ตอนที่ ๑๖ เหตุใดครุฑกับนาคจึงไม่ถูกกัน
(วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๓)
สมเด็จ : ใครมีอะไรไหม
พระเชาวน์ ญาณวีโร : เมื่อกี้นี้ กระผมถามหลวงปู่เกี่ยวกับเรื่องของพญานาคที่มาขอบวชในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ก็ไม่ให้บวช ก็เลยมุดแผ่นดินหนีไป ถามว่าแผ่นดินที่พญานาคมุดหนีไปนั้น ตรงนั้นอ่อนหรือแข็ง ทำไมมุดลงไปได้
สมเด็จ : วันนี้ก็มาคุยเรื่องสัตว์ทั้งหลายดูก่อน เพราะเหตุใดจึงมีสกุลพญานาคเกิดขึ้น เพราะเหตุใดจึงมีพญาครุฑเกิดขึ้น
อันนี้ให้ถือว่า การเทศน์ในวันนี้ เป็นการฟังนิยายเล่นๆ สนุกๆ กัน เพราะว่าธรรมะขั้นลึกซึ้งคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็มาคุยในเรื่องนิยายดีกว่า
พญานาคสี่สกุล
ในกาลครั้งหนึ่ง เทวดาทั้งหลายได้เกิดการรบกันขึ้น พระพิรุณเข้าข้างพระนารายณ์ รบกันไปจนลืมปล่อยน้ำลงมาโลกมนุษย์ มนุษยโลกเกิดความแห้งแล้งขึ้นทั่วพิภพ มนุษย์จึงร้องเรียนถึงพรหมโลก พรหมโลกได้ประชุมพร้อมกันว่า
ในขณะนี้เทวโลกได้แยกตนออกนอกมติสามโลก ตั้งเป็นเอกเทศ นี่คุยกันเรื่องสนุกๆ ฉะนั้นจะทำอย่างไรเล่า จึงจะให้มีน้ำตกลงมา เพื่อให้มนุษย์ไม่อดตาย เพื่อให้มีชีวิตอยู่ เพื่อในการใช้กรรมต่อไป พญานาคทั้งสี่สุกลนี้แหล่ ได้อาสาในการดูดน้ำเข้าท้องแล้วพ่นน้ำออกเพื่อช่วยมนุษย์ในยุคนั้น
หลังจากนั้น ก็ได้รับการประทานพรของท้าวมหาพรหม ที่จะมาปลุกเสกในวันวิสาขบูชานี้ คือท้าวมหาพรหมสามวิจิตรแห่งพรหมโลก ผู้ลืมตาที่สามเมื่อไหร่ โลกบรรลัยเมื่อนั้น เวลาที่พึ่งออกจากสมาบัติก็ได้ ประทานพรว่า ให้เหล่านาคสี่สกุลนี้ มีเอกสิทธิ์พิเศษเหนือนาคทั้งหลาย ใครเห็นก็ไม่กล้าทำลายพญานาคสี่สกุล
พญานาคที่บำเพ็ญก็สามารถแปลงเป็นคนได้ เรียกว่า แปลงกายทิพย์นี้กลายเป็นมนุษย์ขึ้นมาได้ เรียกว่าใช้พลังแห่งการบำเพ็ญมาแล้วเป็นร้อยๆ พันๆ ปี แปลงร่างขึ้นมาหลอกองค์สมณโคดม องค์สมณโคดมก็ได้รู้ด้วยญาณว่า นี่นาคแปลงร่างมาเพื่อขอบวช เมื่อภาวะแห่งการจับได้นั้นแหล่ พญานาคก็ได้แทรกลงดินไป ดินนั้นเป็นดินแข็ง แต่ทำไมนาคมุดลงไปได้ คือนาคมีหงอน ใช้หงอนขุดดินลงไป
พระเชาวน์ : แล้วดินแถวนั้นไม่พังทลายหมดหรือ
สมเด็จ : ดินแถวนั้นก็ได้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างแผ่นดินไหว นาคนั้นก็ได้มุดลงสู่ใต้บาดาล เพื่อจำศีลต่อ
พระเชาวน์ : แล้วแผ่นดินที่พญานาคขุดลงไปนั้น ดินตรงนั้นคงจะไม่เรียบเหมือนเดิม คงจะเป็นหลุมเป็นบ่อไปเลย
สมเด็จ : ในการนั้นก็ได้เกิดเป็นหลุมเป็นบ่อขึ้นมา องค์สมณโคดมก็ได้ใช้ฤทธิ์เดชแห่งเตโชกสิณ ปฐวีกสิณ ทำลายภูเขามาถมดินนั้นให้เรียบ
พระเชาวน์ : พญานาคขุดดินลงไปอย่างนั้น ถ้ามีหลายๆ ตัว แผ่นดินก็ถล่มทลายไปตามๆ กัน
สมเด็จ : ถ้ามีหลายตัวแผ่นดินก็ถล่มทลาย ทีนี้เรียกว่า ผู้มีฤทธิ์ต่อผู้มีฤทธิ์ แต่ในการสำเร็จเป็นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งยุค ย่อมมีฤทธิ์เหนือกว่า ฉะนั้น ในการรวมกระแสฌานญาณทิพย์แห่งองค์สมณโคดม ก็สามารถต้านในการสั่นสะเทือนของแผ่นดินได้
ปัจจุบันยังมีพญานาคหรือไม่
พระเชาวน์ : แล้วพญานาคนี่ ปัจจุบันยังมีอยู่ไหมครับ
สมเด็จ : ปัจจุบันยังมีอยู่ แต่ไม่มาก และก็ไม่มีฤทธิ์เดชเหมือนในยุคนั้น
พระเชาวน์ : ที่ว่าพญานาคสี่ตระกูล ที่ครุฑไม่กล้ากินน่ะ ชื่ออะไรบ้าง
สมเด็จ : คือ พญานาควิรูปักษ์ และอีกชื่อหนึ่งที่เขาเรียก เป็นภาษาที่เขาตั้งขึ้นในยุคนี้ และในจักรวาล เป็นแฉกสามแฉกตรงกลาง นั่นคือ พญานาคสกุลวิรูปักษ์มาเกิดเป็นงู
พระเชาวน์ : ตราประทับนั้น รอยประทับนั้น มันเป็นรอยบุ๋มลงไปอย่างนั้นหรือ
สมเด็จ : เป็นรอยบุ๋ม
พระเชาวน์ : ไม่ใช่เป็นเพียงลวดลายเฉยๆ นะ
สมเด็จ : ไม่ใช่ เป็นรอยคล้ายๆ รอยประทับ นี่คือได้รับการประทับประทานพร จากท้าวมหาพรหมสามวิจิตร
ที่อยู่ของพญานาค
พระเชาวน์ : ที่ว่าพญานาคยังมีอยู่นี่ เราจะไปดูได้ที่ไหนครับ
สมเด็จ : ในดินแดนแห่งสยามนี้ ดูเหมือนจะไม่มี ต้องไปโน่น เทือกเขามองโกเลีย
พระเชาวน์ : โอ้โฮ...แล้วที่อยู่ของพญานาค อยู่ที่ไหนครับ
สมเด็จ : ส่วนมากอยู่ใต้บาดาล อยู่ในถ้ำใต้น้ำ
พระเชาวน์ : พญานาคตัวหนึ่งนี่ ยาวสักแค่ไหนครับ
สมเด็จ : พญานาคนี้มีหลายจำพวก ถ้าอยู่เป็นห้าร้อยปี พันปี จะยาวหกวา
พระเชาวน์ : หกวาไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ แล้วเขาว่าพญานาคนี่ มันมีลูกแก้วจริงไหมครับ
สมเด็จ : ไอ้เรื่องนั้น มนุษย์ต่อเติมให้มันเป็นเรื่องอภินิหารเข้าไป
ทำไมครุฑจึงกินพญานาค
พระเชาวน์ : พญานาคนี่ เขาว่าเป็นอาหารของครุฑจริงหรือครับ
สมเด็จ : อันนี้ต้องเข้าไปสู่ในหลักแห่งศาสนาพราหมณ์ ซึ่งในตำราว่า สัตว์สองสกุลนี้ พญานาคกับพญาครุฑเป็นพี่น้องกัน อาศัยอยู่ในถ้ำหน้าเขาคิชฌกูฏ ทีนี้ พระอาทิตย์จะขี้ม้าทรง ทุกๆ วัน จะมาจบที่หน้าเขาคิชฌกูฏ อันเป็นที่อยู่ของพี่น้องนี้ พญาครุฑก็บอกว่า กายของพระอาทิตย์เป็นสีแดง พญานาคบอกว่า กายของพระอาทิตย์เป็นสีเขียว
ทีนี้ได้โต้กันไปกันมา ก็ได้เกิดการพนันขันต่อกัน พญานาคบอกว่า ถ้าฉันแพ้เธอ ฉันจะให้เธอกินเป็นอาหาร ถ้าเธอแพ้ฉัน เธอจะต้องให้ฉันคล้องคอไปไหนต่อไหน ไม่ต้องเลื้อย ให้พญาครุฑเหาะพาไป ก็ได้ไปดูในที่ใกล้ๆ ปรากฏว่า พระอาทิตย์เป็นสีแดง ขี่ม้าแดงขาว แต่ตัวเป็นสีแดง ก็เป็นอันว่าพญาครุฑชนะ พญานาคก็ได้รักษาสัจจะ พญานาคก็ให้พญาครุฑกินเป็นอาหารตั้งแต่นั้นมา นี่เป็นตำราทางพราหมณ์ เขาว่ากันในยุคนั้น แต่การแห่งความจริงแล้ว เป็นการสาปแห่งคู่แค้นอาฆาตจากโลกวิญญาณ
พระเชาวน์ : พญาครุฑที่กินพญานาคนั่นน่ะ กินหมดทั้งตัว หรือกินบางส่วนของพญานาคครับ
สมเด็จ : อันนี้แล้วแต่ความพอใจ บางทีก็จะกินหัว บางทีก็จะกินตรงกลาง บางทีก็จะกินหาง แล้วแต่เขาเลือก พญาครุฑตัวหนึ่งจะกินพญานาคหมดทั้งตัว แล้วมันจะบินไม่ไหว
พระเชาวน์ : แล้วอาหารของพญานาคนั่นน่ะ กินอะไร
สมเด็จ : พญานาคกินสัตว์เล็กสัตว์น้อย ทั้งปลาทั้งคางคก อะไรทั้งหมดที่เป็นสัตว์
พระเชาวน์ : พญาครุฑโตสักแค่ไหนครับ
สมเด็จ : ก็เทียบเท่าๆ นกอะไรที่ตาโตๆ
พระเชาวน์ : นกเค้าแมวใช่ไหมครับ ตัวแค่นั้นเองน่ะหรือ แล้วไปกินนาคตัวยาวหกวาได้อย่างไร
สมเด็จ : ก็กินบางส่วน อาตมาบอกแล้วว่าไม่ได้กินหมด กินส่วนหัวนิดหนึ่ง กินส่วนหางนิดหนึ่ง กินส่วนกลางนิดหนึ่ง นี่แล้วแต่ความพอใจ ความฉันทะ
พระเชาวน์ : แล้วจะไปฆ่าพญานาคได้อย่างไร
สมเด็จ : อันนี้ก็เป็นการตกลงกัน ไม่ต้องฆ่า หมายความว่า เธอเห็นฉันที่ไหน เธอเข้ามากินฉันได้เลย ฉันไม่สู้
พญาครุฑมีจริงหรือ
พระเชาวน์ : เรียกว่า ยอมให้กินเฉยๆ พญาครุฑนี่รูปร่างลักษณะเหมือนนกอะไรครับ
สมเด็จ : ก็เหมือนนกเค้าแมวยังไงเล่า
พระเชาวน์ : แล้วออกเฉพาะกลางคืน หรือออกทั้งกลางวันกลางคืน
สมเด็จ : ครุฑนี่ไม่เลือก ออกทั้งกลางวันกลางคืน เรื่องครุฑนี่มันเรื่องยาว ครุฑนี่เกิดมากที่ประเทศเกาหลี เป็นต้นตระกูลครุฑเกิด
พระเชาวน์ : ประเทศเกาหลี เวลานี้ยังมีครุฑอีกไหม
สมเด็จ : ก็มีอยู่บ้าง แต่ไม่มาก และอยู่บนยอดเขา ที่ไม่มีใครขึ้นไป เป็นป่า
พระเชาวน์ : จะหาดูได้ที่ไหนบ้าง ครุฑนี่
สมเด็จ : ในขณะนี้หาดูยาก ต้องไปดูยอดเขาโน้น
พระเชาวน์ : หน้าตาของครุฑเหมือนนกเค้าแมวอย่างนั้นหรือ หรือไม่เหมือน
สมเด็จ : คือตาหน้าพิสดารกว่านกเค้าแมว แต่ตานั้นคล้ายตามนุษย์
พระเชาวน์ : ตายาวๆ ไม่กลม แล้วพูดภาษาคนได้หรือครับ
สมเด็จ : ภาษาคนยังพูดไม่ได้
พระเชาวน์ : เขาว่าครุฑนี่แปลงเป็นคนได้จริงไหม
สมเด็จ : ต้องพวกครุฑจำศีล ใช้พลังจิตบังคับกายทิพย์ อย่าลืม ถ้าหมาแมว ฝึกในการจำศีลเป็นเวลานานๆ ปีได้ แล้วตัวของเขา วิญญาณของเขายินดีบำเพ็ญ มันก็สามารถใช้กายทิพย์แปลงออกมา เป็นรูปร่างของการเป็นมนุษย์ เป็นอะไรก็ได้ คือ ถ้าสามารถปฏิบัติจิต ในการถอดวิญญาณกับขันธ์นี้ออกได้แล้ว ท่านย่อมสามารถจะทำอะไรก็ได้ โดยเรียกว่า ไม่ผิดกฎของโลกวิญญาณ
พระเชาวน์ : เขาว่าพญานาคแปลงเป็นคนได้จริงหรือ
สมเด็จ : อันนี้ อยู่ที่การบำเพ็ญบารมีของเขาแต่ละตัวๆ จะบำเพ็ญกี่ปี มีความรักษาศีลสมาธิขนาดไหน การกลายเป็นคนก็ใช้กายทิพย์นั่นเอง ไม่ใช่รูปร่างพญานาคนั้นกลายเป็นคน คือ ถอดวิญญาณนั้นออกมา
เอาละ วันนี้คุยกันแต่เรื่องนาค ครุฑ สงสัยงวดนี้ มีครุฑ มีนาค
หมายเหตุ ขอให้ท่านอ่านประกอบเป็นความรู้ อย่าจริงจังยึดมั่นถือมั่นกันนัก แล้วจะสบายใจ
|