

Rank: 1

สาธุจ้า...รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้รู้จักกับคุณมารน้อย...สู้สู้..นะ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ

Rank: 1

ต้นฉบับโพสต์โดย ณัฐดนัย เมื่อ 2013-8-19 17:10
$ u* C' }$ k7 i0 a3 A$ q7 @การที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผล ...
& o: x  M0 q8 q- A0 F
7 J- A6 e. |, }
จากที่คุณณัฐดนัย ถามมาผมขอตอบดังนี้ ผมขอยกคำกล่าวก่อนที่พุทธองค์จะเข้าสู่ปรินิพพาน คำกล่าวสุดท้ายก่อนที่ท่านจะดับขันธุ์ "อย่าประมาท" นั้นก็ทำให้เข้าใจได้ว่า ขอให้เรามีสติตั้งอยู่กับตัว อย่าหลงลืมสติ หากจะถามว่าการที่เราประคองสติไว้จนกว่าจะนอน จะเกิดบุญไหม เรื่องนี้บอกได้ว่าเป้นบุญอย่างแน่นอน บุญจะเทียบเท่าสมถะภาวนาไหม ผมว่าได้มากกว่า สมถะคือการบังคับจิตให้นิ่งไม่ไหวติง ไม่ให้ไหลตามกระแสของภายนอก  หากประคองสติไว้จะไม่ต่างอะไรกับวิปัสนา(เราต้องไม่บังคับ หากเราบังคับก็ไม่ต่างจากสมถะ) ทำให้เราเข้าใจถึงบทบาทของกาย และจิตที่ทำหน้าที่ของเขา เราพิจารณาตามสภาพจริงของเขาให้เขาทำหน้าที่ของเขาส่วนเราก็คอยดูและพิจารณา ถ้าสนใจลองศึกษาจากพระอาจารย์ปราโมทย์  ในเวปทั่วไปก็ได้ครับ

Rank: 1

สาธุครับ คุณมารน้อยทำให้ผมได้เข้าใจธรรมขึ้นอีกแล้วครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
* {' |: h( G' t. M7 ]0 ~! v1 gอนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-15 06:06 , Processed in 0.046588 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.