ตอนที่ ๖๗ ประวัติพระพาหิยทารุจิริยเถระ
ท่านพระพาหิยทารุจิริยะ เป็นบุตรของกุฎุมพี ในแว่นแคว้นพาหิยรัฐ เมื่อเจริญวัยใหญ่ขึ้นแล้ว ได้ประกอบอาชีพในทางค้าขาย ครั้งหนึ่งไปค้าขายทางจังหวัดสุพรรณภูมิโดยทางเรือ พร้อมด้วยพวกมนุษย์เป็นอันมาก
เมื่อเรือกำลังแล่นไปในท่ามกลางมหาสมุทร ยังไม่ถึงที่ต้องประสงค์ เรือได้อัปปางลงในท่ามกลางมหาสมุทร พวกมนุษย์ทั้งหมดได้เป็นภักษาแห่งปลาและเต่า ยังเหลืออยู่แต่พาหิยทารุจิริยะคนเดียว เกาะแผ่นกระดานได้แผ่นหนึ่ง อุตส่าห์พยายามแหวกว่ายไปขึ้นที่ท่าเรือชื่อว่าสุปารกะ ผ้านุ่งผ้าห่มไม่มีเหลือติดตัวเลย มองไม่เห็นอะไรที่จะทำเป็นผ้านุ่งห่ม จึงเอาเปลือกไม้บ้างใบไม้บ้างเย็บติดต่อกันเข้า ทำเป็นผ้านุ่งห่มถือกระเบื้องเที่ยวไป เพื่อขอทานอาหารเลี้ยงชีพ
พวกมนุษย์ได้เห็นแล้ว พากันสำคัญว่า ผู้นี้คงเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งเป็นแน่นอน จึงพากันให้ทานข้าวต้มข้าวสวยเป็นต้น และนำเอาผ้านุ่งผ้าห่มไปให้ แต่พาหิยทารุจิริยะคิดว่า ถ้าเราจักนุ่งห่มผ้าที่เขานำมาให้ ลาภสักการะของเราก็จักเสื่อม จึงห้ามพวกมนุษย์เสีย ไม่ให้นำผ้านุ่งผ้าห่มมาให้อีกต่อไป คงนุ่งผ้าทำด้วยเปลือกไม้ตามเดิม และมีความสำคัญว่าตนเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง
ครั้งนั้นเทวดาที่เคยบำเพ็ญสมณธรรมร่วมกันมาแต่ชาติก่อน ซึ่งไปเกิดเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาสได้เล็งเห็นอาการของพาหิยทารุจิริยะเช่นนั้น จึงได้ลงมาว่ากล่าวตักเตือนให้สติว่า ท่านไม่ใช่พระอรหันต์ ฯ ท่านไม่ได้ทำเช่นนั้น จึงรู้สึกสำนึกตัวได้ว่า ตนไม่ใช่พระอรหันต์ การทำเช่นนี้เป็นการหลอกลวงโลก ไม่เป็นการสมควรเลย
เมื่อรู้สึกตัวเช่นนั้นแล้ว จึงได้เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา ซึ่งประทับอยู่ที่พระนครสาวัตถี ได้ฟังพระธรรมเทศนาที่พระองค์ทรงแสดง มีการตักเตือนให้สำเหนียกศึกษาในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นต้น ท่านส่งใจไปตามพระธรรมเทศนา ในเวลาจบเทศนา ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล
จึงได้ทูลขอบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนากับพระบรมศาสดา พระองค์ตรัสให้ไปแสวงหาบาตรและจีวรอยู่ ในเวลานั้นเผอิญมีนางยักษิณีตนหนึ่ง จำแลงเพศเป็นแม่โคนมวิ่งมาโดยกำลังเร็วขวิดท่านปรินิพพานเสีย ไม่ทันได้อุปสมบท ฯ
พระบรมศาสดาเที่ยวไปบิณฑบาตพร้อมภิกษุเป็นอันมาก ได้ทอดพระเนตรเห็นสรีระของท่านพาหิยทารุจิริยะ จึงรับสั่งให้ภิกษุจัดแจงฌาปนกิจ แล้วก่อพระสถูปบรรจุอัฐิไว้ ภายหลังพระบรมศาสดาทรงยกย่องสรรเสริญว่า ท่านเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายฝ่ายข้างที่เป็นขิปปาภิญญา ตรัสรู้พลัน ฯ
|